สารอาหารสำหรับผู้มีปัญหา มะเร็ง เบาหวาน ความดัน โรคปอด โรคตับ โรคไต

สารอาหารสำหรับผู้มีปัญหา มะเร็ง เบาหวาน ความดัน โรคปอด โรคตับ โรคไต จำหน่ายมาหลายทศวรรษ กว่า 50 ประเทศ
มี?

19/01/2021

คิดจะสู้ ก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด อย่าให้ใครมากำหนดชะตาชีวิตของเรา
ลองตัวอื่นมาไม่เห็นผล เปิดใจอีกสักครั้ง แล้วคุณจะบอกว่าโชคดีที่ได้มาเจอ
💪 สู้ เพื่อคนที่คุณรัก
👍 สู้เพื่อ ตัวคุณเอง
👨‍👩‍👦 สู้เพื่อ คนที่รักคุณ
สารอาหารจากธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมของเคมี เป็นสารอาหารที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้
เหมาะกับใคร ? ผู้ที่ผ่านการทำเคมีบำบัด
ผู้ป่วยมะเร็ง
ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ 097-048-9435
หรือคลิ๊ก 👉https://lin.ee/5xYiMgC

เอ็มเอ็กซ์ โปรตีน (รสช็อกโกแลต) เป็นโปรตีนชนิด ไอโซเลต ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันในการสกัดสารโปรตีนจากพืช ทำให้ได...
13/01/2021

เอ็มเอ็กซ์ โปรตีน (รสช็อกโกแลต) เป็นโปรตีนชนิด ไอโซเลต ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันในการสกัดสารโปรตีนจากพืช ทำให้ได้โปรตีนชนิดที่มีความเข้มข้นสูงกว่า 90% ซึ่งร่างกายดูดซึมได้เร็ว สามารถนำไปใช้ในการสร้างพลังงานได้ทันที

จึงเหมาะกับผู้ที่สุขภาพไม่แข็งแรงและผู้สูงอายุที่ร่างกายต้องการนำสารอาหารไปใช้แต่ร่างกายสามารถดูดซึมได้น้อย

และมีกรดอะมิโน BCAAs ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องออกกำลังกายเพื่อต้องการสร้างกล้ามเนื้อ โดยโปรตีนที่คัดสรรมาเป็นส่วนประกอบได้มาจากโปรตีนจากพืช 100% จึงเหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ

แพทย์เผย 10 ปัจจัยเสี่ยง เป็นมะเร็งกระเพาะ1.เคยได้รับการผ่าตัด มะเร็งกระเพาะอาหาร หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคโลหิตจางบางช...
13/01/2021

แพทย์เผย 10 ปัจจัยเสี่ยง เป็นมะเร็งกระเพาะ

1.เคยได้รับการผ่าตัด มะเร็งกระเพาะอาหาร หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคโลหิตจางบางชนิด หรือ โรคกระเพาะอักเสบเรื้อรัง

2. อาหารประเภทหมักดอง ตากเค็ม รมควัน อาจเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะได้มากขึ้น

3. การติดเชื้อแบคทีเรีย Heliclbactor pylori ซึ่งเป็นเชื้อที่เกิดอาการอักเสบและแผลในกระเพาะอาหารได้ อาจตะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งกระเพาะได้

4.ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย. ประกอบอาชีพที่ต้องสัมผัสกับฝุ่นและสารเคมี

5. พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ดื่มน้ำอัดลม ไม่ค่อยทานผักและผลไม้

6. ภาวะอ้วน ลงพุง น้ำหนักเกิน

7. อายุ เมื่ออายุมากขึ้น โอกาสเป็นมะเร็งกระเพาะมากขึ้น

8. ผู้ชายมีโอกาสเป็นมะเร็งกระเพาะ มากกว่าผู้หญิง 2 เท่า

9. มีประวัติญาติเคยเป็นมะเร็งกระเพามาก่อน

10. เชื้อชาติ. พบมากในคนเอเชียมากกว่ายุโรป หรืออเมริกา

 #สูตรเด็ด64ชนิดน้ำผักและน้ำผลไม้ป้องกันมะเร็งการรักษาโดยไม่ใช้ยา หรือที่เรียกว่า “ธรรมชาติบำบัด” ในปัจจุบันได้รับความนิ...
18/12/2020

#สูตรเด็ด64ชนิดน้ำผักและน้ำผลไม้ป้องกันมะเร็ง

การรักษาโดยไม่ใช้ยา หรือที่เรียกว่า “ธรรมชาติบำบัด” ในปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการดื่มน้ำผักผลไม้สดที่กลายเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการธรรมชาติบำบัด ไม่ว่าจะเพื่อการรักษาอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย โรคที่รักษายาก หรือโรคเรื้อรัง น้ำผักผลไม้สดก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยทำให้มีสุขภาพดีเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นอีกด้วย เนื่องจากน้ำผักผลไม้อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ในการบำรุงสุขภาพ และช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ

วิธีการทำน้ำผักผลไม้ คือ การทำให้น้ำและกากแยกออกจากกัน ซึ่งเราเรียกว่าการคั้น ประโยชน์ที่ได้จากการคั้นก็คือ กากในผกผลไม้ที่ย่อยไม่ได้จะถูกแยกออกไป เหลือเพียงแต่น้ำที่มีแต่สารอาหารล้วน ๆ จึงมีความเข้มข้นกว่าการรับประทานสดด้วยวิธีปกติ เช่น เมื่อเรารับประทานแครอทแบบสด ๆ ร่างกายของเราจะดูดซึมเบต้าแคโรทีนได้เพียง 1% ส่วนที่เหลืออีก 99% จะจับอยู่กับกากใย แต่ถ้าเป็นการคั้นน้ำแครอท กากใยเหล่านั้นจะถูกแยกออกไป คุณจึงได้รับเบต้าแคโรทีนเกือบ 100% คุณจึงมั่นใจได้ว่าการคั้นน้ำผักผลไม้ดื่มทุกวัน ร่างกายของคุณจะได้รับวิตามิน เกลือแร่ และเอนไซม์เต็ม ๆ

#น้ำผลไม้

น้ําผลไม้เพื่อสุขภาพ คือ ของเหลวที่อยู่ในเนื้อเยื่อของผลไม้ตามธรรมชาติ น้ำผลไม้จะได้มาจากการนำผลไม้ไปคั้นหรือปั่นผลไม้เหล่านั้นโดยไม่ใช้ความร้อนหรือตัวทำละลาย ซึ่งน้ำผลไม้สำเร็จรูปที่วางขายหลายยี่ห้อจะถูกกรองเอากากใยอาหารออก แต่น้ำผลไม้ที่มีเนื้อก็ยังคงเป็นเครื่องดื่มที่นิยม โดยอาจขายในรูปแบบเข้มข้น ซึ่งจำเป็นต้องเติมน้ำเพื่อลดความเข้มข้นจนกระทั้งอยู่ในสถานะปกติ โดยน้ำผลไม้แบบเข้มข้นมักจะมีรสชาติที่ต่างจากน้ำผลไม้คั้นสดอย่างชัดเจน
1.น้ำกล้วย – กล้วย เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินเอ ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ซึ่งล้วนแต่เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและประสาท ช่วยควบคุมความดันโลหิต เพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความแข็งแรงสมบูรณ์ให้แก่ร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ

