แพทย์ยุพิน คลินิกสูตินรีเวช จ สุรินทร์

แพทย์ยุพิน คลินิกสูตินรีเวช จ สุรินทร์ คลินิกสูตินรีเวช คลองชลประทาน ตรงข้ามโคลงช้างสวนใหม่ ใกล้สนามกีฬาศรีณรงค์ 229/15-16 ถ.หลักเมือง อ.เมือง

31/07/2025

ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่หลายคนอาจได้รับคำแนะนำให้กินอาหารให้เพียงพอ เพื่อให้น้ำหนักทารกในครรภ์เติบโตตามเกณฑ์

ในคำเล่าปากต่อปากหนึ่งในตัวช่วยที่หลายคนสนใจคือ “โปรตีนเชค” เพราะสะดวก ดื่มง่าย และเชื่อกันว่าให้โปรตีนสูง แต่โปรตีนเชคมีประโยชน์จริงหรือ? และควรระวังอะไรบ้าง?

วันนี้หมอจะขอมาเล่าให้ฟังครับ

•••••••••

✅ โปรตีนสำคัญอย่างไรต่อทารกในครรภ์
• โปรตีนเป็นสารอาหารหลักที่ช่วยสร้างเนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ และอวัยวะต่างๆ ของทารก
• แม่ที่ได้รับโปรตีนไม่เพียงพออาจเสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักทารกน้อยกว่าปกติ (FGR)

🍼 โปรตีนเชคช่วยได้ไหม?

งานวิจัยบางฉบับพบว่า:
• การเสริมโปรตีนคุณภาพดี #ในหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะทุพโภชนาการ หรือมีความเสี่ยงทารกโตช้าในครรภ์ อาจช่วยให้น้ำหนักทารกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
• อย่างไรก็ตาม การได้รับโปรตีนที่มากเกินไป โดยเฉพาะจากแหล่งสังเคราะห์หรือโปรตีนเชคสูตรที่ไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์ #อาจเพิ่มภาระการทำงานของไต และไม่ปลอดภัย ข้อนี้สำคัญทีเดียวครับ

⚠️ สิ่งที่ควรระวัง

1. ไม่ใช่ทุกยี่ห้อเหมาะกับหญิงตั้งครรภ์ – บางสูตรมีคาเฟอีน สารให้ความหวานเทียม วิตามินเกินขนาด หรือสารสังเคราะห์ที่ยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัยในครรภ์

2. #ไม่ควรใช้แทนอาหารหลัก – ควรกินอาหารให้ครบหมู่ก่อน แล้วค่อยใช้โปรตีนเสริมในกรณีที่ได้รับโปรตีนไม่พอจากอาหารเท่านั้นครับ

3. ควรปรึกษาแพทย์หรือโภชนากร – เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสุขภาพและพัฒนาการของทารก

••••••••

👩‍⚕️ สรุปสำหรับคุณแม่

• โปรตีนเชค “อาจ” มีบทบาทช่วยเพิ่มน้ำหนักทารก หากใช้ในกรณีที่แม่ได้รับโปรตีนไม่เพียงพอจากอาหารและมีภาวะทุพโภชนาการ

• ควรเลือกอย่างระมัดระวัง ไม่ควรใช้สุ่มสี่สุ่มห้า

• ทางเลือกที่ดีที่สุดอันดับต้นคือการได้รับโปรตีนจากอาหารจริง เช่น เนื้อปลา ไข่ เต้าหู้ ถั่ว และนม

• หากคุณแม่มีภาวะทารกโตช้าในครรภ์ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด การดูแลสุขภาพ การทานยาบำรุงเลือด การทานอาหารครบหมู่และสมดุลสำคัญสุดครับ

