คลินิกแพทย์จีนอตินุช ฝังเข็มรักษาโรค สระแก้ว

คลินิกแพทย์จีนอตินุช ฝังเข็มรักษาโรค สระแก้ว ฝังเข็ม รักษาโรค ยาสมุนไพรจีน

07/08/2025

วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม
คลินิกหยุด 1 วันค่ะ
โทรสอบถามเพิ่มเติม
นัดคิวพบแพทย์ 06-5359-5964

26/07/2025

เสาร์ที่ 26 กรกฎาคม
คลินิกเปิดเวลา 9.00-12.00
โทรสอบถามนัดพบแพทย์
06-5359-5964

25/07/2025

คนไข้หลังฝังเข็ม ที่ร่างกายแข็งแรง สามารถบริจาคโลหิตได้ หลังจากรับการรักษา 1 วันค่ะ

Cr : ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย

ฝังเข็มเพื่อลดอาการผลข้างเคียงของมะเร็งเป็นทางเลือกอีกทางสำหรับผู้ป่วยนะคะ #ฝังเข็มสระแก้ว #ฝังเข็มแพทย์จีนหัวเฉียว #ฝัง...
15/07/2025

ฝังเข็มเพื่อลดอาการผลข้างเคียงของมะเร็ง
เป็นทางเลือกอีกทางสำหรับผู้ป่วยนะคะ

#ฝังเข็มสระแก้ว
#ฝังเข็มแพทย์จีนหัวเฉียว
#ฝังเข็มรักษาโรคปวด
#ฝังเข็มยาจีนสระแก้ว

🩺 EP65 ❓ฝังเข็มทำให้มะเร็งแพร่กระจายไวหรือเปล่า? ผู้ป่วยมะเร็งฝังเข็มได้มั้ย? ปลอดภัยแค่ไหน?

“หมอคะ…พี่เป็นมะเร็งอยู่ สามารถฝังเข็มได้มั้ย กลัวจะกระตุ้นเซลล์มะเร็งค่ะ…”

นี่คือคำถามที่หมอแมนได้ยินบ่อยมากจากคนไข้มะเร็งและญาติที่สนใจการฝังเข็ม

เพราะแม้หลายคนจะอยากหาทางช่วยบรรเทาอาการ แต่ก็ยังลังเลว่า

📍ฝังเข็มจะปลอดภัยไหม?
📍จะทำให้มะเร็งลุกลามไหม?
📍แล้วมีงานวิจัยอะไรยืนยันบ้าง?

รวมถึง เป็นคำถามยอดฮิตที่สาขาวิชาชีพ ที่ทำงานกับแพทย์แผนจีน อื่นก็คงสงสัยเช่นกัน บางครั้งมักเป็นประเด็นที่แพทย์แผนจีนตกเป็นแพะรับบาปเลยทีเดียวครับ😭

🌐บทความนี้หมอแมนขอเล่าแบบเข้าใจง่าย พร้อมหลักฐานวิทยาศาสตร์ และมุมมองแพทย์จีน เพื่อให้ทุกคนตัดสินใจได้อย่างมั่นใจครับ

🔍 คำตอบสั้น ๆ จากหมอแมนนะครับ:

ข้อ 1️⃣ ผู้ป่วยมะเร็งสามารถฝังเข็มได้ครับ

✅ มีงานวิจัยระดับสากลรองรับว่าฝังเข็มช่วยบรรเทาอาการข้างเคียงจากเคมีบำบัด ฉายแสง และอารมณ์จิตใจได้จริง
✅ และถ้าทำโดยผู้เชี่ยวชาญ…ก็ “ปลอดภัยมาก” ครับ

ข้อ 2️⃣❌ ฝังเข็มไม่ทำให้มะเร็งแพร่กระจายเร็วขึ้น

คนเป็นมะเร็งห้ามฝังเข็มเพราะจะกระจายและตายไว นี่เป็นความเข้าใจผิดมากๆที่หมอแมนอยากอธิบายให้ชัดครับ เพราะหลายคนกลัวว่า

“ฝังเข็มกระตุ้นการไหลเวียนเลือด แล้วจะพาเซลล์มะเร็งกระจายไปทั่วร่างไหม?”

📌 คำตอบคือ “ไม่ใช่เลยครับ”
ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยใดในระดับคุณภาพที่แสดงว่า
“การฝังเข็มทำให้เซลล์มะเร็งโตเร็วหรือกระจายตัวมากขึ้น”
🎉ในทางกลับกัน หลายงานวิจัยกลับพบว่า การฝังเข็มอาจช่วย…
- ลดการอักเสบระดับเซลล์
- เสริมการทำงานของภูมิคุ้มกัน
- เพิ่มเซลล์ NK (Natural Killer cells) ที่มีบทบาทในการจัดการเซลล์มะเร็ง
- ปรับสมดุลของระบบ neuro–immune–endocrine ซึ่งช่วยให้ร่างกายรับมือกับโรคได้ดีขึ้น