2.น้ำกีวี่ – กีวี่อุดมไปด้วยวิตามินซี, คลอโรฟิลล์, ไฟโตเคมิคอล (Phytochemical), และแอคทินิดิน ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้หัวใจมีสุขภาพดี และช่วยลดความดันโลหิต

3.น้ำเกรปฟรุต – น้ำผลไม้รสเปรี้ยวที่มีคุณสมบุติช่วยเผาผลาญไขมันและช่วยลดระดับอินซูลินซึ่งเป็นตัวการของน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น การดื่มน้ำเกรปฟรุตคั้นสดก่อนมื้ออาหารทุกมือ จะช่วยทำให้น้ำหนักตัวลดลงมากกว่า 1.5 กิโลกรัม ภายใน 3 เดือน โดยที่ไม่ต้องลดอาหารหรือไดเอ็ทเลย

4.น้ำแครนเบอร์รี่ – น้ำผลไม้ชนิดนี้จะมีวิตามินซีสูง สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และยังพบว่าน้ำแครนเบอร์รี่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้ออีโคไลที่อยู่ในกระเพาะปัสสาวะได้อีกด้วย

5.น้ำแตงโม – แตงโมมีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา และมีวิตามินซีที่ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยแก้อาการร้อนในกระหายน้ำ ปากเป็นแผล รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ทำให้สบายท้อง ช่วยลดความดันโลหิต และช่วยขับปัสสาวะ

6.น้ำแตงชนิดต่าง ๆ (แคนตาลูป เมล่อน แตงญี่ปุ่น) – จัดเป็นน้ำผลไม้ล้างพิษในร่างกาย มีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ มีคุณสมบัติที่มีเนื้อฉ่ำน้ำ จึงเหมาะที่จะรับประทานในยามที่ร่างกายสูญเสียน้ำ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้อีกด้วย

7.น้ำเชอร์รี่ – เชอร์รี่มีวิตามินซีสูงมาก จึงช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอวัย ดูแลความงาม และช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง

8.น้ำฝรั่ง – ฝรั่ง มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน มีสารเบต้าแคโรทีนที่ช่วยลดสารพิษในร่างกาย ช่วยละระดับไขมันในเลือด ช่วยป้องกันการจับตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือดซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดแข็งตัว จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยเส้นเลือดอุดตัน อีกทั้งยังช่วยชะลอการลุกลามของเซลล์มะเร็ง ทำให้แผลหายเร็ว กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันหวัดได้อีกด้วย

9.น้ำบลูเบอร์รี่ – เป็นผลไม้ที่เปี่ยมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซี จึงช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวมได้เป็นอย่างดี และยังมีผลดีต่อระบบการไหลเวียนของเลือด มีประโยชน์ต่อระบบหลอดเลือดหัวใจ

10.น้ำทับทิม – ทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่แทบจะครบทุกชนิด จึงมีประโยชน์อย่างมากสำหรับการป้องกันโรคมะเร็ง

11.น้ำลูกแพร์ – อีกหนึ่งน้ำผลไม้ที่มีสรรพคุณยอดเยี่ยมในการช่วยเสริมสร้างสุขภาพ เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซี แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม ในปริมาณที่สูง ซึ่งวิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายแทบทั้งสิ้น

12.น้ำมะขาม – มะขามมีวิตามินที่ช่วยบำรุงสายตา มีวิตามินซีที่ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน มีแคลเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูก นอกจากนี้มะขามยังมีสรรพคุณเป็นยาแก้ไอ ช่วยขับเสมหะ เป็นยาระบายท้อง จึงช่วยในการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี และยังช่วยลดอาการของโรคโลหิตจางได้อีกด้วย

13.น้ำมะเฟือง – มะเฟืองมีวิตามินที่ช่วยบำรุงสายตา มีวิตามินซี ช่วยชะลอวัย ป้องกันอันมูลอิสระ ต่อต้านสารก่อมะเร็ง ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน มีฟอสฟอรัสและแคลเซียมเล็กน้อย สามารถช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงได้ นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจให้สม่ำเสมอ ช่วยควบคุมกล้ามเนื้อ ทำให้เลือดแข็งตัวได้ง่าย มีฤทธิ์กล่อมประสาท ช่วยระงับความฟุ้งซ่าน จึงช่วยทำให้นอนหลีบได้ง่ายขึ้น ช่วยแก้ร้อนใน ดับกระหาย ลดความร้อนในร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการของนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ช่วยขับปัสสาวะ ขับเสมหะ และช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง

14.น้ำมะม่วง – มะม่วง มีวิตามินเอและวิตามินซีสูงมาก ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน และมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ นอกจากนี้มะม่วงยังมีฟอสฟอรัส แคลเซียม และธาตุเหล็กเล็กน้อย นอกจากนี้ยังช่วยทำความสะอาดโลหิตอันจะทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น และยังช่วยบำรุงไตได้อีกด้วย

15.น้ำมะนาว – มะนาวมีวิตามินสูง ช่วยลดความเสื่อมวัยของร่างกาย ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยนำโปรตีนเข้าไปใช้งานในเซลล์ ช่วยบำรุงผิวพรรณ บำรุงสายตา ช่วยลดอาการไอ ขับเสมหะ แก้อาการเจ็บคอ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ตาแดง เหงือกบวม แก้ลิ้นเป็นฝ้า แก้เมาเหล้า แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยขับลมในกระเพาะ ช่วยขจัดคราบบุหรี่

16.น้ำมะละกอ – มีประโยชน์ช่วยทำความสะอาดลำไส้และช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยทำให้ของเสียที่เป็นโปรตีนแตกตัวได้เร็วขึ้น และยังเชื่อกันว่ามะละกอสามารถช่วยลดอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย

17.น้ำเลมอน – การดื่มน้ำเลมอนคั้นสด 1 แก้ว จะช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำดีได้มากขึ้น ส่งผลให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้อย่างเป็นปกติตลอดทั้งวัน และยังพบว่าผู้ป่วยติดเชื้อทางเดินปัสสาวะที่ดื่มน้ำเลมอนเป็นประจำทุกวันจะช่วยลดขนาดก้อนนิ่วในไตได้ เนื่องจากมีฤทธิ์ละลายก้อนนิ่วในถุงน้ำดีและไต แล้วขับออกมาทางปัสสาวะ ช่วยทำให้อัตราของกรดฟอสฟอริกในปัสสาวะลดจาก 1% เหลือ 0.13% ซึ่งเป็นผลดีกับร่างกาย รวมทั้งการช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย

18.น้ำราสเบอร์รี่ – มีผลดีต่อระบบการไหลเวียนของเลือด มีประโยชน์ต่อระบบหลอดเลือดหัวใจ งช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน

19.น้ำส้ม – ส้มวิตามินในปริมาณมาก อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มอัตราการไหลเวียนของเลือดในร่างกายและอัตราการดูดซึมสารอาหาร ช่วยบำรุงสายตา มีวิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและต้านเชื้อโรค ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ป้องกันโรคโลหิตจาง นอกจากนั้นยังมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ช่วยในการบำรุงกระดูกและฟัน มีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยลดระดับไขมันร้าย (LDL) และช่วยเพิ่มไขมันดี (HDL) ที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย จึงส่งผลต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายลดต่ำลง และยังพบว่าน้ำส้มคั้นสดมีส่วนช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันโรคหัวใจ และช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนของโลหิตและหลอดเลือด

