First STEP’s KIDS คลินิกพัฒนาการเด็ก อุบลราชธานี

First STEP’s KIDS คลินิกพัฒนาการเด็ก อุบลราชธานี คลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็กที่มีปัญหาพัฒนาการล่าช้าไม่สมวัย,สมาธิสั้น,ซน อยู่ไม่นิ่ง,ออทิสติก,พูดช้า,เรียนรู้ช้า โดยนักกิจกรรมบำบัด

Child deverlopment clinic and Learning center
คลินิกกระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการ ฝึกพัฒนาการเด็ก,กิจกรรมบำบัด,ฝึกพูดเบื้องต้น,ปรับพฤติกรรม,กิจกรรมกลุ่ม
โดยนักกิจกรรมบำบัดเด็กวิชาชีพ
ใบอนุญาตเลขที่ 34109000165

การรับรู้ทางสายตา (Visual Perception)🔹 ทักษะนี้สำคัญมาก เพราะเกี่ยวข้องกับ • การอ่าน 📖 • การเขียน ✏️ • การคำนวณ ➗✖️ • กา...
22/08/2025

การรับรู้ทางสายตา (Visual Perception)
🔹 ทักษะนี้สำคัญมาก เพราะเกี่ยวข้องกับ
• การอ่าน 📖
• การเขียน ✏️
• การคำนวณ ➗✖️
• การเรียนรู้ในชีวิตประจำวัน
❗ หากเด็กมีปัญหาการรับรู้ทางสายตา อาจทำให้
• อ่านแล้วหลงบรรทัด
• คัดลอกจากกระดานได้ช้า
• จำตัวอักษรไม่ได้
• สับสนซ้าย-ขวา
• หาของไม่เจอ
• เรียนรู้ช้า เรียนไม่ทันเพื่อน
• มีปัญหาการเรียนรู้

💡 รู้ทันปัญหาตั้งแต่เนิ่น ๆ = ช่วยให้ลูกเรียนรู้ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น 🌱

————————————————————————

Location📍 https://maps.app.goo.gl/RN1uMFkuCBRUfZxp7?g_st=com.google.maps.preview.copy
📞 095-6671726,081-6909289
📩 https://lin.ee/lljqiyV

#กระตุ้นพัฒนาการเด็กอุบล #กระตุ้นพัฒนาการเด็กอุบลราชธานี #ประเมินพัฒนาการเด็ก #ฝึกกิจกรรมบำบัดอุบลราชธานี #ส่งเสริมพัฒนาการ #เสริมพัฒนาการอุบล #กระตุ้นพัฒนาการอุบล #ลูกไม่มีสมาธิ #ลูกซนไม่นิ่ง #ลูกพูดช้า #ลูกไม่พูด #ฝึกพัฒนาการอุบลราชธานี #กระตุ้นพัฒนาการอุบลราชธานี #พัฒนาการเด็ก #กิจกรรมบำบัดอุบล #ฝึกพัฒนาการอุบลราชธานี

👶 ลูกน้อยกำลังโตทุกวัน แต่ถ้ามีสัญญาณเหล่านี้…อย่านิ่งนอนใจนะคะเพราะยิ่งรู้เร็ว ก็ยิ่งช่วยให้ลูกพัฒนาได้ไวขึ้น 💙📌 5 สัญญ...
06/08/2025

👶 ลูกน้อยกำลังโตทุกวัน แต่ถ้ามีสัญญาณเหล่านี้…อย่านิ่งนอนใจนะคะ
เพราะยิ่งรู้เร็ว ก็ยิ่งช่วยให้ลูกพัฒนาได้ไวขึ้น 💙
📌 5 สัญญาณเตือนพัฒนาการช้า
1️⃣ ไม่สบตา ไม่ยิ้มตอบ เวลาเราพูดหรือเล่นด้วย
2️⃣ อายุเกิน 18 เดือนแล้วยังไม่พูดคำเดี่ยว
3️⃣ เดินช้ากว่า 18 เดือน หรือยังไม่ยืนเองได้
4️⃣ ไม่เล่นเลียนแบบ เช่น โบกมือ บ๊ายบาย หรือทำท่าตบมือ
5️⃣ ไม่สนใจคนรอบข้าง ชอบเล่นคนเดียวตลอด

