สะเตง คลินิกกายภาพบำบัด จ.ยะลา

สะเตง คลินิกกายภาพบำบัด จ.ยะลา บริหารกายภาพบำบัดที่คลินิก และที่บ้าน การแพทย์และสุขภาพ

อาการ “ก้าวขาลำบาก” ในผู้ป่วย Stroke เกิดจากการที่สมองเสียหายจนควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อได้ไม่เต็มที่ ทำให้กล้ามเนื้ออ...
25/08/2025

อาการ “ก้าวขาลำบาก” ในผู้ป่วย Stroke เกิดจากการที่สมองเสียหายจนควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อได้ไม่เต็มที่ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเกร็ง (Spasticity) ขาเลยก้าวไม่สะดวก

---

🔍 สาเหตุที่ทำให้ก้าวขาลำบาก

1. กล้ามเนื้ออ่อนแรง → ยกขาไม่ขึ้น ก้าวสั้น หรือสะดุดง่าย

2. กล้ามเนื้อเกร็งแข็ง → ทำให้ขาตึง เดินลากเท้า

3. การทรงตัวไม่ดี → สมองประสานงานช้า ทำให้ก้าวไม่มั่นคง

4. การรับรู้ตำแหน่ง (Proprioception) บกพร่อง → ไม่รู้ว่าขาอยู่ตรงไหน เวลาก้าวเลยไม่แม่น

✅ วิธีแก้และการฟื้นฟู

1. กายภาพบำบัดเฉพาะด้านการเดิน

= ฝึก ยกเข่า ขณะนั่ง → เสริมแรงต้นขา

= ฝึก เหยียดขาและงอเข่า → ลดการเกร็ง เพิ่มการเคลื่อนไหว

= ฝึกเดินบนราวคู่ (Parallel bars) เพื่อให้สมดุลมากขึ้น

2. ใช้อุปกรณ์ช่วย

= ไม้เท้า, Walker, หรือ อุปกรณ์ดามข้อเท้า (AFO) เพื่อกันเท้าตก

= ใช้ในช่วงแรกเพื่อความปลอดภัย ลดการหกล้ม

3. การกระตุ้นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (FES/NMES)

= ช่วยกระตุ้นเส้นประสาทที่ควบคุมขาให้ทำงาน

= มีผลดีต่อผู้ที่ขาอ่อนแรงหรือเกร็ง

4. ฝึกการทรงตัว

= ฝึกยืนทรงตัวบนพื้นเรียบ

= ฝึกเปลี่ยนน้ำหนักไปซ้าย-ขวา เพื่อให้สมองเรียนรู้การก้าวที่มั่นคง

5. การฝึกซ้ำอย่างต่อเนื่อง

= สมองจะเกิด Neuroplasticity คือสร้างเส้นทางประสาทใหม่ได้ถ้าฝึกบ่อยๆ

= ยิ่งฝึกทุกวัน ยิ่งฟื้นตัวเร็ว

---

🚨 ควรระวัง

หากผู้ป่วยล้มบ่อย → ต้องรีบประเมินโดยนักกายภาพบำบัดหรือแพทย์

ไม่ควรฝึกคนเดียว ควรมีผู้ดูแลอยู่ใกล้

📌 #ฟื้นฟูผู้ป่วยStroke #กายภาพบำบัด #สะเตงคลินิกกายภาพบำบัด

🥦 อาหารก็ช่วยฟื้นสมองได้ หลัง Stroke!หลายคนอาจไม่รู้ว่า “อาหาร” ก็เป็นอีกกุญแจสำคัญต่อการฟื้นตัวของสมองหลัง Stroke ไม่แพ...
24/08/2025

🥦 อาหารก็ช่วยฟื้นสมองได้ หลัง Stroke!

