หมอสมเด็จฯ เพื่อชาวศรีราชา

29/10/2024

#สะเก็ดเงินไม่ใช่โรคติดต่อ
#วันสะเก็ดเงินโลก

16/11/2023

07/06/2023

สมุดการร้องเรียน (ฟ้อง) ประจำวัน 🗣
ปล.ร่างกายรายงาน🫁
#สสส #สื่อสารสุข #ร่างกาย #ฟ้อง #สุขภาพ

18/04/2023

31/03/2023

📣 โรงพยาบาลจะปิดให้บริการ คลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ (ARI) ตึกอัยิกาเจ้า ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566
🔸 หากท่านมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ
🔸กรุณาลงทะเบียนจากคิวอาร์โค้ด เพื่อคัดกรองความรุนแรงเบื้องต้น
🔸ปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับหลังจากลงทะเบียน
🔸หรือท่านสามารถมาติดต่อที่จุดคัดกรอง ชั้น 1 อาคารศรีสวรินทิรานุสรณ์ ๑๕๐ ปี

▶️สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 038-320200 ต่อ 10149 , 10152 ในวันและเวลาราชการ◀️

https://lin.ee/18q8VaP

16/01/2023

“ผ่าตัดเล็ก นอกเวลาราชการ” เปิดให้บริการแล้วครับ

29/12/2022

Send a message to learn more

21/12/2022

ไม่ควรกินเหล้าแก้หนาว

อธิบายสั้น ๆ แล้วกัน

1.แอลกอฮอล์ปริมาณน้อยถึงปานกลาง จะมีสมบัติขยายหลอดเลือดส่วนปลายรวมทั้งหลอดเลือดใต้ผิวหนัง นั่นคือ จะเสียความร้อนจากร่างกายมากขึ้น

2. ผลของข้อหนึ่ง ทำให้ความดันโลหิตต่ำลง (อันนี้มีการศึกษายืนยันมากมาย)

3. แอลกอฮอล์ยังไปลดการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ จากลดประสาทอัตโนมัติ ความดันยิ่งลดลง

4. แม้จะมีกระบวนการเพิ่มอัตราชีพจรเพื่อเพิ่มความดัน แต่ผลของข้อสองและสามมันแรงกว่า

5. แอลกอฮอล์ไปทำให้ระบบประสาทส่วนกลางถูกกด มึนเมา การรับรู้สติและการประมวลผลลดลง ทำให้ตัวเองไม่สามารถไปหาความอบอุ่น หรือแก้ไขให้ร่างกายดีขึ้นได้

6. ผลจากข้อห้า ทำให้ปกป้องความหนาวไม่ได้ สูญเสียความร้อนมากขึ้น หัวใจบีบน้อยลง ความดันต่ำลง จึงเกิดผลเสียมากกว่าผลดี

7. แอลกอฮอล์ปริมาณมากอาจจะกลับมากระตุ้นการบีบตัวหลอดเลือดได้ แต่ร่างกายจะเสียหายไปก่อนหน้านี้แล้ว และสมองจะมึนงงมาก ช่วยเหลือตัวเองไม่ดีเลย

8. คนที่จะเกิดเหตุแบบนี้ จะเป็นคนที่มีการเผาผลาญแอกอฮอล์ได้ผิดปกติ เชื่อว่าเกิดจาก ความผิดปกติของยีนที่ควบคุมเอนไซม์ aldehyde dehydrogenase บกพร่อง

9. แต่เราไม่ได้ทราบสถานะของยีนตัวนี้นี่นา โดยรวมเลยจึงไม่แนะนำดื่มเหล้าแก้หนาว และไม่มีกลไกใดไปทำให้ร่างกายอุ่นขึ้นเลย