💡 ถ้าพบ 1 ในสัญญาณเหล่านี้ แนะนำให้พาลูกมาตรวจประเมินพัฒนาการ
เพื่อวางแผนกระตุ้นให้เหมาะสมกับวัยค่ะ

————————————————————————

📌 5 Warning Signs of Developmental Delay
1️⃣ No eye contact or no responsive smile when you talk or play with them
2️⃣ Over 18 months old and still not saying single words
3️⃣ Walking later than 18 months or still unable to stand on their own
4️⃣ Not engaging in imitation play, such as waving goodbye or clapping hands
5️⃣ Shows no interest in people around them and prefers to play alone all the time

💡 If you notice even one of these signs, it’s recommended to bring your child for a developmental assessment
to plan age-appropriate stimulation

Location📍 https://maps.app.goo.gl/RN1uMFkuCBRUfZxp7?g_st=com.google.maps.preview.copy
📞 095-6671726,081-6909289
📩 https://lin.ee/lljqiyV

17/07/2025

“พ่อแม่อยากให้เลี้ยงแบบหนึ่ง ตายายเลี้ยงอีกแบบ” แล้วลูกจะโตยังไงดี?

ในยุคที่พ่อแม่ยุคใหม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน บางบ้านต้องเดินทางไปต่างจังหวัด หรือต้องพึ่งพาคนช่วยเลี้ยง

“ตายาย” จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการเลี้ยงดูลูกแทน
แต่นั่นก็มาพร้อมคำถามที่คาใจใครหลายคน...

เมื่อพ่อแม่อยากเลี้ยงลูกแบบหนึ่ง แต่ตายายกลับเลี้ยงอีกแบบ — แล้วจะทำยังไงให้ไม่ปะทะกัน?

🎭 เมื่อต่างยุค ต่างแนวคิด
พ่อแม่ยุคใหม่: อ่านหนังสือ ฟังพอดแคสต์ เชื่อในวิธีเชิงวิทยาศาสตร์ เช่น ไม่ตี สื่อสารด้วยเหตุผล ตั้งขอบเขตด้วยใจเย็น

ตายายยุคก่อน: เชื่อในประสบการณ์ตรง สไตล์บ้านๆ เน้นอบอุ่น เอาใจ บางครั้งตามใจเพราะ "สงสาร" หรือ “ทำแบบนี้ลูกเราก็โตมาได้นี่นา”

แล้วเมื่อลูกดื้อ…
แม่บอกว่า “อย่าตี”
ยายบอกว่า “ไม่ตี ไม่รู้จักกลัว”
เมื่อพ่อบอกว่า “อย่าตามใจมาก”
ตาบอกว่า “ไม่เป็นไรหรอก เด็กมันยังเล็ก”

👶 แล้วผลกระทบกับลูกคืออะไร?
เด็กสับสนว่าอะไรผิด-ถูก เพราะผู้ใหญ่พูดไม่ตรงกัน

เด็กบางคน “เลือกข้าง” เช่น จะเอาใจยายเพราะอยากได้ของเล่น

เด็กบางคนเริ่ม “เก็บความรู้สึก” เพราะกลัวพูดผิดจะทำให้ผู้ใหญ่ทะเลาะกัน

🤝 แล้วจะหาทางออกยังไง?
💬 1. สื่อสารแบบ “ชวนกันเป็นทีม” ไม่ใช่ “สั่ง”
แทนที่จะพูดว่า
❌ “แม่อย่าเลี้ยงแบบนี้นะ มันผิด”
ลองเปลี่ยนเป็น
✅ “แม่จ๋า ถ้าเราช่วยกันแบบนี้ น่าจะทำให้ลูกนิ่งขึ้นได้นะ”
📚 2. ให้เหตุผลแบบง่ายๆ ที่ไม่ทำให้ตายายเสียหน้า
แทนที่จะบอกว่า "อันนี้ไม่ดี"
ให้พูดว่า "หมอเขาแนะนำมาแบบนี้ เพราะเด็กจะเรียนรู้เร็วกว่า"
🧸 3. ชวนตายายเข้าไปอยู่ในวงของการเรียนรู้
ชวนไปคลาสพ่อแม่, แชร์คลิปสั้น ๆ, หรือให้ดูพัฒนาการลูกตอนเล่นกิจกรรม แล้วบอกว่า “ลูกเก่งขึ้นเพราะเราเลี้ยงร่วมกันนะ”
🫂 4. ให้ “ความสำคัญ” กับบทบาทตายาย
อย่าให้เขารู้สึกว่าเป็นแค่ "พี่เลี้ยงจำเป็น"
เพราะความภูมิใจในบทบาท = ความร่วมมือที่ดีขึ้น