29/07/2025
29/07/2025
26/07/2025
25/07/2025

✅ กินน้อยแต่บ่อย – ห้ามปล่อยให้ท้องว่าง เช่น กินขนมปัง โจ๊ก กล้วย ทุก 2–3 ชั่วโมง
✅ หลีกเลี่ยงของมัน กลิ่นแรง อาหารรสจัด
✅ ดื่มน้ำจิบบ่อย ๆ – น้ำขิงอ่อน ๆ หรือน้ำเปล่าช่วยได้
✅ กินอาหารที่มีวิตามิน B6 – เช่น กล้วย ไข่ ถั่วลิสง
✅ พักผ่อนให้พอ – งีบสั้น ๆ ระหว่างวันช่วยลดอาการ
✅ ลดเครียด ผ่อนคลาย – ฟังเพลง หายใจลึก หรือเดินเบา ๆ
✅ ใช้กลิ่นบำบัด – กลิ่นมะนาว เปลือกส้มช่วยลดเวียนหัว

••••••••

ทำตามนี้ไม่ดีขึ้น …. ปรึกษาหมอ รับยาที่ปลอดภัย จะช่วยบรรเทาได้เยอะครับ

.🎉Elevit วิตามินบำรุง และระหว่างตั้งครรภ์ มีจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วไม่ต้องลุ้นสินค้าหิ้วElevit ดีกว่าวิตามินบำรุงครรภ...
23/07/2025

.
🎉Elevit วิตามินบำรุง และระหว่างตั้งครรภ์
มีจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว
ไม่ต้องลุ้นสินค้าหิ้ว
Elevit ดีกว่าวิตามินบำรุงครรภ์อื่นอย่างไร?
🩷🩵 Elevit ประกอบด้วย Metafolin® หรือโฟเลตรูปแบบ Active Form ที่ร่างกายใช้ได้ทันที ซึ่งหญิงไทยเกิน50% มักมีภาวะ genetic polymorphysm ซึ่งไปลดประสิทธิภาพการทำงานของเอนไซม์ในการเปลี่ยนโฟลิกให้เป็นในรูปรูปแบบที่ใช้งานได้ ดังนั้นการทาน metafolin ทำให้มั่นใจได้ว่าคนไข้ได้รับโฟเลตอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด หวังผลในการลดภาวะเสี่ยงต่อ neuro tube defect ได้ถึง92%
🩷🩵 Elevit ประกอบด้วยธาตุเหล็ก Ferrous bisglycinate ซึ่งเป็น Chelated iron ที่ให้การดูดซึมได้ดีกว่าเพราะไม่ถูกแย่งจับกับอาหารและสารอื่นๆ อ่อนโยนต่อกระเพาะ ลดอาการคลื่นไส้และท้องผูก ให้ธาตุเหล็กเพียงพอโดยไม่ต้องใช้ปริมาณสูง เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และผู้ที่ต้องการเสริมธาตุเหล็กอย่างมีประสิทธิภาพ
🩷🩵 Elevit มีการศึกษาวิจัยรองรับที่แสดงให้เห็นว่าการรับประทาน Elevit ช่วยลดความเสี่ยงต่อความผิดปกติของท่อประสาทในทารกและภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์
🩷🩵 Elevit ให้สารอาหารครบถ้วนในปริมาณสูงหากเปรียบเทียบต้นทุนรวมของการซื้อวิตามินเสริมหลายตัว (เช่น กรดโฟลิก, ธาตุเหล็ก) ราคาของ Elevit อาจถูกกว่าการซื้อแยกหลายเม็ด
#สนใจสอบถามที่คลินิกได้ค่ะ

23/07/2025

คำแนะนำวัคซีนสำหรับคนท้องนะคะ
COVID19 ได้ตลอดการตั้งครรภ(แนะนำ12-20สัปดาห์)
ไข้หวัดใหญ่ ได้ตลอดการตั้งครรภ์ (แนะนำ12-20 สัปดาห์)
Tdap 27-36 สัปดาห์ 1โดส
RSV 32-36 สัปดาห์ 1โดส
toxoid 0-3 โดสได้ตลอดการตั้งครรภ์
สนใจสอบถามได้นะคะ
**COVID19 มีเฉพาะที่รพ.**

23/07/2025

วัคซีน RSV สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
RSV คืออะไร?
RSV (Respiratory Syncytial Virus) หรือไวรัสระบบทางเดินหายใจอาร์เอสวี เป็นไวรัสที่พบบ่อยในเด็กเล็ก โดยเฉพาะทารกอายุน้อยกว่า 1 ปี สามารถทำให้เกิดโรครุนแรง เช่น หลอดลมฝอยอักเสบ (bronchiolitis) หรือปอดอักเสบ (pneumonia) ซึ่งอาจนำไปสู่การต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้