20.น้ำสับปะรด – สับปะรดมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง จึงช่วยบำรุงกระดูกและฟัน และยังมีวิตามินซีที่ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเหงือกอักเสบ โรคปริทันต์หรือรำมะนาด มีสรรพคุณทางยาช่วยในการย่อยอาหาร ลดอาการแน่นท้อง ช่วยขับปัสสาวะ ลดอาการแผลร้อนในปาก ลดอาการอักเสบบวม ช่วยซ้อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอในร่างกาย ช่วยบำรุงข้อต่อในอวัยวะต่าง ๆ ช่วยบรรเทาอาการของโรคไซนัสอักเสบ โรคหลอดลมอักเสบ โรคไขข้ออักเสบ ช่วยลดอาการบวมอักเสบของข้อต่อที่หัวไหล่ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้อาการไม่เรื้อรัง

21.น้ำสตรอเบอร์รี่ – น้ำผลไม้ที่มีผลดีต่อระบบการไหลเวียนของเลือด มีประโยชน์ต่อระบบหลอดเลือดหัวใจ และยังช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้อีกด้วย

22.น้ำองุ่น – น้ำผลไม้สีม่วงสามารถช่วยป้องกันไม่เซลล์สมองเสื่อมและช่วยในเรื่องความจำได้ดี อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นตัวช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย ช่วยเสริมสร้างเซลล์ในร่างกาย และบำรุงโลหิต

23.น้ำองุ่นคอนคอร์ด (Concord Grape Juice) – องุ่นพันธุ์นี้มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มาก จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงหัวใจ และช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ดี

24.น้ำอะโวคาโด – อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ยับยั้งการก่อมะเร็ง เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย อีกทั้งยังมีวิตามินอีสูง จึงช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยงามชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ร่างกายย่อยและเผาผลาญไขมันได้ดีอีกด้วย

25.น้ำแอปริคอต – ผลไม้ที่อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี มีประโยชน์ในด้านการบำรุงผิวพรรณให้สดชื่นและมีสุขภาพดี และยังช่วยป้องกันมะเร็งและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายอีกด้วย

#น้ำผัก

1.น้ำกระเจี๊ยบแดง – กระเจี๊ยบมีวิตามินเอสูงมาก จึงช่วยในการบำรุงสายตา และมีแคลเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ส่วนสรรพคุณทางยา กระเจี๊ยบมีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยขับปัสสาวะ และแก้อาการกระหายน้ำ

2.น้ำกะเพราแดง – มีประโยชน์ในด้านการช่วยขับลม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ปวดท้อง ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย

3.น้ำขิง – ขิงมีแคลเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน มีสารเบต้าแคโรทีนที่ช่วยต้านมะเร็ง มีสรรพคุณทางยาที่ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยขับลม ขับเสมหะ ช่วยแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน เมารถเมาเรือ ช่วยทำให้เจริญอาหาร ช่วยลดการจับตัวของลิ่มเลือดและน้ำย่อยต่าง ๆ ช่วยต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังนิยมดื่มน้ำขิงเพื่อไล่พิษไข้ เพื่อให้ไข้หวัดอาการทุเลาลงได้เป็นอย่างดี ส่วนคนที่มีอาการไอหรือมีเสมหะมาก การดื่มน้ำขิงหรือใช้กวาดคอก็จะช่วยบรรเทาอาการได้

4.น้ำข่า – ข่า มีสรรพคุณช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยขับลมได้เป็นอย่างดี แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อเรอเปรี้ยว ระบายลมออกจากลำไส้

5.น้ำขึ้นฉ่ายฝรั่ง (Celery) – มีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดทางเดินปัสสาวะ ช่วยขับปัสสาวะได้ดี และเป็นผักที่ช่วยล้างพิษออกจากร่างกายได้ดีชนิดหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นผักที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ แต่มีโพแทสเซียมสูง จึงช่วยลดความดันโลหิตได้

6.น้ำคะน้า – คะน้ามีวิตามินเอสูง จึงช่วยในการบำรุงสายตา และยังเป็นแหล่งของสารเบต้าแคโรทีนที่เป็นสารยับยั้งมะเร็ง มีวิตามินซีที่ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยชะลอวัย ทำให้เนื้อเยื่อในร่างกายทำงานได้ดี และยังมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ช่วยบำรุงกระดูก มีสรรพคุณทางยาที่ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง แก้อาการร้อนกระหายน้ำ และช่วยลดระดับอุณหภูมิในร่างกาย

7.น้ำแครอท – เป็นน้ำผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยแคลเซียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียม รวมไปถึงแคโรทีนที่สามารุเปลี่ยนวิตามินเอภายในร่างกายและช่วยดูดซึมไปใช้ได้ทันที และน้ำแครอทยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยป้องกันและต่อต้านโรคมะเร็งได้

8.น้ำผักต่าง ๆ (ผักชี สะระแหน่ โหระพา) – มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นความอยากอาการ ช่วยในการหลั่งน้ำย่อย มีสารเบต้าแคโรทีนและวิตามินซี ที่ช่วยรักษาอาการหวัดได้

9.น้ำผักกาดหอม, น้ำผักกาดขาว, น้ำผักกาดหวาน – อุดมไปด้วยวิตามินซี ฟลาโวนอยด์ เบต้าแคโรทีน และกรดโฟลิค มีประโยชน์ช่วยทำความสะอาดทางเดินอาหาร มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค ช่วยกระตุ้นการทำงานของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ ส่วนผักกาดหอมมีประโยชน์ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด

10.น้ำผักโขม – ผักโขมมีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมเนื่องจากอายุมาก เพราะมีสารที่ช่วยสร้างระบบป้องกันสารสีในดวงตา นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความจำเสื่อมได้อีกด้วย

11.น้ำตะไคร้หอม – ตะไคร้มีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ อาการจุกเสียด ช่วยขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ ช่วยลดความดันโลหิต และช่วยลดพิษของสารแปลกปลอม

12.น้ำต้นกล้าข้าวสารีอ่อน (Wheatgrass) – ข้าวสารีอ่อนเป็นพืชที่มีคลอโรฟิลล์มากถึง 70% อุดมไปด้วยออกซิเจน ช่วยส่งเสริมการทำงานของร่างกายและสมอง ช่วยฟื้นฟูระบบหมุนเวียนโลหิต มีคุณสมบัติช่วยล้างพิษและสารเคมีออกจากร่างกาย ช่วยทำความสะอาดตับ ลดระดับน้ำตาลในเลือด มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียทำให้แผลหายเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยรักษาสิว ทำให้ผมดกดำ ลดกลิ่นปาก กลิ่นตัว และยังอุดมไปด้วยเอนไซม์ที่ดีต่อสุขภาพอีกหลายชนิด

13.น้ำชะพลู – มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่หลายชนิด ช่วยบำรุงธาตุ แก้ธาตุพิการ ทำให้เจริญอาหาร บำรุงและรักษาสายตา บำรุงกระดูกและฟัน ช่วยยับยั้งและชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง และช่วยรักษาโรคเบาหวาน

