06/04/2024
ป้องกันไว้ก่อน ดีที่สุด
https://www.facebook.com/share/p/mueoCkuS4KyQqu5q/?mibextid=oFDknk
📌3 กลุ่มอาหารเสี่ยง...กระดูกพรุน
(มีคลิปในช่อง Comment👇)
โรคกระดูกพรุน เป็นโรคที่พบเจอในผู้สูงอายุซึ่งทำให้ผู้สูงอายุบาดเจ็บได้ง่าย
เรื่องใกล้ตัวอย่างเช่น อาหาร ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้สูงอายุป่วยเป็นโรคนี้ได้ง่ายเช่นกัน
ศ.เกียรติคุณ นพ.สารเนตร์ ไวคกุล ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล
จะมาอธิบายถึงกลุ่มอาหารที่ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงก่อนที่จะป่วยเป็นโรคกระดูกพรุน
ในปัจจุบันพบผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน ในกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปี ผู้ชายมีประมาณไม่เกิน 10% ส่วนผู้หญิงประมาณ 40%
แต่หากอายุเกิด 70 ปีไปแล้ว พบว่าผู้หญิงเกือบครึ่งหนึ่งเป็นภาวะกระดูกพรุน
ถ้ากระดูกในร่างกายไม่แข็งแรงจะส่งผลต่อกระดูกเอ็นและข้อ ที่สำคัญคือกระดูกจะหักได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระดูกสันหลัง กระดูกสะโพก กระดูกข้อมือ รวมถึงมีอีกหลายโรคตามมา มีความพิการ ผิดรูป
การที่กระดูกหลังทรุดตัวลง จะทำให้ระบบย่อยอาหารไม่ดี หลังโค้ง ค่อม ระบบหายใจไม่ดี รวมถึงมีผลต่อระบบอื่น ๆ ด้วย
คนเราควรจะได้รับแคลเซียมในปริมาณวันละ 800-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์แนะนำให้ได้แคลเซียมเพิ่มขึ้นเป็น 1,500-1,600 มิลลิกรัมต่อวัน จึงจะทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมที่เพียงพอ
แต่ถ้าได้รับแคลเซียมมากเกินไป จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่คือท้องผูก ปัญหาต่อมาคือ ถ้าเรารับประทานแคลเซียมที่มีการดูดซึมได้เร็วมากเกินไป ระดับแคลเซียมจะสูงขึ้น
แคลเซียมจะไปสะสมตามอวัยวะและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ซึ่งไม่ควรมีแคลเซียมไปเกาะ ทำให้เกิดโรคระบบของสมอง หลอดเลือดและหัวใจ
การที่ได้รับแคลเซียมที่พอเหมาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสารอาหารธรรมชาติจะทำให้ระดับแคลเซียมค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในเลือด
ร่างกายสามารถควบคุมได้และสามารถนำแคลเซียมเหล่านั้นไปสะสมในกระดูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
📌3 กลุ่มอาหารเสี่ยงกระดูกพรุน
1) ชาและกาแฟ
ชาและกาแฟจะมีกาเฟอีนซึ่งมีฤทธิ์ที่จะทำให้เกิดการระบายแคลเซียมออกทางน้ำปัสสาวะ
ซึ่งจะเป็นมากในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
ถ้าเราดื่มกาแฟ 1 แก้ว ในผู้หญิงจะมีการสูญเสียแคลเซียมไปต่อเนื่องถึง 4 ชั่วโมง
มีข้อแนะนำว่า ทานกาแฟไม่ควรทานเกินวันละแก้ว
รวมถึงน้ำอัดลมที่มีกาเฟอีน เพราะในน้ำอัดลมมีกรดซึ่งจะทำลายเคลือบฟัน ทำให้ฟันผุกร่อนได้
นอกจากนี้ในน้ำอัดลมมีสารอีกหลายตัวซึ่งจะยับยั้งการดูดซึมของแคลเซียม
2) เนื้อสัตว์
บางท่านชอบอาหารพวกเนื้อสัตว์มาก
เนื้อสัตว์ซึ่งมีซัลเฟอร์เมื่อเข้าไปในร่างกายเกิดการย่อยสลายทำลายไปแล้ว
อนุมูลซัลเฟอร์ก็จะถูกขับออกทางปัสสาวะซึ่งจะเกิดเป็นกรด มีพิษต่อทางเดินปัสสาวะ ร่างกายก็ต้องปล่อยแคลเซียมออกไปเพื่อยับยั้งกรดซัลฟิวริกอันนั้น
เพราะฉะนั้น เนื้อสัตว์จึงมีส่วนโดยตรงที่จะทำให้เกิดการสูญเสียแคลเซียม
ตามข้อแนะนำสำหรับคนอายุมาก จึงไม่ควรรับประทานโปรตีนมากเกินไป
โปรตีนที่แนะนำก็คือ โปรตีนจากอาหารที่มีซัลเฟอร์น้อย เช่น ไข่ขาว นม โปรตีนจากเนื้อปลาจะมีประโยชน์กับผู้ที่มีอายุมากกว่า
3) อาหารเค็ม
อาหารเค็ม ถือเป็นอาหารอีกกลุ่มที่มีผลเสียต่อกระดูก ทำให้ไตต้องทำงานเยอะขึ้น กระตุ้นฮอร์โมนที่จะทำให้ ระดับแคลเซียมในเลือดนั้นผิดปกติไปได้
เป็นที่มาของโรคไตเรื้อรังซึ่งจะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน
ความเค็มจะแทรกอยู่ในอาหารหลาย ๆ อย่างอยู่แล้ว ถ้าเป็นไปได้ให้รับประทานอาหารรสชาติจืดเท่าที่เราสามารถทำได้ จะทำให้มีสุขภาพดี ความดันไม่สูง ไตไม่ต้องทำงานมาก ลดโอกาสเกิดไตวายเรื้อรัง
📌อาหารที่ส่งผลดีต่อกระดูก
- นมและผลิตภัณฑ์จากนม ถือเป็นสารอาหารที่ดีที่สุด
- เนยแข็ง มีแคลเซียมสูงมากกว่านม
- หากใครบริโภคนมไม่ได้ หรือแพ้นม โดยจะแนะนำเต้าหู้ก้อน (แบบเดียวกับที่ใช้ทำผัดไทย) โดยกรรมวิธีในการทำเต้าหู้จะใส่แคลเซียมไฮดรอกไซด์ลงไปในน้ำเต้าหู้ทำให้เต้าหู้เป็นก้อนแข็งก็จะได้แคลเซียมไประดับหนึ่ง
ขณะที่เต้าหู้หลอด จะไม่มีแคลเซียม
- วิตามินดี โดยวิตามินดี 2 ราคาแคปซูลละประมาณ 1-1.50 บาท ขนาด 20,000 ยูนิต
ประมาณสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยทำให้ได้วิตามินดีที่เพียงพอ
กรณีที่รับประทานไม่ได้จริง ๆ ก็อาจจำเป็นต้องรับประทานแคลเซียมในรูปของเม็ด
ซึ่งจะเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต แคลเซียมแลคเตท หรือแคลเซียมละลายน้ำ
โดยควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
#กระดูกพรุน #พบหมอมหิดล
#ความรู้ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้