วัคซีน RSV สำหรับหญิงตั้งครรภ์คืออะไร?
วัคซีน RSV สำหรับหญิงตั้งครรภ์ได้รับการพัฒนาเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในแม่และถ่ายทอดแอนติบอดีผ่านทางรกไปยังทารกในครรภ์ ทำให้ทารกมีภูมิคุ้มกันต่อ RSV ตั้งแต่แรกเกิด โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิตที่ยังไม่สามารถรับวัคซีนได้เอง

ประโยชน์ของการฉีดวัคซีน RSV ในระหว่างตั้งครรภ์
• ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ RSV ในทารก
• ลดอัตราการเข้าโรงพยาบาลจากภาวะแทรกซ้อนของ RSV
• เป็นการป้องกันแบบพาสซีฟ (Passive immunity) ซึ่งช่วยให้ทารกมีภูมิคุ้มกันในช่วงที่ร่างกายยังสร้างภูมิเองไม่ได้ในช่วง 6 เดือนแรก

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฉีดวัคซีน
วัคซีนนี้แนะนำให้ฉีดในช่วงสัปดาห์ที่ 24 ถึง 36 ของการตั้งครรภ์ เพื่อให้ร่างกายมีเวลาสร้างภูมิคุ้มกันและถ่ายทอดไปยังทารกได้มากที่สุดก่อนคลอด
*** มีที่คลินิกแล้วนะคะสนใจสอบถามได้ค่ะ ****

23/07/2025

วัคซีน RSV ในหญิงตั้งครรภ์

ประโยชน์ต่อมารดาและทารกแรกเกิด ตารางการให้วัคซีน และคำแนะนำจากนานาชาติ

ไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างอย่าง #รุนแรงในทารก โดยเฉพาะในช่วงอายุต่ำกว่า 6 เดือน การให้วัคซีนในระหว่างตั้งครรภ์สามารถช่วยปกป้องทารกได้ ผ่านการส่งผ่านภูมิคุ้มกันจากแม่สู่ลูกตั้งแต่ก่อนคลอด

••••••

#ประโยชน์ของวัคซีน

สำหรับทารก:

• ภูมิคุ้มกันสร้างได้ตั้งแต่อยู่ในท้อง: ทารกได้รับแอนติบอดีจากแม่ ทำให้มีภูมิคุ้มกันในช่วงเดือนแรกที่มีความเสี่ยงสูง

• ลดอัตราการนอนโรงพยาบาล: งานวิจัยพบว่าอัตราการนอนโรงพยาบาลจาก RSV หลังคลอดลดลงได้ถึง 50–80% สูงมากนะครับ

• ลดความรุนแรงของโรค: ทารกที่แม่ได้รับวัคซีนหากติดเชื้อ มักมีอาการไม่รุนแรงเท่าทารกที่ติดเชื้อโดยมารดาไม่ได้รับวัคซีนตอนท้อง

••••••••

สำหรับคนท้อง:

• วัคซีนมีความปลอดภัยในหญิงตั้งครรภ์

• แม้ RSV จะมักไม่รุนแรงในผู้ใหญ่ที่สุขภาพดี แต่การฉีดวัคซีนช่วยลดความกังวลและภาระในการดูแลบุตรป่วยหลังคลอดได้ หากลูกคลอดก่อนกำหนดแล้วเกิดติดเชื้อนี้ขึ้นมาหลังคลอดอาการจะเสี่ยงต่อความรุนแรงได้สูงเป็นต้น

••••••••

#ชนิดวัคซีนและตารางการให้

• วัคซีนที่ได้รับการอนุมัติ: Abrysvo™ (ผลิตโดย Pfizer)

• กลุ่มเป้าหมาย: หญิงตั้งครรภ์ที่มีความพร้อมหรือพบว่าทารกในครรภ์มีปัจจัยเสี่ยง

• ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ฉีด 1 เข็ม ระหว่างอายุครรภ์ 32–36 สัปดาห์ ที่แนะนำช่วงเวลานี้เพราะจะช่วยให้แอนติบอดีถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้อย่างดี