14.น้ำดอกคำฝอย – ดอกคำฝอยมีสรรพคุณเป็นยาลดไขมันในเลือด ป้องกันไขมันอุดตัน ลดความดันโลหิตสูง บำรุงโลหิต บำรุงประสาท ช่วยขับเหงื่อ เป็นยาระบายอ่อน ๆ

15.น้ำดอกอัญชัน – มีสารอาหารให้สารสีฟ้า ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันความเสื่อมของร่างกาย ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันอันตรายจากแสงจ้า และช่วยบำรุงเส้นผมให้มีสีเข้มเสมอ

16.น้ำใบบัวบก – บัวบกมีวิตามินเอสูงมาก จึงช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีแคลเซียมที่สูงมากเช่นกัน และยังมีวิตามินบี1 ที่สูงกว่าผักทั่วไปหลายชนิด การดื่มน้ำใบบัวบกจะช่วยแก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้อาการช้ำใน ฟกช้ำได้ดี และยังช่วยลดอาการปวดศีรษะข้างเดียว ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้าได้ดี บำรุงหัวใจ บำรุงสมอง ช่วยขับปัสสาวะ และการดื่มน้ำใบบัวบักทุกวันประมาณ 1 อาทิตย์ ความดันโลหิตสูงจะลดลง นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ทำลายเซลล์มะเร็ง ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยลดการอักเสบ ช่วยในการไหลเวียนของโลหิต และทำให้เลือดแข็งตัวเร็ว

17.น้ำบร็อคโคลี่ – อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันมะเร็งปอด มะเร็งทรวงอก และมะเร็งลำไส้ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในการช่วยควบคุมระดับอินซูลินและน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย

18.น้ำตำลึง – ตำลึงมีวิตามินเอสูง จึงช่วยบำรุงสายตา มีวิตามินซีที่ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ช่วยบำรุงกระดูก นอกจากนี้ตำลึงยังมีสรรำคุณชวยป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจขาดเลือด และโรคมะเร็งได้อีกด้วย

19.น้ำใบเตย – น้ำใบเตยมีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ และทำให้ชุ่มชื่น

20.น้ำบีทรูท – บีทรูทมีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และอุดมไปด้วยวิตามินซี ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ที่ช่วยรักษาผู้ป่วยที่สมาธิสั้นหรือมีอาการสูญเสียความทรงจำ ขยายหลอดเลือดและกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตให้ไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ช่วยลดความเสียหายภายในร่างกายของผู้หญิงที่มีปัญหาการปวดประจำเดือน และยังพบว่าผู้ที่ดื่มน้ำบีทรูทคั้นสดทุกเช้าจะมีระดับความดันโลหิตในสมองที่ลดต่ำลงและมีความจำที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยขจัดสารพิษออกจากรางกาย ทำให้หลอดเลือดสะอาด ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ช่วยทำให้ตับและไตทำงานได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นและเพิ่มความแข็งแรงให้กับลำไส้ใหญ่ และช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีอีกด้วย

21.น้ำฟักทอง – ฟักทองอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน ช่วยป้องกันมะเร็ง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิต ช่วยบำรุงนัยน์ตา บำรุงตับและไต ช่วยสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ที่ตายไปทำให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

22.น้ำมะเขือเทศ – มะเขือเทศมีเบต้าแคโรทีนสูงมาก จึงช่วยบำรุงสายตา ต่อต้านมะเร็ง (โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก) มีวิตามินซีสูงที่่่ช่วยเสริมภูมิต้านทางให้กับร่างกาย ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ผ่องใส ทำให้ผิวไม่เหี่ยวย่น ช่วยในการย่อยอาหาร ฟอกเลือด ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ ทำให้สดชื่น เป็นยาดับร้อนถอนพิษ แก้แผลร้อนในช่องปาก ทำให้เลือดเย็น นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี1 ซึ่งเป็นอาหารที่สำคัญในต่อพัฒนาการทางสมอง และยังพบไลโคปีนที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง จึงช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ดี ในปัจจุบันพบว่ามะเขือเทศมีฤทธิ์ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง และยังเป็นอาหารของผู้ป่วยโรคหัวใจ ความดันโลหิต และโรคตับอักเสบ เพราะการรับประทานเป็นประจำจะช่วยลดอาการของโรคดังกล่าวได้

23.น้ำมะระ – รสขมของมะระสามารถช่วยกระตุ้นน้ำย่อยให้ออกมามากกว่าปกติ จึงช่วยทำให้เจริญอาหาร และยังมีวิตามินและแร่ธาตุสำคัญอีกหลายชนิด ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ นอกจากนี้ยังเป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยขับพยาธิ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยบำรุงน้ำดี แก้ตับ ม้ามอักเสบ และแก้อาการอักเสบจากพิษต่าง ๆ

24.น้ำมะระขี้นก – มะระขี้นกมีวิตามินเอสูงมาก จึงช่วยบำรุงสายตา ช่วยลดกรเกิดต้อกระจกซึ่งอาการจากเบาหวาน และมีสรรพคุณเป็นยาเจริญอาหาร แก้ไข้ ลดไข้ ช่วยบำรุงร่างกาย เป็นยาระบาย ช่วยรักษาเบาหวาน ลดระดับน้ำตาลในเลือด แก้ปากเปื่อย ปากเป็นขุย บำรุงประจำเดือน

25.น้ำลูกเดือย – ลูกเดือยมีฟอสฟอรัสสูงมาก จึงช่วยบำรุงกระดูกได้เป็นอย่างดี รองลงมาคือมีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา บำรุงธาตุในร่างกาย ช่วยทำให้เจริญอาหาร เป็นอาหารสำหรับคนฟื้นไข้ มีฤทธิ์เป็นยาเย็น ช่วยแก้อาการร้อนใน เป็นยาขับปัสสาวะ บำรุงม้าม ไต และกระเพาะอาหาร รวมทั้งยังช่วยบำรุงเลือดลมสำหรับสตรีหลังคลอด แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน

26.น้ำฟ้าทะลายโจร – มีสรรพคุณเป็นยาแก้ร้อนใน เจ็บคอ ตัวร้อน ปวดศีรษะ แก้ไข้หวัด ช่วยทำให้เจริญอาหาร รักษาโรคภูมิแพ้ (ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่มีความดันต่ำและมีอาการท้องอืด ท้องแน่น อาหารไม่ย่อย)

27.น้ำมะตูม – มะตูมมีสรรพคุณเป็นยาระบาย ช่วยขับลม แก้อาการท้องอืดเฟ้อ ช่วยในการย่อยอาหาร ทำให้ขับถ่ายดี ช่วยบำรุงธาตุ ทำให้เจริญอาหาร ขับเสมหะ และช่วยแก้อาการร้อนในได้ดี

28.น้ำว่านหางจระเข้ – ว่านหางจระเข้มีประโยชน์ในเรื่องการช่วยบำรุงร่างกาย แก้อาการอ่อนเพลีบ และช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานอย่างเป็นปกติ