✨ โดยเฉพาะ Frontiers in Oncology (2023) และ Journal of Cancer ฉบับล่าสุด พบว่า
การฝังเข็มไม่ได้เพิ่มอัตราการลุกลามของมะเร็งเลยแม้แต่น้อย กลับช่วยลดอาการข้างเคียง และช่วยให้ผู้ป่วยทนต่อการรักษาได้ดีขึ้นอีกด้วย

📍ขอย้ำว่า การฝังเข็มไม่ใช่ปัจจัยเร่งเซลล์มะเร็ง
แต่ถ้าทำไม่ถูกจุด ไม่เข้าใจร่างกายของผู้ป่วย…อันนั้นต่างหากที่อันตราย

⚠️ เพราะฉะนั้น การเลือก “แพทย์จีนที่มีใบประกอบโรคศิลปะ” และมีประสบการณ์ดูแลผู้ป่วยมะเร็งโดยตรงจึงสำคัญมากครับ

ข้อ 3️⃣📚 ประโยชน์การฝังเข็มในผู้ป่วยมะเร็งคืออะไร แล้วมีงานวิจัยอะไรยืนยันบ้าง?

การรักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัดและการฉายแสงมักทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น…
✅ คลื่นไส้ อาเจียน
✅ ปวดเรื้อรัง
✅ อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ
✅ ปลายมือปลายเท้าชา (neuropathy)
✅ อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า
✅ และบางรายมี hot flashes หรือปากแห้งจากการรักษา

📌 และทั้งหมดนี้…คือกลุ่มอาการที่งานวิจัยพบว่า “การฝังเข็มช่วยได้อย่างชัดเจน”

💡 JAMA Oncology (2020):
ฝังเข็มช่วยลดอาการปวดในผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายได้ดี แถมลดการใช้ยาแก้ปวดด้วย

💡 Cochrane Review:
พบว่าการฝังเข็มมีหลักฐานสนับสนุนในการบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด

💡 Frontiers in Oncology (2023):
ฝังเข็มช่วยลดอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง (Cancer-related fatigue) ได้จริง เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับการรักษา

💡 National Cancer Institute, USA:
ระบุว่า การฝังเข็มเป็นวิธีที่ปลอดภัย และเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางเสริมในการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง

ข้อ4️⃣ 🛡️ แล้วปลอดภัยแค่ไหน?

✅ งานวิจัยกว่า 60 ฉบับที่วิเคราะห์ร่วมกัน (meta-analysis) พบว่า
การฝังเข็ม ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง (serious adverse events)
มีเพียงอาการเล็กน้อย เช่น ปวดเล็กน้อยหรือรอยช้ำเฉพาะจุด ซึ่งหายได้เอง

แต่สำคัญมาก คือต้องทำโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาตและเข้าใจสภาพของผู้ป่วยมะเร็งโดยเฉพาะ

ข้อ 5️⃣ มุมมองแพทย์จีน ฝังเข็มช่วยได้อย่างไรในผู้ป่วยมะเร็ง?

ในศาสตร์แพทย์จีน มะเร็งจัดเป็น “蓄积之邪” (พลังชั่วสะสมเรื้อรัง) ซึ่งมีรากจาก…
✍🏻 พลังชี่และเลือดติดขัด (气滞血瘀)
✍🏻 เสมหะ–พิษสะสม (痰湿瘀毒)
✍🏻 การทำงานของอวัยวะหลักพร่อง โดยเฉพาะ ตับ ม้าม ไต (肝脾肾虚)
✍🏻 และ “เสิน” หรือจิตใจที่ขาดพลัง (神伤)

👉 เพราะฉะนั้น การรักษาจะไม่เน้นแค่ต้านมะเร็งโดยตรง
แต่จะใช้แนวคิด “扶正祛邪” (เสริมพลังร่างกาย–ขจัดสิ่งก่อโรค)
ซึ่งฝังเข็มทำหน้าที่หลัก 3 ด้าน คือ:

(1)เสริมพลังชี่–บำรุงม้ามไตที่พร่องจากการรักษา

ผู้ป่วยมะเร็งมักมีอาการพลังตก เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
แพทย์จีนมองว่า “ม้ามและไตพร่อง” จึงต้องฟื้นฟูด้วยจุดฝังเข็ม เช่น
• 足三里 → บำรุงชี่ กระตุ้นการดูดซึม
• 肾俞 → บำรุงไต พยุงพลังพื้นฐานของชีวิต

📖 งานวิจัยจาก Journal of Traditional Chinese Medicine (2021) พบว่า
การฝังเข็มที่จุดบำรุงม้ามไตช่วยเพิ่มค่า CD4+, NK cells, ลดการลดลงของเม็ดเลือดขาวในผู้ป่วยหลังเคมีบำบัดได้

(2)ปรับสมดุลชี่ตับ–ระบายความเครียด (肝郁)

หลายคนรู้ว่ามะเร็งทำร้ายร่างกาย แต่จริง ๆ แล้ว “ความเครียด” ทำให้มะเร็งแย่ลงได้เช่นกัน
ศาสตร์จีนมองว่า “อารมณ์กดทับ → ชี่ตับติดขัด → พลังไหลเวียนช้า → เลือดคั่ง–พิษสะสม”