สหรัฐอเมริกา (CDC) แนะนำให้ฉีดระหว่างสัปดาห์ที่ 32–36 ในฤดูระบาด (ก.ย.–ม.ค.) มุ่งเน้นปกป้องทารก

สหราชอาณาจักร (NHS/JCVI) อนุมัติแล้ว กำลังเตรียมเริ่มใช้งาน คาดว่าเริ่มเร็ว ๆ นี้

แคนาดา อนุมัติแล้ว อยู่ระหว่างจัดทำแนวทาง พิจารณาผลกระทบต่อประชากร

สหภาพยุโรป (EMA) อนุมัติให้ใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ประเทศสมาชิกกำหนดนโยบายเอง

องค์การอนามัยโลก (WHO) สนับสนุนการใช้ในหญิงตั้งครรภ์ สำคัญในพื้นที่ที่โรคระบาดรุนแรง

ประเทศไทย มีการรับรองการใช้วัคซีนนี้ในหญิงตั้งท้องแล้ว โดยมีการกำหนดให้เป็นวัคซีนทางเลือกที่สามารถให้ได้ตามความสมัครใจครับ โดยไทยกำหนดไว้ช่วงอายุครรภ์ 24-36 สัปดาห์ครับ

••••••••

ประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณา

• ช่วงเวลาการให้วัคซีน: ควรสอดคล้องกับฤดูการระบาดของ RSV ในแต่ละพื้นที่ สำหรับประเทศไทยมีการพิจารณากันว่าสามารถให้ได้ทุกช่วงของปี โดยพิจารณาให้ตามอายุครรภ์ที่กล่าวไว้ข้างต้น

• ความเท่าเทียมในการเข้าถึง: มีความสำคัญอย่างยิ่งในประเทศรายได้น้อยหรือการเข้าถึงบริการสุขภาพต่ำ เพราะวัคซีนนี้ยังไม่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงในปัจจุบัน การเข้าถึงจึงอาจไม่สามารถเข้าถึงได้ในทุกๆคนท้อง โดยให้พิจารณาตามความพร้อม และความเสี่ยงของทารกแรกคลอดที่อาจได้รับอันตรายจากการติดเชื้อที่รุนแรงเช่น ทารกคลอดก่อนกำหนด ทารกที่มีโรคหัวใจพิการเป็นต้น

• การฉีดร่วมกับวัคซีนอื่น: สามารถให้พร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือ Tdap ได้ ขึ้นอยู่กับแนวทางแต่ละประเทศครับ

•••••••

สรุป

วัคซีน RSV สำหรับหญิงตั้งครรภ์ถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญในการปกป้องทารก มีคุณสมบัติดังนี้:

• ปลอดภัยและได้ผลดี
• ให้ภูมิคุ้มกันตั้งแต่แรกเกิด
• ได้รับการยอมรับจากองค์กรระดับโลก

ณ เวลานี้ ประเทศไทยรับรองแล้ว ใครพร้อมและกังวลเรื่องความเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรงหลังคลอดสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมกับแพทย์ พยาบาล ได้เพื่อตัดสินใจนะครับ มีในหลายๆที่แล้วแต่อาจยังไม่ใช่ทุกสถานพยาบาลครับ

ฉีดตามเวลาที่เหมาะสม และ อย่างน้อยขอให้ทัน 2 สัปดาห์ก่อนคลอดนะครับ

มาฉีดกันนะคะ
23/07/2025

มาฉีดกันนะคะ

หมอจะแนะนำให้คนไข้ทุกคนตรวจเสมอ ช่วงที่จะตรวจได้เป็นช่วงสั้นๆนะคะ 14-18 สัปดาห์ บวกลบเล็กน้อย ดังนั้นคุณแม่ควรใส่ใจรีบตร...
09/07/2025

หมอจะแนะนำให้คนไข้ทุกคนตรวจเสมอ ช่วงที่จะตรวจได้เป็นช่วงสั้นๆนะคะ 14-18 สัปดาห์ บวกลบเล็กน้อย ดังนั้นคุณแม่ควรใส่ใจรีบตรวจนะคะ

อย่าเข้าใจผิดว่าการมีลูกเป็นดาวน์ซินโดรมนั้นเกิดเฉพาะในคุณแม่ที่มีอายุมาก แต่ความจริงแล้ว หญิงตั้งครรภ์ทุกคนล้วนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม เพราะสาเหตุของดาวน์ซินโดรมเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยการกินยา การดูแลสุขภาพ หรือการปฏิบัติตัวอย่างไร

ดาวน์ซินโดรมคืออะไร?