29.น้ำเห็ดหลินจือ – เห็ดหลินจือมีสรรพคุณช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง ทำให้พลังชีวิตมาก ทำให้มีกำลัง ช่วยบำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ ส่งเสริมความจำ ทำให้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ดีขึ้น ช่วยชะลอความแก่ ส่งเสริมการไหลเวียนของโลหิต ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส นอกจากนี้เห็ดหลินจือยังมีสรรพคุณต้านมะเร็ง รักษาโรคตับ ขับปัสสาวะ แก้ความดันโลหิตสูง ช่วยปรับความโลหิตทั้งสูงและต่ำ แก้ภาวะการบุตรยาก เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ รักษาโรคประสาท ภูมิแพ้ ลมบ้าหมู ตับแข็ง ตับอักเสบ ปวดประจำเดือน เป็นริดสีดวงทวาร อัมพฤกษ์ อัมพาต ปวดเมื่อย ปวดข้อ เป็นโรคเก๊าท์ โรคเอสแอลอี เส้นเลือดอุดตันในสมอง เส้นเลือดหัวใจตีบ ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้

30. น้ำหญ้าหนวดแมว – มีสรรพคุณช่วยลดอาการปวดเมื่อย แก้ขัดเบา ขับปัสสาวะ และช่วยรักษาโรคไต

หมายเหตุ : น้ำผักในทางการค้าโดยทั่วไปแล้วจะทำขึ้นจากการปั่นผสมรวมกันผักหลายชนิดเพื่อช่วยเพิ่มรสชาติของน้ำผักให้ดีขึ้น

#ประโยชน์ของน้ำผักผลไม้

1 น้ำผักผลไม้เป็นน้ำดื่มที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด การดื่มน้ำผักผลไม้เป็นประจำจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงมีอายุยืนยาว เพราะช่วยบำรุงสุขภาพและช่วยป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ

2 ผักผลไม้แต่ละชนิดล้วนมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นตัวช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งรวมไปถึงโรคมะเร็งต่าง ๆ ด้วย

3 ช่วยป้องกันและชะลอความเสื่อมของอวัยภายในร่างกายต่าง ๆ

4 การดื่มน้ำผักผลไม้สามารถช่วยพัฒนาสมอง เสริมสร้างความจำ และเป็นอาหารของสมองได้เป็นอย่างดี

5 ช่วยบำรุงและรักษาสายตาได้ เพราะผักผลไม้บางชนิดจะมีวิตามินเอสูง เช่น แครอท ผักบุ้ง ตำลึง ฟักทอง มะละกอ มะม่วงสุก เป็นต้น

6 ผักผลไม้บางชนิดยังมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรที่ช่วยบำบัดและรักษาโรคบางชนิดได้เป็นอย่างดี

7 การดื่มน้ำผักผลไม้เป็นประจำจะช่วยทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งสดใสได้ เพราะผักผลไม้หลายชนิดจะอุดมไปด้วยวิตามินซีและวิตามินอี ซึ่งเป็นอาหารผิวที่มีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวดูมีสุขภาพดีและเรียบเนียน

#คำแนะนำในการดื่มน้ำผักผลไม้

• น้ำผักผลไม้เป็นเพียงอาหารเสริมสำหรับผักผลไม้สดมากกว่าที่จะเป็นอาหารหลักแทนที่ผักผลไม้สดทั้งหมด

• เพื่อประโยชน์สูงสุดในการบริโภค ควรดื่มน้ำผลไม้ไม่เกิน 1 แก้วต่อวัน (ประมาณ 4-8 ออนซ์) และให้คั้นดื่มโดยไม่ต้องเพิ่มความหวานใด ๆ อีก เนื่องจากในผลไม้จะมีน้ำตาลธรรมชาติอยู่แล้ว อีกทั้งยังให้แคลอรี่เพียง 60-80 แคลอรี่เท่านั้น

• น้ำผลไม้คั้นสดควรเป็นสิ่งแรกที่เข้าสู่ร่างกายในตอนเช้า เพราะน้ำผลไม้จะช่วยทำความสะอาดระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย รวมถึงการอุ่นเครื่อง ทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว กระฉับกระเฉงมากยิ่งขึ้น เพราะร่างกายสามารถดูดซึมคุณค่าจากผลไม้สดได้ง่าย ดังนั้นควรดื่มก่อนกินมื้อเช้าประมาณ 10 นาที หรือหากดื่มหลังมื้ออาหารในแต่ละวัน โดยค่อย ๆ จิบน้ำผลไม้และกลั้วไปรอบ ๆ ปาก เพื่อเพิ่มเอนไซม์ในอาหารช่วยทำให้กระเพาะอาหารย่อยได้ดีขึ้น

• การดื่มน้ำผลไม้คั้นสดเป็นประจำจะช่วยถนอมสุขภาพสมองให้แข็งแรง ห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์

• ควรเลือกรับประทานน้ำผักผลไม้อย่างหลากหลาย หรือรับประทานให้ครบทั้ง 5 สี เนื่องจากผักผลไม้แต่ละสีแต่ละชนิดจะมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป

• ก่อนนำผักหรือผลไม้มาคั้นเป็นน้ำ ควรนำมาล้างให้สะอาดเสียก่อน โดยส้ม ฝรั่ง แครอท องุ่น ผักคะน้า มีสารเคมีสูงอยู่ในระดับต้น ๆ (ส่วนน้ำผลไม้อย่างส้มที่ผลิตในโรงงาน กระบวนการผลิตจะไม่มีการปอกเปลือก แต่จะคั้นกันทั้งเปลือก ทำให้สารเคมีเหล่านี้อาจตกค้างในน้ำผลไม้ที่เราดื่มได้ ส่วนน้ำส้มคั้นที่ขายสด ๆ ก็ตามท้องตลาดก็ควรจะระวังด้วย เพราะนอกจากจะมีสารเคมีพวกยาฆ่าแมลงตกค้างที่เปลือกส้มแล้ว ตัวเครื่องที่ใช้คั้นเองก็เป็นตัวสะสมแบคทีเรียได้เป็นอย่าง เพราะเมืองไทยมีอากาศร้อน ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้เร็ว) อ่านบทความเรื่องการล้างผักได้ที่ 16 วิธีการล้างผักผลไม้ให้สะอาด

• ในการปั่นน้ำผักรับประทานเองในครัวเรือน มีคำแนะนำว่า ควรเลือกปั่นผักโดยใช้เครื่องปั่นในระดับความเร็วที่ไม่มากจนเกินไป เพราะการปั่นผักด้วยความเร็วสูง ๆ จะทำให้เกิดการสูญสลายของแร่ธาตุและสารอาหารบางอย่างได้

• ผักผลไม้บางชนิดอาจมีสารหรือแร่ธาตุบางชนิดในปริมาณมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดโทษกับผู้ป่วยเรื้อรังบางโรคได้ เช่น ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักผลไม้ที่มีกรดออกซาลิกสูง (Oxalic acid) เช่น ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำใบชะพลู และน้ำแครอท เป็นต้น

• น้ำผักผลไม้ที่ได้รับความนิยมสูงโดยมากจะมีส่วนผสมของมะเขือเทศและโซเดียมในปริมาณมาก ผู้บริโภคจึงควรระมัดระวังในการเลือกบริโภค อีกทั้งผักผลไม้บางชนิดจะมีน้ำตาลสูง จึงควรไตร่ตรองอย่างระมัดระวังก่อนจะบริโภค #สูตรเด็ด64ชนิดน้ำผักและน้ำผลไม้ป้องกันมะเร็ง