💡 บทสรุป:
การเลี้ยงลูกยุคนี้ไม่ต้องเหมือนกันเป๊ะ
แต่ต้อง “เข้าใจเป้าหมายเดียวกัน” ว่า เรากำลังช่วยกันให้เด็กเติบโตแบบมั่นคงทั้งใจและพฤติกรรม
บ้านที่อบอุ่นไม่ใช่บ้านที่คิดเหมือนกันทุกเรื่อง
แต่คือบ้านที่ “พร้อมฟังกันแม้จะคิดไม่เหมือนกัน” ❤️

เฟิร์สสเตปคิดส์คลินิก จัดกิจกรรมการตรวจคัดกรองพัฒนาการเด็กปฐมวัย ระหว่างวันที่ 1-4 กรกฎาคม 2568 ณ โรงเรียนอัสสัมชัญ อุบล...
04/07/2025

เฟิร์สสเตปคิดส์คลินิก จัดกิจกรรมการตรวจคัดกรองพัฒนาการเด็กปฐมวัย ระหว่างวันที่ 1-4 กรกฎาคม 2568 ณ โรงเรียนอัสสัมชัญ อุบลราชธานี 💓

15/06/2025

Weekend mode on⭐️
โปรแกรมกระตุ้นพัฒนาการ (เสาร์-อาทิตย์)
- กระตุ้นพัฒนาการรายบุคคล
- ฝึกกิจกรรมบำบัดกลุ่ม
- ฝึกอ่านเขียน
- ฝึกสมาธิ
- ฝึกพูดเบื้องต้น

#กระตุ้นพัฒนาการเด็กอุบลราชธานี #ลูกไม่พูด #ลูกซนไม่นิ่ง #เสริมพัฒนาการอุบล #ฝึกกิจกรรมบำบัดอุบลราชธานี #เสริมพัฒนาการอุบล #ลูกพูดช้า #ส่งเสริมพัฒนาการ #ประเมินพัฒนาการเด็ก #กระตุ้นพัฒนาการอุบล