จุดที่ใช้บ่อยคือ
• 太冲 → ปลดปล่อยอารมณ์ ระบายตับ
• 内关 → สงบใจ ลดคลื่นไส้ นอนหลับดีขึ้น

📖 งานวิจัยใน Frontiers in Oncology (2023) รายงานว่า
การฝังเข็มช่วยลดระดับ cortisol และเพิ่ม β-endorphin
ซึ่งมีผลลดความเครียดทางสรีรวิทยา และบรรเทาอารมณ์ซึมเศร้าในผู้ป่วยมะเร็งได้

(3)ฟื้นฟู “เสิน” หรือพลังจิตใจให้เข้มแข็ง

ศาสตร์แพทย์จีนเชื่อว่า “เสินเป็นนายแห่งอวัยวะทั้งหมด”
เมื่อเสินสับสน อ่อนแอ → การฟื้นตัวช้าลง ระบบภูมิคุ้มกันรวน
จึงนิยมใช้จุดที่ช่วยให้ใจสงบ เช่น
• 百会 → สงบจิต เชื่อมพลังหัวใจและสมอง
• 神门 → ฟื้นฟูพลังใจ คลายความกลัว

📖 การศึกษาทางคลินิกพบว่า การฝังเข็มที่จุด Shenmen (HT7) ช่วยปรับ คลื่นสมองและอัตราการเต้นหัวใจ ให้เข้าสู่ภาวะสมดุลในผู้ป่วยที่มีความวิตกกังวลเรื้อรัง (Chen et al., 2020)

🔬 เชื่อมโยงกับกลไกทางวิทยาศาสตร์

ปัจจุบันงานวิจัยสมัยใหม่ยืนยันกลไกที่สอดคล้องกับแพทย์จีน เช่น
- การฝังเข็มช่วยกระตุ้น hypothalamic–pituitary–adrenal axis (HPA axis)
→ ลด stress hormone และเสริมภูมิคุ้มกัน
- กระตุ้นการหลั่ง endorphins, serotonin, dopamine
→ ลดความเจ็บปวด อารมณ์ดีขึ้น
- เพิ่มระดับ NK cells และ cytokines ที่ควบคุมการอักเสบ→ ช่วยร่างกายควบคุมเซลล์ผิดปกติ และฟื้นตัวเร็วขึ้น

🤔 แล้วควรฝังเมื่อไหร่?
- ฝังเข็มได้ ระหว่างการรักษา (เคมีบำบัด/ฉายแสง) หรือหลังจบคอร์สก็ได้
- แนะนำให้ประเมินร่วมกับทีมแพทย์ก่อน
- และควรหลีกเลี่ยงช่วงที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำหรือเม็ดเลือดขาวต่ำมาก

✅หมอแมนสรุป

ผู้ป่วยมะเร็ง “ฝังเข็มได้”และ “ปลอดภัย” ครับ
📍ถ้าทำกับผู้เชี่ยวชาญ

✍🏻ไม่ใช่เพื่อรักษามะเร็งโดยตรง
แต่เพื่อรักษา “คนที่กำลังสู้กับมะเร็ง” ให้แข็งแรงขึ้นทั้งร่างกายและหัวใจ

และหมอแมนแนะนำให้ไปฝังเข็มกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ทราบและสามารถประเมินถึงภาวะแทรกซ้อนของคนไข้มะเร็ง เช่น ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเนื้อเยื่อบอบบาง เพื่อประโยชน์สูงสุดและความปลอดภัยในการรักษา

ถ้าหากคุณหรือคนที่คุณรักกำลังรักษามะเร็ง และกำลังมองหาวิธีที่ช่วยให้ “ทุกวันไม่ทุกข์เท่าเดิม”
การฝังเข็มอาจเป็นคำตอบ…หนึ่งที่ดีครับในวันที่ยาเม็ดช่วยได้ไม่หมดครับ 🫶

📄 1. Tian et al., Frontiers in Oncology (2023)

“Acupuncture therapies for cancer‑related fatigue: A Bayesian network meta‑analysis and systematic review”
• ดึงข้อมูลจาก 34 RCT รวม 2,439 ราย พบว่าฝังเข็มมีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการลดอาการอ่อนเพลียที่เกี่ยวกับมะเร็ง 
• ลิงก์เข้าเว็บ (Full‑Text): https://www.frontiersin.org/journals/oncology/articles/10.3389/fonc.2023.1071326/full

📝 2. JAMA Network Open (2023)

“Effectiveness of Electroacupuncture or Auricular Acupuncture vs Massage for Pain in Patients Living With Advanced Cancer”
• การทดลองแบบ RCT ในผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย (298 ราย) แสดงว่าฝังเข็มและการนวดช่วยลดปวด คลื่นไส้ อ่อนเพลีย นอนหลับดีขึ้น ทั้งสองวิธีมีผลใกล้เคียงกัน 
• ลิงก์เข้าเว็บ (Full‑Text): https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/37962891/