10.แต่ดื่มเราแก้หนาวแทนได้นะ ฮิ้ววว

20/12/2022

#หยอดตาครั้งละกี่หยดดีนะ ❓

#หยอดเยอะกับหยอดบ่อยต่างกันยังไง ❓

👉🏻ยาหยอดตา 1 หยดมีปริมาตร ตั้งแต่ 25 -70 ไมโครลิตร (เฉลี่ย 47.5 ไมโครลิตร) ขึ้นกับการออกแบบขวดยาหยอดตาของแต่ละยี่ห้อที่ผลิต
คิดง่ายๆเป็น 0.05 มล. นะคะ

👉🏻ร่องตาที่อยู่ระหว่างเปลือกตากับลูกตา ที่รองรับน้ำตาจะเป็นร่องด้านล่าง หรือภาษาทางการแพทย์เรียก Inferior Fornix สามารถรองรับน้ำในประมาณ 20-30 ไมโครลิตร ในท่าลืมตามองตรงและไม่กระพริบตา.
👉🏻ในคนสูงอายุที่เปลือกตาหย่อน ความสามารถในการกักเก็บน้ำของร่องตาก็จะลดลง ทำให้ตาแห้งง่ายกว่าหรือ น้ำยาที่หยอดตาเหมือนหกล้นออกจากตามากกว่าทำให้คนไข้มักเข้าใจว่ายาหกออกหมดต้องหยอดเพิ่มกว่าปกติหรือมากกว่า 1 หยด

📌จะเห็นว่า 1 หยด ของยาหยอดตา ก็หกล้นตาออกมาอยู่แล้ว ........👇🏻...............
เพราะฉะนั้นการหยอดยาที่เข้าตาครั้งละหยดก็เพียงพอแล้วค่ะ ที่เหลือหกทิ้งเฉยๆเสียดายยาค่ะ 📌

👉🏻 ยาหยอดตาแบบขวดโดยทั่วไปมีปริมาตรเฉลี่ย 5 หรือ 10 มล.
💧1 หยด เท่ากับ 0.05 มล
💧1 มล. ได้ 20 หยด
💧ขวด 5 มล ได้ 100 หยด
💧ขวด 10 มล ได้ 200 หยด

👉🏻เวลาหยอดยา หลายชนิดในเวลาที่ใกล้เคียงกัน *ควรหยอดห่างกันอย่างน้อย 5-10 นาที (หรือนานกว่านั้นก็ได้ ) ให้เวลา ในการดูดซึมยาตัวแรกเข้าตาก่อนที่จะหยอดอีกตัวค่ะ

👩🏼‍⚕️โดยสรุป ยาหยอดตา 1 หยด ที่เข้าตาเพิ่งพอแล้วต่อการหยอดตา 1 ครั้งค่ะ

👩🏼‍⚕️และการหยอดยาหลายหยด กับบ่อยครั้งความหมายถึงต่างกัน
การหยอดยาหลายหยดไม่มีประโยชน์เท่ากับการหยอดยาบ่อยครั้งขึ้น ในกรณีที่ตาแห้งหรือมีการติดเชื้อรุนแรง

👩🏼‍⚕️ความถี่ในการหยอดยาแต่ละชนิดไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับชนิดของยา และข้อบ่งชี้ในการรักษา ควรปรึกษาแพท์หรือเภสัชกรของท่านในการพิจารณาการใช้ยาหยอดตานะคะ

27/11/2022

ตารางออกตรวจ เดือน ธันวาคม 2565
"คลินิกพิเศษเฉพาะทางนอกเวลา"
โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา
เปิดบริการ
จันทร์ - ศุกร์ เวลา 16.30 - 20.30 น.
เสาร์ เวลา 08.00 - 12.00 น.
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายได้ที่
คลินิกพิเศษเฉพาะทางนอกเวลา ชั้น 3 อาคารศรีสวรินทิรานุสรณ์ ๑๕๐ ปี
โทรนัดหมาย และสอบถามได้ที่
038-320200 ต่อ 10325 และ 092-247-4041
เวลา 09.00 - 20.00 น.