09/06/2025

ทำไมต้องเรียนรวม เรียนร่วม: ว่าด้วยการศึกษาพิเศษในสหราชอาณาจักร
เวลาคุยกับใครแล้วบอกว่าเราเป็นครูในโรงเรียนการศึกษาพิเศษ (special school) ที่อังกฤษ คำถามที่มักตามมาเสมอคือ ‘ตกลงที่อังกฤษเรียนรวม (inclusion) หรือเรียนร่วม (integration)’ และยิ่งเมื่อรู้ว่า โรงเรียนทุกแห่งในอังกฤษมีนโยบายรับเด็กพิเศษเข้าเรียน คำถามต่อมาจึงเป็น ‘แล้วโรงเรียนการศึกษาพิเศษมีไว้เพื่ออะไร’ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในงานเขียนชิ้นนี้ เราจึงอยากชวนทุกคนรู้จักกับ
งานแรกของครูปิ่น
ประสบการณ์การทำงานแรกในสหราชอาณาจักรของเรา คือ Special Needs Teaching Assistant หรือครูประกบนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ ณ หน่วยการศึกษาพิเศษ (Inclusion Unit) ในโรงเรียนมัธยมชายล้วนแห่งหนึ่งในเขตแฮมเมอร์สมิธแอนด์ฟูแลม (Hammersmith & Fulham) ในลอนดอน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูง หน่วยของเราสร้างเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนออทิสติกได้เรียนร่วมในโรงเรียนทั่วไป โดยเฉพาะ หน้าที่หลักคือช่วยครูประจำชั้นในห้องเรียนและพานักเรียนเหล่านี้ไป ‘เรียนร่วม’ (integration education) กับชั้นเรียนทั่วไป โดยส่วนใหญ่มักเป็นวิชาที่นักเรียนมีความถนัดและสามารถเรียนรู้ได้ดี เช่น คณิตศาสตร์ ภูมิศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และดนตรี การทำงานใกล้ชิดกับนักเรียนเหล่านี้ทำให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับวิธีการสอนให้เข้ากับความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล
การได้ใกล้ชิดกับนักเรียนในบทบาทครูประกบ
ทำให้เราสังเกตเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ในบางวิชาครูบางคนจะสอนไปเรื่อยๆ นักเรียนทุกคนก็นั่งฟังไปเรื่อยๆ นักเรียนของเราบางทีก็มองกระดานที มองเราที ยิ้มแหะๆ ให้กันที เหมือนเขามานั่งอยู่ตรงนั้นเฉยๆ เลิกเรียนก็กลับห้อง แต่พอได้นำนักเรียนไปเรียนวิชาภูมิศาสตร์กับครูผู้สอนที่เข้าใจและรู้จักนักเรียนทุกคนเป็นอย่างดี บรรยากาศในห้องเรียนก็เปลี่ยนแปลงไป เราเห็นเด็กๆ แย่งกันตอบ จนครูต้องหันมาบอกนักเรียนของเราที่ยกมือเป็นคนแรกเสมอว่า ‘ครูรู้ว่าหนูรู้คำตอบ รอให้เพื่อนตอบก่อนนะ เดี๋ยวเราค่อยตอบอีกข้อ’ ในห้องเรียนแบบนี้นี่แหละที่เด็กนักเรียนรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนและได้รับการยอมรับในฐานะปัจเจกบุคคลที่มีคุณค่า
ไม่ใช่เพราะนักเรียนสร้างแรงบันดาลใจแต่เป็นเพราะเขาเก่งภูมิศาสตร์ วิชานี้เชื่อมโยงเขาเข้ากับเพื่อน ปกตินักเรียนเป็นคนพูดน้อย หลบตา แต่จะเป็นกันเองขึ้นมาเมื่อถามว่าประเทศนี้อยู่ตรงไหนหรือกระแสน้ำนี้มันยังไงนะ ตอนแรกๆ เด็กๆ ก็คุยกันผ่านคำถามภูมิประเทศ แต่ต่อมาก็เริ่มคุยเล่นมากขึ้นและนำไปสู่การทำความรู้จักกันนอกห้องเรียน จากเด็กที่เคยนั่งกินข้าวในโต๊ะที่จัดให้เฉพาะเด็กในศูนย์กลายเป็นเด็กที่แยกไปนั่งกินข้าวกับเพื่อนเองได้ในที่สุด เหตุการณ์เล็กๆ แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยและทำให้เราเห็นว่า คนที่จะเชื่อมช่องว่างตรงนี้ได้ดีที่สุดก็คือ ครูผู้สอน
เรียนรวม คือการมองว่าแตกต่างแต่อยู่ร่วมกันได้
