01/03/2020
#หญิงตั้งครรภ์มีโอกาสเสี่ยงเกิดโรคกรดไหลย้อนได้
หญิงตั้งครรภ์มีโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคกรดไหลย้อนได้ มากกว่าหญิงทั่วไป เนื่องจากความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น จากการเจริญติบโตของเด็กทารก ยิ่งอายุครรภ์เพิ่มขึ้น (เด็กมีขนาดตัวใหญ่ขึ้น) ความดันในช่องท้องก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น (กลไกเดียวกับผู้ที่เป็นโรดอ้วน) ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายหญิงตั้งครรภ์ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนโพรเจสเกอโรน (Progesterone) มากกว่าปกติ ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้จะส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของความดันในช่องท้องโดยตรงทำให้หญิงตั้งครรภ์มีโอกาสเกิดโรคกรดไหลย้อนมากขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ความดันหูรูดของหลอดอาหาร
ส่วนปลายจะลดลง ขณะที่ความดันในช่องท้องกลับเพิ่มขึ้นจากการมีทารกในมดลูกร่วมกับการเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวในระบบทางเดินอาหารที่ลุดลง
#ข้อแนะนำการปฎิบัติ คือ
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อบรรเทาอาการแทน เช่น ไม่ใส่เสื้อผ้ารัดรูปเพื่อไม่ให้ความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น
2. หลังรับประทานอาหารเสร็จไม่ควรนอนทันที แต่ควรรอสัก 3-4 ชั่วโมง เพราะอาจยังมีอาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร และมีโอกาสที่กรดจะไหลย้อนขึ้นมาได้
3. ควรหาสมุนไพรที่ช่วยลดลำไส้แปรนปรวน ขับลม ช่วยลดแรงดันในช่องท้อง ระบายลมในช่องท้อง ผ่อนคลาย รวมถึงช่วยลดการหดเกร็งของร่างกาย เพื่อช่วยให้กระเพาะอาหารย่อยอาหารได้ดีขึ้นด้วย เช่น เปเปอร์มิ้น ,สาระแหน่,น้ำมันทานตะวัน เป็นต้น
4. ควรหาสมุนไพรที่ช่วยกระบวนการย่อย และช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร เช่น ขิง ,โสม เป็นต้น
5. ควรช่วยบรรเทาอาการท้องผูก เช่น น้ำมันดอกทานตะวัน, โยเกิร์ต Probiotics ,ไฟเบอร์ ,เม็ดแมงลัก ,ใบมะรุม ,ขี้เหล็ก ,สมอไทย, ผักกาดขาว เป็นต้น