🌐 3. Frontiers in Oncology (2024)

“The effectiveness of acupuncture in cancer pain treatment”
• งานวิจัยนี้ยืนยันว่า ฝังเข็มช่วยลดอาการปวดจากเคมีบำบัด ร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียได้อย่างชัดเจน 
• ลิงก์เข้าเว็บ (Full‑Text): https://www.frontiersin.org/journals/oncology/articles/10.3389/fonc.2024.1450105/full

🔍 4. JAMA Oncology (2021)

“Clinical Evidence for Association of Acupuncture and Acupressure with Reduced Cancer Pain”
• งานทบทวนและเมตา‑รีวิวชี้ให้เห็นว่า ฝังเข็มช่วยลดความเจ็บปวดและการใช้ยาได้จริง
• ลิงก์เข้าเว็บ (Full‑Text): https://jamanetwork.com/journals/jamaoncology/fullarticle/2757396

🧠 5. National Cancer Institute (NCI) – Integrative Therapies
• พิจารณาจากมุมมองผู้ป่วยระยะหลัง พบว่า electro‑acupuncture ช่วยบรรเทาอาการปวดเรื้อรังได้นานถึง 4 เดือน 
• ลิงก์เข้าเว็บ: https://www.cancer.gov/news-events/cancer-currents-blog/2021/acupuncture-for-pain-cancer-survivors

#ฝังเข็มผู้ป่วยมะเร็ง
#ศาสตร์แพทย์จีน
#หมอแมนแพทย์จีน
#ฝังเข็มปลอดภัยไหม
#มะเร็งกับแพทย์แผนจีน

รอบครอบแก้ว เบาะแสสุขภาพCr:ขอบคุณข้อความดีๆจากคุณหมอเมี่ยวซินคลินิก #ฝังเข็มครอบแก้วยาจีนสระแก้ว #ฝังเข็มสระแก้ว #ยาจีนส...
25/06/2025

รอบครอบแก้ว เบาะแสสุขภาพ

Cr:ขอบคุณข้อความดีๆจากคุณหมอเมี่ยวซินคลินิก

#ฝังเข็มครอบแก้วยาจีนสระแก้ว
#ฝังเข็มสระแก้ว
#ยาจีนสระแก้ว
#แพทย์จีนสระแก้ว

📌 รอยครอบแก้ว บอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของเราได้บ้าง?

หลายคนเห็นรอยแดง รอยม่วงหลังครอบแก้วแล้วตกใจ
แต่แท้จริงแล้ว รอยเหล่านี้ไม่ใช่สัญญาณของอันตรายเสมอไป
กลับอาจเป็นเสมือน “ภาษาของร่างกาย” ที่สะท้อนภาวะสมดุลภายใน ตามแนวคิดของแพทย์แผนจีน และยังสอดคล้องกับการอธิบายทางวิทยาศาสตร์



🩺 มุมมองจากแพทย์แผนจีน

“ครอบแก้ว” (拔罐 – ป๋ากวั่น) เป็นวิธีบำบัดที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและพลังชี่ ผ่านแนวเส้นลมปราณ (经络 – จิงลั่ว)
รอยจ้ำ ที่ปรากฏจึงไม่ได้เป็นแค่ผลข้างเคียง แต่ยังสะท้อน “สมดุลพลังภายใน” ได้ในเบื้องต้น ดังนี้:

🔍 ความหมายของสีรอยจ้ำ

• รอยจาง / ชมพูอ่อน → การไหลเวียนดี ร่างกายสมดุล
• รอยแดงเข้ม → มีความร้อนสะสมในร่างกาย (ภาวะหยินพร่อง/ไฟแกร่ง) เช่น เครียด นอนไม่พอ รับประทานอาหารรสเผ็ด หรือแอลกอฮอล์มาก
• รอยม่วงคล้ำ → การไหลเวียนของเลือดติดขัด มีเลือดคั่ง โดยเฉพาะในกล้ามเนื้อที่ตึงหรือเจ็บเรื้อรัง
• รอยจุดแดงกระจาย (出痧) → มีพิษชื้นร้อนสะสม เช่น ภูมิแพ้ ผดผื่น หรือระบบขับถ่ายทำงานไม่ดี
• รอยคล้ำ รู้สึกเย็นเมื่อสัมผัส → พลังหยางพร่อง (阳虚) เช่น มือเท้าเย็น อ่อนเพลีย นอนหลับไม่ลึก
• ตุ่มน้ำ / ตุ่มน้ำใส → ความชื้นสะสมในร่างกาย เช่น ระบบย่อยอ่อนแอ ดื่มน้ำเย็นมาก หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมชื้น
• รอยจุดม่วงกระจาย → ความเย็นสะสม ร่วมกับเลือดคั่ง
• รอยแดงร่วมกับอาการคัน → ลมและความชื้นก่อโรค (风湿) มักพบในผู้ที่มีอาการแพ้ อักเสบ หรือมีผิวหนังไวต่อการเปลี่ยนแปลง

📌 ความหมายของ “ตำแหน่ง” รอยจ้ำ
• กลางหลังแนวกระดูกสันหลัง → เป็นแนวเส้นลมปราณกระเพาะปัสสาวะ (膀胱经) ซึ่งสัมพันธ์กับ “ไต” และ “ภูมิคุ้มกัน”
• รอยจ้ำชัดเฉพาะซีกขวาหรือซ้าย → อาจสะท้อนความไม่สมดุลระหว่างหยิน–หยางของอวัยวะ



🔬 แล้วในมุมมองวิทยาศาสตร์ล่ะ?