ต่อมาเราย้ายไปทำงานในโรงเรียนประถมเล็กๆ แห่งหนึ่ง อยู่ในย่านที่จนที่สุดของหนึ่งในเมืองที่ราคาที่ดินแพงที่สุดแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของอังกฤษ โรงเรียนนี้เมื่อก่อนมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมเด็ก จนเกือบโดนสั่งปิด แต่สุดท้ายก็พัฒนาตัวเองจนได้รับรางวัลด้านการจัดการเรียนรวมสำหรับเด็กออทิสติกและเด็กที่มีความแตกต่างทางระบบประสาท (neurodiverse) การทำงานในโรงเรียนประถมเล็กๆ ทำให้เราเห็นว่าเด็กๆ เค้าสงสัยและตั้งคำถามตลอดเวลา ‘ทำไมเพื่อนทำแบบนั้น’ ‘ทำไมไม่พูด’ ‘ทำไมชอบทำมือแปลกๆ’ ‘ทำไมโกรธง่ายจัง’ แล้วคำถามพวกนี้ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการคุยกันในห้องเรียนแบบไม่ตัดสิน ไม่โทษใคร แต่เป็นการบอกว่าเราทุกคนแตกต่างกันนะ แล้วเราก็เรียนรู้ไปด้วยกันได้ เพราะหัวใจสำคัญของการศึกษาแบบเรียนรวม (inclusive education) คือการสร้างระบบที่มองเห็นและให้ความสำคัญกับความแตกต่างของเด็กแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถ ความสนใจ พื้นเพทางวัฒนธรรม ภาษา หรือความต้องการพิเศษ เป้าหมายหลักก็คือการทำให้เด็กรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง (sense of belonging) ได้มีส่วนร่วมจริงๆ และประสบความสำเร็จในการเรียนรู้เท่าเทียมกัน
ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ ของการสร้างความมีส่วนร่วมก็คือ การทำความเข้าใจและสนับสนุนเด็กออทิสติก อังกฤษเปลี่ยนแนวคิดที่สำคัญจากการรณรงค์เรื่อง ‘การตระหนักรู้ออทิซึม’ (Autism Awareness Month) ในเดือนเมษายนของทุกปี ไปสู่ ‘เดือนแห่งการยอมรับออทิซึม’ (Autism Acceptance Month) การเปลี่ยนแปลงนี้มาจากการที่เราได้เรียนรู้และเปิดใจรับฟังมุมมองและประสบการณ์ของคนออทิสติก สัญลักษณ์ที่ใช้ก็เปลี่ยนจากตัวต่อจิ๊กซอว์ ที่หลายคนมองว่าสื่อถึงความไม่สมบูรณ์ (deficit) ไปเป็นสัญลักษณ์อินฟินิตี้ที่สื่อถึงความหลากหลายและความต่อเนื่อง รัฐบาลกับองค์กรต่างๆ ก็ช่วยกันรณรงค์ให้ความรู้เรื่องออทิซึมผ่านสื่อและกิจกรรมในโรงเรียน ครูใหญ่กับครูประจำชั้นก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเข้าใจให้กับเด็กๆ ทั้งในระดับโรงเรียนและในชั้นเรียน
‘เธอเป็นออทิสติกเหรอ ฉันก็เป็นเหมือนกัน’
การเปลี่ยนแปลงนี้เหมือนเป็นการไถ่โทษในอดีตที่คนออทิสติกเคยถูกทอดทิ้งและถูกกีดกันจากสังคม ปัจจุบัน การที่เด็กๆ คุยกันได้แบบเปิดอกว่า ‘เธอเป็นออทิสติกเหรอ ฉันก็เป็นเหมือนกัน’ จึงเป็นสัญญาณที่ดีมากๆ ของการเปลี่ยนแปลงทัศนคติในสังคม
เมื่อห้องเรียนของเราเป็นห้องเรียนสำหรับทุกคน ครูอย่างเราก็ต้องปรับวิธีสอน เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีแนวทางใหม่ๆ ในการสอนให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสื่อการสอนที่เน้นรูปภาพ (visuals) การลดสิ่งรบกวนที่ไม่จำเป็น การใช้เทคโนโลยีช่วยเด็กๆ แล้วก็การปรับวิธีการวัดผล และอื่นๆ การอบรมครูที่อังกฤษจะเน้นสื่อสารนวัตกรรมใหม่ๆ เหล่านี้และให้ครูได้เอาไปปรับใช้กับเด็กๆ ในห้องเรียน การปรับวิธีสอนช่วยให้นักเรียนทุกคนสามารถเข้าถึงเนื้อหาและแสดงศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่