หลายคนอาจไม่รู้ว่า “อาหาร” ก็เป็นอีกกุญแจสำคัญต่อการฟื้นตัวของสมองหลัง Stroke ไม่แพ้การทำกายภาพบำบัดเลยนะครับ 💡

✅ อาหารที่ช่วยฟื้นสมอง

🐟 ปลาและไขมันดี (โอเมก้า-3) → บำรุงสมอง ลดการอักเสบในหลอดเลือด

🥕 ผักผลไม้หลากสี → อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องสมองจากความเสื่อม

🍳 โปรตีนดี เช่น ไข่ เต้าหู้ ปลา → ซ่อมแซมเซลล์ประสาท

🌾 ธัญพืชไม่ขัดสี → ให้พลังงานสม่ำเสมอ ไม่ทำให้น้ำตาลพุ่ง

🍌 กล้วย อะโวคาโด ผักใบเขียว → ช่วยควบคุมความดัน ลดเสี่ยง Stroke ซ้ำ

🚫 อาหารที่ควรเลี่ยง

เค็มจัด → ทำให้ความดันสูง

ของทอด/ไขมันทรานส์ → เพิ่มเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน

น้ำหวานจัด → เพิ่มความเสี่ยงเบาหวานและความดัน

👉 สรุปสั้นๆ
“กินดี ฟื้นไว ลดเสี่ยง Stroke ซ้ำ”
การเลือกอาหารที่ถูกต้อง = เติมพลังให้สมองซ่อมตัวเองได้เร็วขึ้น 🧠✨

📌 #อาหารสุขภาพ #ฟื้นฟูผู้ป่วยStroke #กายภาพบำบัด #สะเตงคลินิกกายภาพบำบัด

🙌 เรื่องว่า “นานแค่ไหนสมองถึงจะเกิดการเรียนรู้ (Neuroplasticity)” โดยเฉพาะในผู้ป่วย Stroke🧠 ระยะเวลาที่สมองเริ่มฟื้นและเ...
23/08/2025

🙌 เรื่องว่า “นานแค่ไหนสมองถึงจะเกิดการเรียนรู้ (Neuroplasticity)” โดยเฉพาะในผู้ป่วย Stroke

🧠 ระยะเวลาที่สมองเริ่มฟื้นและเรียนรู้ใหม่

1. ทันทีหลังเกิด Stroke

- สมองเริ่มพยายามปรับตัวทันที แม้ในช่วง “วันแรก–สัปดาห์แรก”

- การกระตุ้นเร็ว (Early Rehabilitation) จะช่วยให้การเรียนรู้เกิดได้ไวขึ้น

2. ช่วง 3 เดือนแรก (Golden Period)

ถือเป็น ช่วงเวลาทอง ที่สมองมีความยืดหยุ่นสูงที่สุด

- การกายภาพบำบัดและการฝึกซ้ำจะช่วยให้เกิดการสร้างเส้นทางประสาทใหม่ได้ชัดเจน

- ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเห็นพัฒนาการที่เร็วที่สุดในช่วงนี้

3. 6 เดือน – 1 ปี

- สมองยังคงปรับตัวและเรียนรู้ได้ แต่ความเร็วในการฟื้นตัวจะเริ่มช้าลง

- การฝึกต่อเนื่องยังจำเป็นเพื่อป้องกัน “ข้อยึด กล้ามเนื้อตาย” และกระตุ้นสมองเรื่อยๆ

4. หลัง 1 ปีขึ้นไป

- สมองยังมีความสามารถสร้างเส้นทางประสาทใหม่อยู่ (ไม่หมดไป)

- แต่ต้องอาศัยความ สม่ำเสมอ และ แรงกระตุ้นที่มากขึ้น เช่น กายภาพบำบัดเฉพาะทาง, การกระตุ้นไฟฟ้า, ดนตรีบำบัด

---

⚡ ปัจจัยที่กำหนดความเร็วในการเรียนรู้

* อายุ: ผู้สูงอายุตอบสนองช้ากว่าคนหนุ่มสาว แต่ยังฟื้นได้

* ความรุนแรงของ Stroke: ถ้าบริเวณสมองเสียหายกว้าง ฟื้นยากกว่า

* การเริ่มฟื้นฟูเร็วแค่ไหน: ยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งเห็นผลไว