ในทางการแพทย์ปัจจุบัน
รอยครอบแก้วคือผลของ แรงดูดสุญญากาศ ที่ดึงผิวหนังและหลอดเลือดฝอยขึ้นมา
ส่งผลให้เลือดบางส่วนออกจากเส้นเลือดฝอย → กลายเป็นรอยจ้ำคล้ายรอยช้ำ
ร่างกายจะค่อย ๆ ดูดซึมกลับ ทำให้รอยจางลงภายใน 3–7 วัน

❓ทำไมรอยแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน?
• ผู้ที่มีกล้ามเนื้อตึง เลือดไหลเวียนไม่ดี → รอยจะเข้ม
• ผู้ที่พักผ่อนน้อย ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือมีความเครียดสะสม → ร่างกายตอบสนองไว รอยจ้ำชัด
• บางคนรอยจางเร็ว → ระบบฟื้นฟูดี เลือดและน้ำเหลืองหมุนเวียนได้ดี

📖 งานวิจัยบางส่วนระบุว่า การครอบแก้วอาจ…
• กระตุ้นการไหลเวียนเลือดเฉพาะจุด
• ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ
• กระตุ้นระบบประสาทและสารสื่อประสาท เช่น endorphin ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวด และลดความเครียด



✅ สรุป:

รอยจ้ำหลังครอบแก้ว ≠ ความน่ากลัว
แต่อาจเป็น “เบาะแส” ของสภาวะร่างกาย จากทั้งศาสตร์แพทย์จีนและหลักวิทยาศาสตร์
• รอยจ้ำหายไว → ร่างกายฟื้นตัวดี ระบบไหลเวียนดี
• รอยจ้ำเข้ม หายช้า ปวดในจุดเดิม หรืออ่อนเพลียเรื้อรัง → อาจปรึกษาแพทย์แผนจีนเพื่อประเมินสาเหตุและปรับสมดุลจากภายใน



🧠 สุขภาพที่ดี เริ่มต้นจากการเข้าใจร่างกายของเราเอง

📍 เมี่ยวซินคลินิกแพทย์แผนจีน | Miaoxin Clinic
ฝังเข็ม | ครอบแก้ว | ยาสมุนไพร | นวดทุยหนา | ปรับสมดุลองค์รวม

🕒 เวลาทำการ
จันทร์ – ศุกร์: 11:00 – 20:00 น.
เสาร์ – อาทิตย์: 10:00 – 18:00 น.

📞 โทร: 061-494-9900
📍 ซอยสุขุมวิท 22 (ซอยโรงเรียนสายน้ำผึ้ง)
🌐 Line / Facebook:

#ครอบแก้ว #แพทย์จีน #ฝังเข็มสุขุมวิท
#รอยครอบแก้ว #แพทย์แผนจีน #ศาสตร์จีน

ฝังเข็มปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร #ฝังเข็มสระแก้ว #ฝังเข็มยาจีนสระแก้ว #ฝังเข็มแพทย์จีนหัวเฉียว
09/06/2025

ฝังเข็มปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร

#ฝังเข็มสระแก้ว
#ฝังเข็มยาจีนสระแก้ว
#ฝังเข็มแพทย์จีนหัวเฉียว

25/04/2025

วันเสาร์ที่ 26 เมษายน
คลินิกหยุดค่ะ
สอบถามเพิ่มเติม
นัดพบแพทย์ 06-5359-5964

11/04/2025

คลินิกหยุด
12,13,14,15 เมษายนค่ะ
และเปิดวันที่ 16 เมษายนค่ะ
โทรสอบถามนัดคิวพบแพทย์ 065-3595964

25/03/2025

พุธที่ 26 มีนาคม
คลินิกปิด 1 วันค่ะ
สอบถามคิวนัดพบแพทย์
06-5359-5964

คนไข้หลายท่านมักสงสัยว่าปวดหัวทำไมหมอฝังแขนขานะ?ปวดท้อง ทำไมฝังขาด้วยหล่ะ?วัยทองก็ยังฝังแขนขาอีก?นั่นเป็นเพราะ การฝังเข็...
24/02/2025

คนไข้หลายท่านมักสงสัยว่า
ปวดหัวทำไมหมอฝังแขนขานะ?
ปวดท้อง ทำไมฝังขาด้วยหล่ะ?
วัยทองก็ยังฝังแขนขาอีก?
นั่นเป็นเพราะ การฝังเข็มที่แขนและขา
สามารถกระตุ้นสมองและระบบประสาทได้ค่ะ
🙏ขอบคุณบทความดีมีประโยชน์จากคุณหมอคนเก่งมากค่ะ