ไม่ใช่แค่ที่ใดที่หนึ่ง แต่เกิดขึ้นทั่วประเทศ
จากการที่เราได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงในห้องเรียนต่างๆ มาหลายปี เราพบว่าเด็กๆ สมัยนี้เปิดใจยอมรับความแตกต่างกันมากขึ้น ทั้งความแตกต่างทางร่างกายที่เราเห็นได้ แล้วก็ความแตกต่างทางระบบประสาทที่เรามองไม่เห็น เวลาเราสอนจึงไม่ใช้ภาษาพูดอย่างเดียว แต่ใช้สัญลักษณ์ และท่าทาง (sign) ประกอบด้วย โดยระบบภาษาท่าทางที่นิยมใช้ในชั้นเรียนที่อังกฤษ คือ Makaton ก็ทำให้เด็กๆ เรียนรู้แล้วก็ใช้ภาษามือในการสื่อสารกันอย่างเป็นธรรมชาติ หรืออย่างพอครูเห็นว่าเด็กต้องเรียนรู้เรื่องการจัดการอารมณ์ ครูใหญ่ก็ทำการปรับนโยบายโรงเรียนและสอนเรื่องนี้ให้กับทั้งโรงเรียนเลย เพราะทักษะพวกนี้เป็นประโยชน์กับทุกคนจริงๆ
ความเปลี่ยนแปลงพวกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่โรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่ง แต่เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นทั่วประเทศจากส่วนกลางและกระจายลงไปยังส่วนย่อย หลักสูตรการผลิตครูสมัยใหม่ก็เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับการสอนเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ในแผนการสอนครูก็ต้องเขียนให้ชัดเจนด้วยว่าแผนการสอนของเราครอบลุมเด็กทุกคนจริงๆ จะเขียนว่า ‘เด็กพิเศษเรียนกับครูประกบ’ เหมือนในอดีตไม่ได้ ในทุกห้องเรียนจะมีเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษเสมอ ครูจึงต้องรู้จักเด็กของตัวเองดีที่สุดและต้องพร้อมทั้งความรู้และมีความสามารถในการจัดการห้องเรียนให้ตอบสนองความต้องการของเด็กทุกคนได้ การที่เราเปิดรับความแตกต่างหลากหลายในทุกด้านของการศึกษา ไม่ได้เป็นประโยชน์แค่เด็กพิเศษ แต่ยังเป็นการสร้างสังคมที่เปิดกว้าง เข้าใจ แล้วก็ยอมรับซึ่งกันและกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่านโยบายจะมุ่งเน้นการเรียนรวม แต่ความท้าทายยังคงมีอยู่ เช่น งบประมาณสนับสนุนที่ไม่เพียงพอต่อการจัดจ้างครูผู้ช่วยครูประจำชั้น ภาระงานของครู ปัญหาครูลาออกมาก การขาดการเข้าถึงสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เอื้อต่อทุกคน ทัศนคติเชิงลบที่ยังคงมีอยู่ในบางส่วนของสังคมและในบุคลากรทางการศึกษาเอง การตัดงบประมาณที่จัดสรรให้โรงเรียน ตลอดจนความต่อเนื่องทางนโยบายของรัฐบาลอังกฤษที่ยังคงต้อดูกันต่อในระยะยาว
References:
Alliance for Inclusive Education (2025) What is inclusive education? Available at: https://www.allfie.org.uk/definitions/what-is-inclusive-education/ (Accessed: 10 May 2025)
The Makaton Charity (2025) What is Makaton? Available at: https://makaton.org/TMC/TMC/About_Makaton/What_is_Makaton.aspx?hkey=b275ea4d-55a9-40c3-8f10-a40f71f2395e(Accessed: 10 May 2025).
Vosniadou, S. (2001) How children learn. Educational Practices Series – 7. Geneva, Switzerland: International Academy of Education (IAE) and UNESCO International Bureau of Education (IBE). Available at:http://www.ibe.unesco.org/fileadmin/user_upload/archive/publications/EducationalPracticesSeriesPdf/prac07e.pdf (Accessed: 10 May 2025).

