03/11/2023
👧🏻RSV ภัยร้ายใกล้ลูกคุณ☃️
☔️ช่วงปลายฤดูฝน ต้นฤดูหนาว จะเป็นช่วงที่มีการระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจกันหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ และโรคหนึ่งที่ระบาดกันมากในช่วงนี้เช่นกัน ทำอันตรายแก่เด็กซึ่งเป็นลูกหลานของเรานั่นก็คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส RSV โรคนี้มีอาการอย่างไร ลองมาดูรายละเอียดกัน
RSV ย่อมาจาก Respiratory syncytial virus การติดเชื้อชนิดนี้ในระบบทางเดินหายใจจะทำให้เกิดอาการคล้ายหวัด เยื่อบุของระบบทางเดินหายใจเกิดการอักเสบและบวม หายใจไม่สะดวก เหนื่อย หอบ เนื่องจากเชื้อไวรัสชนิดนี้มี 2 สายพันธุ์คือสายพันธุ์ Aและสายพันธุ์ B ดังนั้นการติดเชื้อ RSV เมื่อเป็นแล้วสามารถเป็นได้อีกแต่อาการจะ รุนแรงน้อยลง
📌อาการที่แสดงออก
จะแสดงอาการหลังจากได้รับเชื้อแล้ว 4-6 วัน อาการที่แสดงออก ได้แก่
• มีไข้
• ไอมีเสมหะข้น
• อาเจียน เนื่องจากไอมาก
• น้ำมูกไหล
• หายใจแรง
• หายใจลำบาก มีเสียงหวีด
• เหนื่อยหอบ
• เบื่ออาหาร
• หากเป็นโรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคปอดอยู่ อาการจะรุนแรงขึ้น อาจทำให้เสียชีวิตได้
• อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนเช่น หูอักเสบ ไซนัสหรือปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนได้
🔎ใครเสี่ยงจะติดเชื้อไวรัส RSV บ้าง
• เด็ก โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี จะพบมาก
• ผู้สูงอายุ อายุ 65 ปีขึ้นไป
• ผู้ที่มีโรคประจำตัวโดยเฉพาะโรคปอดอักเสบ ปอดบวม โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)โรคหัวใจ
• ทารกคลอดก่อนกำหนด
• ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
• ผู้ที่ได้รับเคมีบำบัด
• ผู้ป่วยโรคเอดส์
🩺รักษาโรคติดเชื้อไวรัส RSV ได้อย่างไร
เนื่องจากโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสการรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการโดย
• ให้ยาลดไข้ หากมีไข้
• ให้ยาแก้ไอ ขับเสมหะ เพื่อขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ
• ให้ยาหดหลอดเลือด(Decongestant) ช่วยลดอาการคัดจมูก ทำให้จมูกโล่ง
• ให้ยาสเตียรอยด์พ่นทางจมูก เพื่อขยายหลอดลม ทำให้หายใจสะดวก
• การให้สารน้ำทางหลอดเลือด
• แพทย์จะพิจารณารักษาอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยแต่ละราย
• หากมีอาการรุนแรงหรือมีปัญหาเรื่องโรคปอดอยู่ด้วย ควรพบแพทย์ทันที
🤔การติดต่อของโรค
สามารถติดต่อกันได้ทางสารคัดหลั่งต่างๆของผู้ป่วย เช่น น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย
😷ป้องกันการติดเชื้อ RSV ได้อย่างไร
• ล้างมือทำความสะอาดบ่อยๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
• แยกเด็กติดเชื้อ RSV ออกจากเด็กคนอื่น
• ให้เด็กที่ติดเชื้อหยุดเรียน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
• สวมหน้ากากอนามัย ป้องกันเชื้อโรค
• ไม่ใกล้ชิดผู้ป่วย
• ไม่ใช้ของใช้ร่วมกับผู้ป่วย
• รับประทานอาหารให้เพียงพอ ครบ 5 หมู่
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างเหมาะสม
• นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
โรคทางเดินหายใจสามารถป้องกันได้ ถ้าไม่ประมาท หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรค หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่างๆทั้งหลายให้ได้ แล้วคุณจะปลอดภัยจากการติดเชื้อโรคทางเดินหายใจทั้งหลาย รวมทั้งเชื้อ RSV ด้วยครับ
ดูแลสุขภาพนะครับ
ปรารถนาดีจาก
ภก. ภรร์ชัยญ์ ลิมปิฐาภรณ์
ขอบคุณข้อมูล
1. cdc .(2022) Respiratory Syncytial Virus Infection (RSV) สืบค้นเมื่อ 1 ตุลาคม 2566 https://www.cdc.gov/rsv/about/symptoms.html
2. American Lung Association .(2022) Learn About Respiratory Syncytial Virus (RSV) สืบค้นเมื่อ 5 ตุลาคม 2566 https://www.lung.org/lung-health-diseases/lung-disease-lookup/rsv/learn-about-rsv
3. The Royal Children's Hospital Melbourne .(2022) Respiratory syncytial virus (RSV) สืบค้นเมื่อ 7 ตุลาคม 2566 https://www.rch.org.au/kidsinfo/fact_sheets/respiratory_syncytial_virus_rsv/
4.สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย .(2022) โรคติดเชื้ออาร์เอสวี RSV สืบค้นเมื่อ 9 ตุลาคม 2566 https://www.pidst.or.th/A667.html