#ฝังเข็มสระแก้ว
#ฝังเข็มรักษาโรคปวด
#ฝังเข็มยาจีนสระแก้ว
#ฝังเข็มสระแก้วโดยแพทย์หัวเฉียว

EP3**👀ทำไมการฝังเข็มที่แขนและขาจึงสามารถกระตุ้นสมองและระบบประสาทได้? 🍀สำหรับแพทย์แผนจีนจะมีทฤษฎีเส้นลมปราณรองรับโดยมีการเชื่อมโยงและเส้นทางที่ชัดเจน แล้วสำหรับทางวิทยาศาสตร์ล่ะจะอธิบายเรื่องเหล่านี้อย่างไร?💁

🎙️แพทย์จีนหลายท่านคงได้มีโอกาสเข้าฟังสัมมนากับอาจารย์กิตติศักดิ์ เก่งสกุล จากโรงพยาบาลวิชัยยุทธมาบ้างแล้วซึ่งอาจารย์ก็ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ กลายๆ ในอีพีนี้จะอธิบายเหตุผลทางวิทยาศาสตร์จากทฤษฎีคัพภะวิทยา (Embryology) และโครงสร้างระบบประสาทเพื่อให้ทราบถึงหลักการที่ชัดเจนมากขึ้น

😳ทำไมการฝังเข็มที่แขนและขาจึงสามารถกระตุ้นสมองและระบบประสาทได้? จึงอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาตร์ดังต่อไปนี้
1. ทฤษฎีคัพภะวิทยาเกี่ยวกับการเชื่อมโยงของระบบประสาท
คัพภะวิทยา (Embryology) เป็นศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาของตัวอ่อนมนุษย์ ตั้งแต่ระยะปฏิสนธิจนถึงการเกิด ทฤษฎีนี้อธิบายว่าทำไม จุดฝังเข็มบริเวณแขนและขาสามารถมีผลต่อสมองและระบบประสาทส่วนกลางได้

1.1การพัฒนาเส้นประสาทจากระยะตัวอ่อน
• ในช่วงแรกของการเจริญเติบโต ระบบประสาทกลาง (CNS) และระบบประสาทรอบนอก (PNS) เกิดจาก Ectoderm ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อเดียวกัน
• สมอง ไขสันหลัง และเส้นประสาทรอบนอกพัฒนาไปพร้อมกัน และมีการเชื่อมโยงทางระบบประสาทตั้งแต่แรกเกิด

โดยระบบประสาทของมนุษย์จะเริ่มพัฒนาในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของตัวอ่อน และเป็นระบบแรก ๆ ที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับ การสร้างเซลล์ประสาท (Neurogenesis), การสร้างโครงสร้างของสมองและไขสันหลัง (Neurulation), และการพัฒนาเส้นประสาทรอบนอก (Peripheral Nervous System, PNS)

1.1.1 การพัฒนาโครงสร้างหลักของระบบประสาท
✅ ระยะเริ่มต้น: การก่อกำเนิดระบบประสาท (Neurulation)
⏳ ในสัปดาห์ที่ 3 - 4
• ระบบประสาทพัฒนามาจาก ชั้น Ectoderm ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ชั้นของตัวอ่อน (Germ Layers)
• บริเวณ Neural Plate (แผ่นประสาท) จะหนาตัวขึ้นและค่อย ๆ ม้วนเข้าหากันจนเกิดเป็น Neural Tube (ท่อประสาท) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสมองและไขสันหลัง
🔹 โดยกระบวนการ Neurulation จะแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน
1. การเหนี่ยวนำของ Neural Plate → เซลล์ของ Ectoderm ถูกกระตุ้นให้กลายเป็นเซลล์ประสาท
2. การม้วนตัวเป็น Neural Groove → แผ่นประสาทค่อย ๆ ม้วนตัวขึ้นจนเกิดเป็นร่องกลาง
3. การปิดของ Neural Tube → ร่องกลางปิดตัวลงกลายเป็นท่อประสาท ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของสมองและไขสันหลัง
4. การแตกแขนงของ Neural Crest Cells → เซลล์ที่อยู่ขอบของ Neural Tube หลุดออกมาและกลายเป็น ระบบประสาทรอบนอก (PNS), ระบบประสาทอัตโนมัติ (ANS), และเซลล์สร้างเม็ดสี