02/06/2025
เช็คพัฒนาการลูกก่อนเปิดเทอม👧🏻👦🏻เตรียมความพร้อมก่อนไปโรงเรียนตรวจประเมินพัฒนาการ 4 ด้านGross motor 🏃Fine motor ✍🏻Language...
15/05/2025

เช็คพัฒนาการลูกก่อนเปิดเทอม👧🏻👦🏻
เตรียมความพร้อมก่อนไปโรงเรียน

ตรวจประเมินพัฒนาการ 4 ด้าน
Gross motor 🏃
Fine motor ✍🏻
Language 🗣️
Personal & social 👯

————————————————————————
สอบถามคิวประเมินพัฒนาการ
โทร 095-6671726 , 081-6909289
***สอบถาม/จองคิวล่วงหน้าก่อนเข้ามารับบริการ***

Location : https://maps.app.goo.gl/VMY1eeaVQJ6xYwYS8?g_st=ic

#กระตุ้นพัฒนาการเด็กอุบล #กระตุ้นพัฒนาการเด็กอุบลราชธานี #ประเมินพัฒนาการเด็ก #ฝึกกิจกรรมบำบัดอุบลราชธานี #ส่งเสริมพัฒนาการ #เสริมพัฒนาการอุบล #ลูกไม่มีสมาธิ #ลูกซนไม่นิ่ง #ลูกพูดช้า #ลูกไม่พูด #กิจกรรมบำบัดอุบลราชธานี #เสริมพัฒนาการอุบล

📢ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว🚌🏫📚การจัดกิจกรรมบำบัดในโรงเรียน มีข้อดีอย่างไร ช่วยพัฒนาส่งเสริมในด้านใดของเด็กๆบ้าง1. การพัฒนาทักษะก...
09/05/2025

📢ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว🚌🏫📚
การจัดกิจกรรมบำบัดในโรงเรียน มีข้อดีอย่างไร ช่วยพัฒนาส่งเสริมในด้านใดของเด็กๆบ้าง

1. การพัฒนาทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็ก (Fine motor skill)
2. การประมวลผลระบบการรับความรู้สึกให้สมดุล
(Sensory processing support)
3. ฝึกทักษะการช่วยเหลือตนเอง (Self-care skill)
4.ส่งเสริมการเล่นและการมีส่วนร่วมในห้องเรียน(Play&social participation)
5.การสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ปกครองและโรงเรียน (Classroom and family collaboration)

————————————————————————
สอบถามคิวประเมินพัฒนาการ
โทร 095-6671726 , 081-6909289
***สอบถาม/จองคิวล่วงหน้าก่อนเข้ามารับบริการ***

Location : https://maps.app.goo.gl/VMY1eeaVQJ6xYwYS8?g_st=ic

#กระตุ้นพัฒนาการเด็กอุบล #กระตุ้นพัฒนาการเด็กอุบลราชธานี #ประเมินพัฒนาการเด็ก #ฝึกกิจกรรมบำบัดอุบลราชธานี #ส่งเสริมพัฒนาการ #เสริมพัฒนาการอุบล #ลูกไม่มีสมาธิ #ลูกซนไม่นิ่ง #ลูกพูดช้า #ลูกไม่พูด

07/05/2025

ปิดเทอมเสริมพัฒนาการ #กระตุ้นพัฒนาการเด็กอุบล #กิจกรรมบำบัดอุบล

คลินิกปิดทำการวันที่ 12-16 เมษายน 2568วันที่ 7 เมษายน ยังเปิดให้บริการตามปกติค่ะ
05/04/2025

คลินิกปิดทำการ
วันที่ 12-16 เมษายน 2568

วันที่ 7 เมษายน ยังเปิดให้บริการตามปกติค่ะ

ปิดเทอมเสริมพัฒนาการ First STEP’s KIDS คลินิกพัฒนาการเด็ก อุบลราชธานี 📍🏫
02/03/2025

ปิดเทอมเสริมพัฒนาการ
First STEP’s KIDS คลินิกพัฒนาการเด็ก อุบลราชธานี 📍🏫

ที่อยู่

399/18 หมู่บ้านสาริน 10 ต. ไร่น้อย อ. เมือง จ. อุบลราชธานี
Ubon Ratchathani
34000

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 16:00
อังคาร 09:00 - 20:00
พุธ 09:00 - 20:00
พฤหัสบดี 09:00 - 20:00
ศุกร์ 09:00 - 20:00
เสาร์ 09:00 - 18:00
อาทิตย์ 09:00 - 18:00

เบอร์โทรศัพท์

+66816909289

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ First STEP’s KIDS คลินิกพัฒนาการเด็ก อุบลราชธานีผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram