07/01/2023
เตรียมตัวเป็น “แม่ค้าออนไลน์” เมื่อเข้าใจตลาดออนไลน์แล้วเราก็มาเตรียมตัวเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์กันเลยค่ะ
กำหนดงบลงทุน และเลือกสินค้าที่จะขาย งบลงทุน เป็นสิ่งแรกที่ต้องวางแผนงบการขายสินค้า เพราะจะเป็นตัวกำหนดกรอบวงเงินให้กับร้านค้าของเรา ป้องกันงบบานปลาย จากนั้นก็ต้องหาสินค้ามาขายควรเริ่มต้นจากความชอบของผู้ค้า และเช็คความต้องการของลูกค้าในตลาดด้วย ควรลงพื้นที่สำรวจสินค้า เพื่อให้ได้สินค้าที่ดีตรงกับความต้องการมากที่สุด
ช่องทางการขาย เลือกให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย ช่องทางการขายสินค้าออนไลน์มีหลากหลาย เช่น ขายบน เว็บไซต์ ที่เปิดใหม่ขึ้นเอง หรือขายผ่านแพลทฟอร์ม e-Marketplace เช่น Shopee, Lazada ก็สะดวกง่ายดาย หรือจะขายผ่าน Social Commerce อย่าง Facebook, IG, Line TikTok ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน แต่ก็อย่าลืมศึกษาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และการเข้าถึงของลูกค้า เพื่อที่จะได้เลือกช่องทางการขายได้ตรงกับการใช้งานกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
ทำการตลาดบนโซเชียลมีเดีย ต้องให้ความสำคัญกับการตลาดออนไลน์หรือการโปรโมทร้านค้าบนสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, TikTok, Twitter, Instagram, Line หรือ YouTube เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางการขายและการตลาด สื่อเหล่านี้สามารถเข้าถึงคนจำนวนมากได้ง่ายและรวดเร็ว ผู้ซื้อและผู้ขายโต้ตอบกันได้ทันที ช่วยประหยัดต้นทุนการโปรโมทได้มาก
บริหารจัดการ “เวลา” ให้ดี ก่อนจะเริ่มขายออนไลน์จริง ควรเตรียมการและซักซ้อมเรื่องการบริหาร “เวลา” ให้ดี เนื่องจากการขายออนไลน์จะมีการซื้อ-ขายกันตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ค้าต้องตั้งรับจุดนี้ให้ได้ เพื่อไม่ให้การค้าขายทำสมดุลชีวิตพัง
ช่องทางการชำระเงิน ลูกค้าต้องสะดวกที่สุด ผู้ค้าควรจัดเตรียมช่องทางการชำระเงินให้มีความหลากหลาย เพื่อความสะดวกแก่ลูกค้าเวลาชำระเงิน ไม่ว่าจะเป็นการเก็บเงินปลายทาง, การโอนจ่ายเงินผ่าน e-Banking, การจ่ายผ่านบัตรเครดิต/เดบิต รวมถึงควรระบุค่าธรรมเนียมในการจัดส่งให้ชัดเจนด้วย อีกทั้ง ต้องใส่ใจลูกค้าและรับผิดชอบหากเกิดกรณีผิดพลาด เช่น หากส่งสินค้าผิดหรือสินค้าเสียหาย(จากต้นทางที่ร้าน) อาจรับผิดชอบโดยการโอนเงินคืนให้ลูกค้า หรือเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่ฟรี เป็นต้น
เข้าใจการยื่นภาษีของร้านค้าออนไลน์ ขายของออนไลน์พ่อค้าแม่ค้าก็ต้องยื่นภาษีนะคะ ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้าออนไลน์ที่มีรายได้ทางเดียวจากการขายของออนไลน์ หรือจะทำงานประจำแล้วขายของออนไลน์ควบคู่ไปด้วย ต่างก็ต้องยื่นภาษี 2 แบบ คือ ภ.ง.ด. 94 และ ภ.ง.ด. 90 โดยจะต้องยื่นภาษีตามที่กรมสรรพากรกำหนด
จัดส่งสินค้าต้องเร็ว ราคาไม่แพง การจัดส่งสินค้าก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องศึกษาให้ดี ต้องเลือกระบบขนส่งสินค้าที่ส่งของได้เร็ว ง่าย สะดวก มีบริการที่ดี ที่สำคัญคือ ค่าส่งไม่แพง เพื่อให้ได้กำไรมากขึ้น