การรักษาโดยไม่ใช้ยา หรือที่เรียกว่า “ธรรมชาติบำบัด” ในปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการดื่มน้ำผักผลไม้สดที่กลายเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการธรรมชาติบำบัด ไม่ว่าจะเพื่อการรักษาอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย โรคที่รักษายาก หรือโรคเรื้อรัง น้ำผักผลไม้สดก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยทำให้มีสุขภาพดีเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นอีกด้วย เนื่องจากน้ำผักผลไม้อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ในการบำรุงสุขภาพ และช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ

วิธีการทำน้ำผักผลไม้ คือ การทำให้น้ำและกากแยกออกจากกัน ซึ่งเราเรียกว่าการคั้น ประโยชน์ที่ได้จากการคั้นก็คือ กากในผกผลไม้ที่ย่อยไม่ได้จะถูกแยกออกไป เหลือเพียงแต่น้ำที่มีแต่สารอาหารล้วน ๆ จึงมีความเข้มข้นกว่าการรับประทานสดด้วยวิธีปกติ เช่น เมื่อเรารับประทานแครอทแบบสด ๆ ร่างกายของเราจะดูดซึมเบต้าแคโรทีนได้เพียง 1% ส่วนที่เหลืออีก 99% จะจับอยู่กับกากใย แต่ถ้าเป็นการคั้นน้ำแครอท กากใยเหล่านั้นจะถูกแยกออกไป คุณจึงได้รับเบต้าแคโรทีนเกือบ 100% คุณจึงมั่นใจได้ว่าการคั้นน้ำผักผลไม้ดื่มทุกวัน ร่างกายของคุณจะได้รับวิตามิน เกลือแร่ และเอนไซม์เต็ม ๆ

#น้ำผลไม้

น้ําผลไม้เพื่อสุขภาพ คือ ของเหลวที่อยู่ในเนื้อเยื่อของผลไม้ตามธรรมชาติ น้ำผลไม้จะได้มาจากการนำผลไม้ไปคั้นหรือปั่นผลไม้เหล่านั้นโดยไม่ใช้ความร้อนหรือตัวทำละลาย ซึ่งน้ำผลไม้สำเร็จรูปที่วางขายหลายยี่ห้อจะถูกกรองเอากากใยอาหารออก แต่น้ำผลไม้ที่มีเนื้อก็ยังคงเป็นเครื่องดื่มที่นิยม โดยอาจขายในรูปแบบเข้มข้น ซึ่งจำเป็นต้องเติมน้ำเพื่อลดความเข้มข้นจนกระทั้งอยู่ในสถานะปกติ โดยน้ำผลไม้แบบเข้มข้นมักจะมีรสชาติที่ต่างจากน้ำผลไม้คั้นสดอย่างชัดเจน
1.น้ำกล้วย – กล้วย เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินเอ ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ซึ่งล้วนแต่เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและประสาท ช่วยควบคุมความดันโลหิต เพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความแข็งแรงสมบูรณ์ให้แก่ร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ

2.น้ำกีวี่ – กีวี่อุดมไปด้วยวิตามินซี, คลอโรฟิลล์, ไฟโตเคมิคอล (Phytochemical), และแอคทินิดิน ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้หัวใจมีสุขภาพดี และช่วยลดความดันโลหิต

3.น้ำเกรปฟรุต – น้ำผลไม้รสเปรี้ยวที่มีคุณสมบุติช่วยเผาผลาญไขมันและช่วยลดระดับอินซูลินซึ่งเป็นตัวการของน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น การดื่มน้ำเกรปฟรุตคั้นสดก่อนมื้ออาหารทุกมือ จะช่วยทำให้น้ำหนักตัวลดลงมากกว่า 1.5 กิโลกรัม ภายใน 3 เดือน โดยที่ไม่ต้องลดอาหารหรือไดเอ็ทเลย

4.น้ำแครนเบอร์รี่ – น้ำผลไม้ชนิดนี้จะมีวิตามินซีสูง สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และยังพบว่าน้ำแครนเบอร์รี่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้ออีโคไลที่อยู่ในกระเพาะปัสสาวะได้อีกด้วย

5.น้ำแตงโม – แตงโมมีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา และมีวิตามินซีที่ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยแก้อาการร้อนในกระหายน้ำ ปากเป็นแผล รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ทำให้สบายท้อง ช่วยลดความดันโลหิต และช่วยขับปัสสาวะ

6.น้ำแตงชนิดต่าง ๆ (แคนตาลูป เมล่อน แตงญี่ปุ่น) – จัดเป็นน้ำผลไม้ล้างพิษในร่างกาย มีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ มีคุณสมบัติที่มีเนื้อฉ่ำน้ำ จึงเหมาะที่จะรับประทานในยามที่ร่างกายสูญเสียน้ำ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้อีกด้วย

7.น้ำเชอร์รี่ – เชอร์รี่มีวิตามินซีสูงมาก จึงช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอวัย ดูแลความงาม และช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง

8.น้ำฝรั่ง – ฝรั

03/12/2020

เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่ามะเร็งชอบอะไร ใครที่ไม่อยากเป็นมะเร็ง วันนี้มีสารอาหารที่เซลล์มะเร็งต้องการมาบอกกัน...

1. น้ำตาล เช่น น้ำตาลทรายขาว โดยใช้น้ำตาลจากธรรมชาติแทน เช่น น้ำผึ้ง แต่ต้องใช้ในปริมาณที่น้อยมาก เกลือ มีสารจำเป็นที่เซลล์มะเร็งนำไปใช้ ควรงด หรือในปริมาณน้อย

2. นม ควรดื่ม นำนมถั่วเหลืองทดแทน

3. เซลล์มะเร็ง เจริญเติบโตในสภาพที่เป็นกรด การบริโภคเนื้อสัตว์ทำให้เกิดสภาพเป็นกรด ควรรับประทานอาหารประเภทปลา ดีกว่าหมู เนื้อ และเนื้อสัตว์ มีแบคทีเรีย ใช้โฮโมนในการเจริญเติบโตปนเปื้อน ที่เป็นอันตรายต่อคนไข้ที่เป็นมะเร็ง

4. 80% ของผักและนำผลไม้สด ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืช จะช่วยให้ร่างกายมีสภาพเป็นด่าง 20% จากอาหารที่ปรุงแล้ว น้ำผักและผลไม้สด จะให้เอนไซม์ที่ง่ายต่อการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เพื่อไปเสริมสร้างความแข็งแรงให้เซลล์ที่ดี ดังนั้นควรดื่มน้ำผักสด และกินผักดิบ 2-3 ครั้งต่อวัน

5. หลีกเลี่ยงชา กาแฟ ช็อกโกแลต ที่มีคาเฟอีนที่สูง เป็นดื่มชาเขียวที่มี สารต้านมะเร็ง ดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำกรองดีที่สุด หลีกเลี่ยงน้ำประปา และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่มีสภาพเป็นกรด

6. เนื้อสัตว์ ย่อยยาก และต้องการเอนไซม์ในการย่อยเป็นจำนวนมาก และเนื้อที่ย่อยไม่หมด จะคงตกค้างอยู่ในลำไส้ อันนำไปสู่สารพิษตกค้าง

7. เซลล์มะเร็ง มีโปรตีนที่ยากแก่การทำลายเป็นเกราะป้องกัน การบริโภคเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไปทำลายเซลล์มะเร็งได้ง่ายขึ้น

8. อาหารเสริมบางอย่างช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อไปทำลายเซลล์มะเร็ง เช่น วิตามินอี วิตามินซี

9. เซลล์มะเร็ง เป็นเชื้อโรคของจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การควบคุมอารมณ์ และมองโลกในแง่ดีจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น อารมณ์โกรธ หรือความเครียดจะสร้างสภาพความเป็นกรดให้ร่างกาย ควรเรียนรู้ที่จะรัก และให้อภัย พักผ่อนและสนุกกับการใช้ชีวิต

10. เซลล์มะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตในที่มีออกซิเจนได้ การออกกำลังกายทุกวัน และหายใจเข้าลึกลึก จะช่วยเพิ่มระดับ ออกซิเจนในเซลล์ การบำบัดด้วยออกซิเจนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำลายเซลล์มะเร็ง

ถ้ารู้อย่างนี้แล้ว ไม่อยากเป็นมะเร็ง หันมาดูแลรักษาสุขภาพกันดีกว่า

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ 097-048-9435
หรือคลิ๊ก

Open the Friends tab in your LINE app, tap the add friends icon inthe top right, select "QR code," and then scan this QR code.

17/11/2020

ผู้ป่วย มะเร็ง ควรงดทาน น้ำตาลและแป้ง
เพราะ 2 อย่างนี้ เป็นอาหารหลักที่ เชื้อมะเร็งชอบกินเป็นอาหาร

อาการมะเร็งตับ ?สาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งตับมีดังนี้รับประทานผักและผลไม้น้อย เวลากลางคืนมักยุ่งอยู่กับการทำงานแล...
08/11/2020

อาการมะเร็งตับ ?

สาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งตับมีดังนี้

รับประทานผักและผลไม้น้อย เวลากลางคืนมักยุ่งอยู่กับการทำงานและความบันเทิง
ไม่ได้พักผ่อน กลั้นอุจจาระอยู่เสมอ จากอาการดังกล่าวจะเห็นได้ว่า จริงๆแล้วมะเร็งตับไม่ได้ห่างไกลจากการใช้ชีวิตของเราเลย
เมื่อมีอาการมะเร็งตับปรากฏขึ้น มักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโรคอื่นๆ เช่น ปวดกระเพาะ ท้องอืด ไม่อยากรับประทานอาหาร ผู้ป่วยบางท่านคิดว่าตนเป็นโรคกระเพาะ บางท่านเข้าใจว่าเป็นถุงน้ำดีอักเสบ เมื่อเวลาที่ร่างกายรู้สึกไม่สบาย จะต้องแยกแยะสภาพร่างกายอย่างละเอียด โดยการตรวจวินิจฉัยมะเร็งตับ ลดอัตราการวินิจฉัยที่ผิดพลาด

อาการประกอบได้ดังต่อไปนี้ ?

ความอยากอาหารลดลงอย่างเห็นได้ชัด : ท้องรู้สึกแน่น อืด การย่อยอาหารไม่ดี บางครั้งปรากฏอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ้าหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับตับ สามารถทำการตรวจตับด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ ซึ่งจะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายแต่อย่างใด
ปวดท้องด้านขวาบน : บริเวณตับมีอาการปวดอย่างต่อเนื่องหรือเป็นบางครั้งบางคราว บางครั้งถ้าเนื้องอกมีการลุกลามอาการเจ็บก็จะรุนแรงขึ้น บริเวณตับที่เจ็บสามารถทำการตรวจด้วยเครื่องซีทีสแกน ซึ่งจะสามารถแสดงออกถึงขนาด จำนวน ลักษณะ ตำแหน่ง ขอบเขต ได้อย่างชัดเจน ระดับของเลือดที่ไปเลี้ยงเนื้อร้ายมีปริมาณสูง รวมไปถึงความสัมพันธ์กับท่อน้ำดีภายในตับ
เลือดออก มักจะมีอาการเลือดไหลทางจมูก เลือดออกตามผิวหนัง เป็นต้น
อ่อนเพลีย ผอม ไข้และบวมน้ำโดยไม่ทราบสาเหตุ
ตัวเหลือง ท้องบวม คันตามผิวหนัง
อาการมะเร็งตับโดยทั่วไปเมื่อโรคพัฒนาจนถึงระยะกลางและระยะสุดท้าย จึงจะสามารถเห็นชัดและในเวลานั้นมักจะสูญเสียโอกาสในการผ่าตัด ด้วยเหตุนี้การตรวจด้วยตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

เมื่อรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรงอย่างต่อเนื่องไม่สามารถบรรเทาลงได้ มีความเป็นไปได้มากว่าอาจจะเป็นโรคตับ หรือมีอาการรู้สึกอึดอัดบริเวณส่วนหัวใจ บริเวณท้องด้านขวารู้สึกเจ็บ รู้สึกไม่สบายหรือถูกกด เป็นต้น น้ำหนักลดลงมีอาการไข้และตัวเหลืองโดยหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้

เมื่อปรากฏอาการดังกล่าว ก็อาจจะไม่ใช่โรคมะเร็งตับเสมอไป แต่ก็ควรไปตรวจโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคตับ เพื่อให้แน่ใจอาการของโรค และรีบทำการรักษาอาการดังกล่าว มะเร็งตับระยะแรกหากได้รับการรักษาอย่างประสิทธิภาพก็สามารถยืดการมีชีวิตอยู่ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้นได้

การวินิจฉัยมะเร็งตับ ?

มะเร็งตับเป็นโรคที่มีความร้ายแรง ส่งผลร้ายต่อชีวิตคนเป็นจำนวนมาก ลักษณะอาการของมะเร็งจะปรากฏสัณญาณที่แสดงออกทางร่างกาย เมื่อค้นพบอาการแล้วต้องวินิจฉัยว่าใช่มะเร็งหรือไม่ หากในชีวิตประจำวันพบความผิดปกติในร่างกายจำเป็นจะต้องดำเนินการตรวจให้ทันเวลา

ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแนะนำว่า มะเร็งตับที่เจอในระยะแรกหลังจากที่รักษาแล้ว อัตราการมีชีวิตอยู่5ปี มีมากถึง70% แต่ผู้ป่วยในระยะกลางและระยะสุดท้ายสามารถมีชีวิตอยู่ได้เพียงครึ่ง ด้วยเหตุนี้การเข้าใจถึงวิธีการวินิจฉัยจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก การค้นพบตั้งแต่เนิ่นๆเป็นขั้นตอนกระบวนการการรักษาที่สำคัญ

วิธีการตรวจวินิจฉัยมะเร็งตับมีอะไรบ้าง ?

การตรวจด้วยอัตราซาวด์ : มีประโยชน์ต่อการวินิจฉัยโรคก้อนเนื้อตับ สามารถทำให้เห็นขนาดของมะเร็งได้อย่างชัดเจน ลักษณะ อัตราความถูกต้องในการตรวจสูงถึง84% สามารถค้นพบมะเร็งที่มีขนาด 2เซนติเมตรหรือจุดของโรคเล็กกว่านั้นได้ เป็นลักษณะการตรวจที่ยังไม่มีการลุกลาม ไม่มีอันตรายต่อร่างกาย ถ้าหากพบว่าบริเวณตับมีความรู้สึกเจ็บ ผอม ไม่มีแรงและสงสัยว่ามีอาการเหมือนกับมะเร็งตับ เป็นต้น สามารถทำการตรวจด้วยวิธีนี้
การตรวจด้วยเครื่องซีที : มีอัตราการวิคราะห์แยกแยะของโรคสูงสามารถตรวจมะเร็งตับในระยะแรก ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร อัตราความถูกต้องในการวินิจฉัยสูงถึง90% แต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ด้วยเหตุนี้จึงไม่ค่อยนำมาใช้โดยทั่วไป
การตรวจด้วยเอ็มอาร์ไอ : เพิ่มระดับการตรวจมะเร็งตับที่มีขนาดเล็ก ในขณะเดียวกันมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการแยกแยะเนื้องอกที่ตับ ตุ่มที่เจริญเติบโตบริเวณตับ เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถเสริมด้วยการตรวจซีที
สารบ่งบอกมะเร็งตับAFP(alphafetoprotein) : วิธีการวินิจฉัยค่าAFP เป็นวิธีการตรวจที่พบเห็นได้โดยทั่วไปในการตรวจมะเร็งตับ วิธีการตรวจนี้ป็นวิธีที่ทำได้ง่าย
ลักษณะการเลือกตรวจหลอดเลือดแดงบริเวณท้องหรือการตรวจหลอดเลือดแดงในตับ : สำหรับก้อนมะเร็งที่มีเส้นเลือดอยู่มากมายนั้น ในบางครั้งสามารถพบตำแหน่งของโรคที่เส้นผ่าศูนย์กลาง0.5 – 1 เซนติเมตร อัตราการวินิจฉัยมีความแม่นยำสูงถึง90% สามารถค้นหาตำแหน่งที่แน่นอน ขนาดและการแบ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการวินิจฉัยมะเร็งตับที่มีขนาดเล็ก เป็นวิธีการตรวจที่ดีที่สุดในบรรดาการตรวจทั้งหมดในปัจจุบัน
สิ่งที่จะช่วยรักษามะเร็งตับได้อย่างประสิทธิภาพ คือการตรวจวินิจฉัยโรคตั้งแต่ระยะแรก การพัฒนาของเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า รูปแบบการรักษาแบบผสมผสานจึงถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งตับระยะแรกอย่างเห็นได้ชัด ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแนะนำว่า การรักษามะเร็งตับที่สำคัญก็คือ สังเกตระดับความรุนแรงของโรคที่ผู้ป่วยเป็น รูปแบบวิธีการรักษาที่นำมาใช้ สภาพร่างกายและสภาพจิตใจ เป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้สามารถประเมินประสิทธิภาพการรักษาของผู้ป่วยมะเร็งตับรวมไปถึงช่วงเวลาของการชีวิตอยู่ หากในระยะแรกได้รับวิธีการรักษาที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพ ก็เป็นไปได้ว่าผู้ป่วยมะเร็งตับจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น

การรักษามะเร็งตับ ?

มะเร็งตับเป็นโรคที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน เนื่องจากมะเร็งตับในระยะเริ่มแรกอาการไม่เด่นชัด เมื่อมีความรู้สึกอาการปกติก็เป็นระยะสุดท้ายแล้ว ทำให้การรักษายากยิ่งขึ้น มะเร็งตับทำลายสุขภาพผู้คนซึ่งอันตรายถึงชีวิต

วิธีใหม่ในการรักษาโรคมะเร็ง – คีโมเฉพาะส่วน (TOCE) ?

คีโมเฉพาะส่วนเป็นวิทยาที่ได้รวบรวมวิทยาคลินิคกับวิทยาถ่ายภาพทางการแพทย์ ช่วงกี่ปีที่ผ่านมาได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว เมื่อทำการรักษาโดยใช้อุปกรณ์ถ่ายภาพการแพทย์ (เครื่องx-ray เครื่องct-scan)นำทาง ใส่อุปกรณ์พิเศษไปยังเนื้องอกและสวนยาเข้าไปเนื้องอกโดยตรงในขณะเดียวกันใช้ยาอุดหลอดเลื่อดแดงที่เลี้ยงเนื้องอก เพราะเนื่องอกที่เติบโตต้องมีหลอดเลือดเกิดใหม่ วิธีการรักษานี้มีวัตถุประสงค์ทำให้เนื้องอกขาดเลื่อดขาดอ๊อกซิเจนซึ่งจะสามารถยับยั้งการเติบโตของมัน

ข้อดีแปดข้อจากการรักษา ?

เห็นผลอย่างแน่ชัด กรณีที่ประสบความสำเร็จค่า AFP ลดลงโดยเร็ว ก้อนมะเร็งเล็กลงสามารถบรรเทาอาการปวด
ตามกลไกการทำงานของวิทยาศาสตร์ คีโมเฉพาะส่วนใส่ปริมาณยาอยู่ในเนื้องอกสูงกว่าเคมีบำบัดแบบตั้งเดิมสีบเท่าและยังสามารถอุดหลอดเลือดที่เหลาะเลี้ยงเนื้องอกด้วยซึ่งได้ผลดีสองอย่าง แต่ผลข้างเคียงน้อยกว่าคีมีบำบัดทั้งตัว
การดำเนินงานง่าย มีความปลอดภายสูง
ผู้ป่วยที่มีอายุสูงและร่ายกายอ่อนเพลียก็สามารถทำการรักษาได้ เป็นวิธีการรักษาบาดแผลน้อยสุด ร่างกายฟื้นฟูเร็ว
ค่ารักษาค่อนข้างต่ำ
สามารถทำการรักษาได้หลายครั้ง เซลล์มะเร็งไม่ ดื้อยา และสามารถติดตามผลการรักษาได้
เพื่อสร้างโอกาศให้การผ่าตัด หลังจากเนื้องอกเล็กลงจะมีโอกาศผ่าตัดได้
เป็นวิธีการรักษามะเร็งตับระยะสุดท้ายอย่างหนึ่งแบบบูรณาการ
ยากินเพื่อชะลอการลุกลามของโรค
การใช้พลังงานคลื่นเสียงทำลายเนื้องอก(Hifu)

ที่อยู่

Samutpraken
10270

เบอร์โทรศัพท์

+66970489435

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สารอาหารสำหรับผู้มีปัญหา มะเร็ง เบาหวาน ความดัน โรคปอด โรคตับ โรคไตผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง สารอาหารสำหรับผู้มีปัญหา มะเร็ง เบาหวาน ความดัน โรคปอด โรคตับ โรคไต:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

ผลิตภัณฑ์ พอลลิติน

ผลิตภัณฑ์ พอลลิติน Pollitin / Cernitin ได้ขึ้นทะเบียนเป็น NUTRACEUTICAL

จากองค์การอนามัยโลก ว่าเป็นสารอาหารบำบัดคุณภาพสูง หรือโภชนบำบัด ต่างประเทศจะเทียบเท่าเภสัชภัณฑ์หรือยา cernitin คือเกษรดอกไม้ 8 ชนิด และสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ที่ร่างกายต้องการนำไปซ่อมแซมฟื้นฟู

Cernitin .....ละอองเกศรดอกไม้สกัด อาหารเสริมที่มีคุณค่า

ใช้การปลูกบนพื้นที่ออร์แกนิก เก็บเกี่ยวด้วยวิธีพิเศษ ไร้สารพิษ ปลูกภายใต้เกษตรอินทรีย์ ในประเทศ สหรัฐอเมริกา