ดาวน์ซินโดรม (Down syndrome) เป็นภาวะที่เด็กมีโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง ทำให้มีโครโมโซมรวมเป็น 47 แทนที่จะเป็น 46 ส่งผลต่อพัฒนาการทั้งทางร่างกาย สติปัญญา และการเรียนรู้ของเด็ก ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของแม่ หรือพ่อขณะตั้งครรภ์

ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามอายุ

แม้ทุกคนจะมีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงของการมีลูกเป็นดาวน์ซินโดรมจะ เพิ่มขึ้นตามอายุของแม่อย่างชัดเจน เช่น หญิงที่ตั้งครรภ์ในช่วงอายุ 20–30 ปี มีโอกาสน้อยกว่าเมื่อเทียบกับหญิงที่ตั้งครรภ์ในวัย 35 ปีขึ้นไป ซึ่งความเสี่ยงจะสูงขึ้นมากในช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป

ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ควรรู้

นอกจากอายุแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่เพิ่มความเสี่ยงในการมีลูกเป็นดาวน์ซินโดรม เช่น
• เคยมีลูกที่เป็นดาวน์ซินโดรมมาก่อน
• มีประวัติคนในครอบครัวเป็นดาวน์ซินโดรม
• เป็นพาหะของความผิดปกติทางพันธุกรรมบางชนิด (เช่น translocation)
• อายุของพ่อที่มากขึ้น แม้จะมีผลน้อยกว่าฝ่ายแม่แต่ก็อาจมีส่วน
• การตั้งครรภ์จากการรักษาภาวะมีบุตรยากในบางกรณี

ป้องกันไม่ได้ 100% แต่สามารถตรวจคัดกรองได้

เพราะดาวน์ซินโดรมเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซม จึง ไม่สามารถป้องกันได้ด้วยการกินยา อาหารเสริม หรือการใช้ชีวิต อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสามารถตรวจคัดกรองได้ตั้งแต่ช่วงต้นของการตั้งครรภ์ เช่น การตรวจเลือดของแม่ร่วมกับอัลตราซาวนด์ หรือการตรวจทางพันธุกรรมแบบไม่รุกล้ำ (NIPT)

หากผลคัดกรองพบว่าความเสี่ยงสูง ก็สามารถตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมได้ เพื่อให้ครอบครัวสามารถตัดสินใจและเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม



สรุป
• หญิงตั้งครรภ์ทุกคนมีความเสี่ยงที่จะมีลูกเป็นดาวน์ซินโดรม แม้อายุยังน้อย
• ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะหลังอายุ 35 ปี
• ไม่มีวิธีป้องกัน 100% เพราะเป็นเรื่องของพันธุกรรม
• ควรรับการตรวจคัดกรองตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อวางแผนการดูแลและตัดสินใจอย่างรอบคอบ

รู้ก่อน วางแผนก่อน คือกุญแจสำคัญในการรับมือกับภาวะดาวน์ซินโดรมอย่างมีสติและเข้าใจ

หากคุณหรือคนในครอบครัวกำลังตั้งครรภ์ อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางพันธุกรรม เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับคุณที่สุดครับ

ที่อยู่

229/15-16 ถ หลักเมือง อ เมือง จ สุรินทร์32000
Surin
32000

เวลาทำการ

จันทร์ 17:00 - 20:00
อังคาร 17:00 - 20:00
พุธ 17:00 - 20:00
พฤหัสบดี 17:00 - 20:00
ศุกร์ 17:00 - 20:00
เสาร์ 08:00 - 11:45
อาทิตย์ 08:00 - 12:45

เบอร์โทรศัพท์

0818788133

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ แพทย์ยุพิน คลินิกสูตินรีเวช จ สุรินทร์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์