1.1.2 การพัฒนาของสมองและไขสันหลัง
✅ การแบ่งส่วนของสมอง (Brain Vesicles Formation)
⏳ สัปดาห์ที่ 4 - 5
หลังจากที่ Neural Tube ปิดตัวลง ส่วนหัวของ Neural Tube จะพองตัวออกและพัฒนาเป็น 3 ถุงน้ำสมองหลัก (Primary Brain Vesicles)
1. Prosencephalon (Forebrain - สมองส่วนหน้า)
• พัฒนาเป็น Cerebrum (สมองใหญ่), Thalamus, Hypothalamus, Retina
2. Mesencephalon (Midbrain - สมองส่วนกลาง)
• เชื่อมต่อการส่งสัญญาณระหว่างสมองส่วนหน้าและไขสันหลัง
3. Rhombencephalon (Hindbrain - สมองส่วนหลัง)
• พัฒนาเป็น Cerebellum (สมองน้อย), Pons, Medulla Oblongata
🔹 และเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 ถุงน้ำสมองหลักจะแบ่งออกเป็น 5 ส่วน (Secondary Brain Vesicles):
• Telencephalon → Cerebral Cortex, Basal Ganglia
• Diencephalon → Thalamus, Hypothalamus, Retina
• Mesencephalon → Midbrain
• Metencephalon → Pons, Cerebellum
• Myelencephalon → Medulla Oblongata

✅ การพัฒนาไขสันหลัง (Spinal Cord Development)
⏳ สัปดาห์ที่ 4 - 6
• Neural Tube บริเวณส่วนล่างจะพัฒนาเป็น Spinal Cord
• ภายในไขสันหลังจะแบ่งเป็น 2 ชั้นหลัก
1. Alar Plate (ด้านหลัง) → พัฒนาเป็นเซลล์ประสาทรับความรู้สึก (Sensory Neurons)
2. Basal Plate (ด้านหน้า) → พัฒนาเป็นเซลล์ประสาทสั่งการ (Motor Neurons)

1.1.3 การพัฒนาเส้นประสาทรอบนอก (Peripheral Nervous System, PNS)
✅ Neural Crest Cells และบทบาทในการสร้าง PNS
⏳ สัปดาห์ที่ 4 - 7
เซลล์จาก Neural Crest จะเคลื่อนออกจาก Neural Tube และพัฒนาเป็นโครงสร้างต่าง ๆ ของ PNS
🔹 โครงสร้างสำคัญที่มาจาก Neural Crest Cells
• Dorsal Root Ganglia → ศูนย์กลางของเซลล์ประสาทรับความรู้สึก
• Sympathetic Chain Ganglia → ควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ
• Schwann Cells → สร้างเยื่อไมอีลินให้กับเส้นประสาทรอบนอก
• Enteric Nervous System → ระบบประสาทของลำไส้

✅ การพัฒนาเส้นประสาทสมอง (Cranial Nerve Development)
⏳ สัปดาห์ที่ 5 - 7
• เส้นประสาทสมอง (Cranial Nerves, CN) ทั้ง 12 คู่เริ่มพัฒนาในช่วงนี้
• เส้นประสาทที่ควบคุมการมองเห็น (CN II - Optic Nerve) จะพัฒนาไปพร้อมกับ Retina
• เส้นประสาทเวกัส (CN X - Vagus Nerve) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมอวัยวะภายใน

1.1.4 กระบวนการเจริญเติบโตของเซลล์ประสาท (Neurogenesis & Synaptogenesis)
✅ การสร้างเซลล์ประสาท (Neurogenesis)
⏳ สัปดาห์ที่ 8 - 16
• เซลล์ต้นกำเนิดประสาท (Neural Progenitor Cells) ใน Ventricular Zone จะเริ่มแบ่งตัวและสร้างเซลล์ประสาทใหม่
• กระบวนการนี้เป็นพื้นฐานของการสร้างสมองและเครือข่ายประสาท

✅ การสร้างจุดเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาท (Synaptogenesis)
⏳ สัปดาห์ที่ 20 เป็นต้นไป
• เซลล์ประสาทที่เกิดใหม่จะสร้างแขนง Dendrites และ Axons
• เกิดการสร้างเครือข่ายประสาทผ่าน Synapse Formation
• กระบวนการนี้ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงวัยเด็ก

🔹 สรุป
1. ระบบประสาทเริ่มพัฒนาในสัปดาห์ที่ 3 ผ่านกระบวนการ Neurulation
2. Neural Tube พัฒนาเป็นสมองและไขสันหลัง โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก → 5 ส่วนรอง
3. Neural Crest Cells มีบทบาทสำคัญในการสร้างเส้นประสาทรอบนอก (PNS)
4. เซลล์ประสาทถูกสร้างขึ้นผ่านกระบวนการ Neurogenesis และ Synaptogenesis

🔅กระบวนการเหล่านี้เป็นพื้นฐานของระบบประสาททั้งหมด และเป็นเหตุผลว่าทำไมการฝังเข็มสามารถกระตุ้นการทำงานของสมองและเส้นประสาทผ่านการเชื่อมโยงทางชีวภาพตั้งแต่ระยะตัวอ่อน

✅ 1.2 การแบ่งเขตของร่างกายตาม Somite และ Dermatomes
• ร่างกายของมนุษย์แบ่งออกเป็น Somite หรือ Metameric Segments ซึ่งมีความสัมพันธ์กับ Dermatomes (บริเวณผิวหนังที่เส้นประสาทไขสันหลังแต่ละคู่เลี้ยง)
• บริเวณแขนและขามีการเชื่อมต่อกับ ไขสันหลังและสมองผ่านระบบประสาทส่วนกลาง

🔹 ตัวอย่าง:
• จุดฝังเข็มที่ขา (เช่น ST36 – Zusanli) เชื่อมโยงกับเส้นประสาทที่ส่งสัญญาณไปยังสมองและระบบทางเดินอาหาร
• จุดฝังเข็มที่มือ (เช่น LI4 – Hegu) สามารถกระตุ้นสมองผ่านเส้นประสาทไขสันหลังส่วนคอ

2. เหตุผลที่แขนและขาสามารถกระตุ้นสมองได้
✅ 2.1 Reflex Pathway (เส้นทางสะท้อนกลับของเส้นประสาท)
• เส้นประสาทที่เลี้ยงแขนและขามีการเชื่อมโยงกับ เส้นประสาทไขสันหลัง (Spinal Cord) และสมอง (Brainstem, Cerebrum, Cerebellum)
• การฝังเข็มที่แขนและขาจะส่งสัญญาณผ่านเส้นประสาทรับความรู้สึก (Afferent Nerve Fibers) ไปยัง ไขสันหลัง และสมองส่วนต่าง ๆ เช่น Hypothalamus และ Cortex

🔹 ตัวอย่าง:
• จุด LI4 (Hegu) ที่มือ → กระตุ้น สมองส่วน Somatosensory Cortex ช่วยบรรเทาอาการปวดหัว
• จุด ST36 (Zusanli) ที่ขา → ส่งสัญญาณไปยังสมองส่วนกลาง กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

✅ 2.2 Somatotopic Representation (การแทนที่ของร่างกายในสมอง)
• Homunculus Model (Cortical Representation in the Brain) อธิบายว่า แขน มือ และเท้า มีพื้นที่ประสาทขนาดใหญ่ในสมอง
• ดังนั้นการกระตุ้นจุดฝังเข็มบริเวณแขนและขาสามารถส่งผลโดยตรงต่อสมองได้

🔹 ตัวอย่าง:
• การฝังเข็มที่ขา ST36 (Zusanli) สามารถกระตุ้น Cortex ที่เกี่ยวข้องกับขาและอวัยวะภายใน
• การฝังเข็มที่มือ LI4 (Hegu) สามารถกระตุ้น Cortex ที่ควบคุมใบหน้าและศีรษะ

3. หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุน
✅ 3.1 การศึกษา fMRI และ EEG
• งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า การฝังเข็มที่แขนและขาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการทำงานของสมอง
• การใช้ Functional MRI (fMRI) และ Electroencephalography (EEG) แสดงให้เห็นว่า จุดฝังเข็มสามารถกระตุ้นบริเวณสมองที่เกี่ยวข้อง

🔹 ตัวอย่าง:
• จุด LI4 (Hegu) → กระตุ้น Somatosensory Cortex และ Pain Modulation Center ในสมอง
• จุด ST36 (Zusanli) → กระตุ้น Hypothalamus และ Brainstem ที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทอัตโนมัติ

✅ 3.2 การตอบสนองของสารสื่อประสาท (Neurotransmitter Release)
• การฝังเข็มที่แขนและขาสามารถ กระตุ้นการหลั่งสารสื่อประสาท เช่น Endorphins, Dopamine, Serotonin ซึ่งมีผลต่อสมองโดยตรง
• สิ่งนี้ช่วยลดอาการปวด ปรับสมดุลของระบบประสาท และส่งผลดีต่ออารมณ์

🔹 สรุป
1. แขนและขามีเส้นประสาทที่เชื่อมโยงกับสมองและไขสันหลัง ตั้งแต่ระยะตัวอ่อน
2. การฝังเข็มที่แขนและขาสามารถกระตุ้นสมองได้ผ่าน Reflex Pathways และ Cortical Representation
3. การศึกษา fMRI แสดงให้เห็นว่า จุดฝังเข็มสามารถกระตุ้นบริเวณสมองที่เกี่ยวข้อง
4. การฝังเข็มช่วยปรับสมดุลของสารสื่อประสาท เช่น Endorphins และ Dopamine ซึ่งมีผลต่อสมอง

✨ ดังนั้น การฝังเข็มที่แขนและขาจึงสามารถกระตุ้นสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีทฤษฎีและมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ ถ้าเอาไปเล่าให้เพื่อนร่วมวิชาชีพฟัง
คนฟังต้องมีจึ้งแน่นอนจ้า😘😘

17/02/2025

คลินิกปรับเวลาเปิดใหม่ เปิด พุธ-ศุกร์ เวลา 11.00-19.00 ค่ะ
วันเสาร์ 09.00-19.00 ค่ะ
หยุด อาทิตย์ จันทร์ อังคาร
โทรสอบถาม นัดพบแพทย์ 065-3595964

ที่อยู่

Srakeo

เบอร์โทรศัพท์

+66653595964

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ คลินิกแพทย์จีนอตินุช ฝังเข็มรักษาโรค สระแก้วผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง คลินิกแพทย์จีนอตินุช ฝังเข็มรักษาโรค สระแก้ว:

แชร์

ประเภท