* กำลังใจและอารมณ์: อารมณ์บวกช่วยหลั่งสารที่ทำให้สมองเรียนรู้เร็วขึ้น

---

✅ สรุปง่ายๆ

= สมองเริ่มเรียนรู้ใหม่ได้ ทันทีหลัง Stroke

= ฟื้นตัวได้ดีที่สุดใน 3–6 เดือนแรก

= หลังจากนั้นยังเรียนรู้ได้ แต่ต้องอาศัย ความสม่ำเสมอและแรงกระตุ้นที่เหมาะสม

#สะเตงคลินิกกายภาพบำบัด #อัมพฤกษ์อัมพาต #อ่อนแรง

การเกิด Stroke ซ้ำรอบสอง (Recurrent Stroke) เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่เคยมีประวัติ Stroke มาก่อน และถือว่าอันตรา...
22/08/2025

การเกิด Stroke ซ้ำรอบสอง (Recurrent Stroke) เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่เคยมีประวัติ Stroke มาก่อน และถือว่าอันตรายกว่าครั้งแรกมาก เพราะสมองที่เคยเสียหายแล้วมีความเปราะบางขึ้น

🔎 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิด Stroke ซ้ำ

1. ควบคุมความดันโลหิตไม่ดี
ความดันสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับ 1 ของ Stroke หากยังคงมีความดันสูงเกินเกณฑ์ จะทำให้เส้นเลือดแตกหรืออุดตันซ้ำได้ง่าย

2. เบาหวานและไขมันในเลือดสูง (LDL สูง)
น้ำตาลและไขมันสูงทำให้หลอดเลือดแข็ง ตีบตัน และมีโอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตันสมองได้

3. ไม่กินยาตามแพทย์สั่ง
ผู้ป่วยหลายคนหยุดยาลดความดัน ยาลดไขมัน หรือยาต้านเกล็ดเลือดเอง → เสี่ยง Stroke ซ้ำทันที

4. โรคหัวใจ (เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ Atrial fibrillation)
ทำให้เกิดลิ่มเลือดในหัวใจ หลุดไปอุดหลอดเลือดสมอง

5. พฤติกรรมเสี่ยง
- สูบบุหรี่
- ดื่มแอลกอฮอล์มาก
- ขาดการออกกำลังกาย
- อ้วนลงพุง

6. เครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ
ความเครียดเรื้อรัง → ความดันพุ่งสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว

📌 #โรคหลอดเลือดสมอง #สะเตงคลินิกกายภาพบำบัด #สุขภาพสมอง

📌 เกณฑ์ความดันที่ควร "งด" หรือ "เลื่อน" การทำกายภาพบำบัด- ความดันสูงมากกว่า 180/100 mmHg → ควรงดทำกายภาพบำบัดชั่วคราว เพ...
19/08/2025

📌 เกณฑ์ความดันที่ควร "งด" หรือ "เลื่อน" การทำกายภาพบำบัด

- ความดันสูงมากกว่า 180/100 mmHg → ควรงดทำกายภาพบำบัดชั่วคราว เพราะเสี่ยงต่อ หลอดเลือดสมองแตก/หัวใจทำงานหนัก

- ความดันต่ำกว่า 90/60 mmHg → ผู้ป่วยอาจเวียนหัว หน้ามืด หกล้มง่าย ไม่เหมาะทำกิจกรรมที่ใช้แรง

- หากความดันแกว่งมาก หรือมีอาการร่วม เช่น เจ็บหน้าอก หายใจหอบมาก เวียนศีรษะ → ควรหยุดกิจกรรมทันที

---

📌 เหตุผลที่ต้องระวัง

- การออกแรง จะทำให้ความดันสูงขึ้นทันที

- ในผู้ป่วย Stroke → เส้นเลือดสมองที่เปราะบางอาจแตกซ้ำ

- การกายภาพบำบัดที่เหมาะสมต้องอยู่ในช่วงที่ ความดันควบคุมได้ และผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัย

---

📌 คำแนะนำสำหรับผู้ดูแล

1. เช็คความดันโลหิตก่อนทำกายภาพบำบัดทุกครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูง

2. หากความดันสูงหรือต่ำผิดปกติ → พัก และตรวจซ้ำ

3. หากผิดปกติซ้ำ ควร ปรึกษาแพทย์ ก่อนเริ่มกายภาพบำบัดอีกครั้ง

---

👉 สรุปง่าย ๆ:

ถ้า ความดันโลหิตสูงกว่า 180/100 mmHg หรือ ต่ำกว่า 90/60 mmHg → งดกายภาพบำบัดชั่วคราว

💢 หลายคนที่เคยเป็น Stroke มักเจออาการ “ลุกขึ้นนั่งหรือลุกยืนแล้วเวียนหัว”รู้ไหมว่านี่เป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม ❗---🧠 ทำ...
18/08/2025

💢 หลายคนที่เคยเป็น Stroke มักเจออาการ “ลุกขึ้นนั่งหรือลุกยืนแล้วเวียนหัว”
รู้ไหมว่านี่เป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม ❗

---

🧠 ทำไมถึงเวียนหัว?

🌡ความดันตกทันที (Orthostatic Hypotension) → เวลาเปลี่ยนท่าเร็ว เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ

🧠 สมองควบคุมความดันไม่สมดุล หลังเกิด Stroke

😵‍💫ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดัน ยาขับปัสสาวะ อาจทำให้ความดันตก

💤 นอนนานเกินไป ระบบไหลเวียนไม่แข็งแรง → สมองปรับตัวไม่ทัน

---

✅ วิธีดูแลเบื้องต้น

➡️ ลุกขึ้นอย่าง ช้าๆ เป็นขั้นตอน (นอน → นั่งขอบเตียง → ยืน)

➡️ ก่อนลุก ควร ขยับแขน ขา หมุนข้อเท้า กระตุ้นเลือดไหลเวียน

➡️ วัดความดันก่อน-หลังลุก เพื่อเช็กการเปลี่ยนแปลง

➡️ ถ้าเวียนหัวมาก มีอาการร่วม เช่น พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง → รีบพบแพทย์ทันที

---

👉 การดูแลเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ ช่วยลดความเสี่ยงอันตราย และทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ปลอดภัยขึ้นครับ

#เวียนหัว #กายภาพบำบัด #สะเตงคลินิกกายภาพบำบัด

💖 อารมณ์มีผลต่อการฟื้นตัวของสมองหลัง Stroke อย่างไร?🔬 1. กลไกของสมองและสารเคมีสมองส่วน ที่เกี่ยวกับอารมณ์และความจำ (เช่น...
17/08/2025

💖 อารมณ์มีผลต่อการฟื้นตัวของสมองหลัง Stroke อย่างไร?

🔬 1. กลไกของสมองและสารเคมี

สมองส่วน ที่เกี่ยวกับอารมณ์และความจำ (เช่น Amygdala, Hippocampus) มีบทบาทสำคัญต่อการเรียนรู้การเคลื่อนไหวใหม่ๆ

ถ้าเครียด กังวล หรือเศร้า → ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน “คอร์ติซอล” มากเกินไป ทำให้สมองอ่อนแอและสร้างเส้นทางประสาทใหม่ได้ช้าลง

ถ้ามีอารมณ์ดี ได้กำลังใจ → สมองจะหลั่ง “โดปามีน” และ “เซโรโทนิน” ช่วยให้เรียนรู้สิ่งใหม่และฟื้นตัวเร็วขึ้น

💡 2. พฤติกรรมและแรงจูงใจ

ผู้ป่วยที่รู้สึกท้อแท้มัก ไม่ค่อยร่วมมือในการทำกายภาพ → ทำให้ฟื้นตัวช้า

แต่ถ้าได้รับกำลังใจจากครอบครัวหรือคนรอบตัว → จะพยายามฝึกซ้อมมากขึ้น ทำให้เดิน พูด หรือใช้แขนได้เร็วกว่า

❤️ 3. อารมณ์กับสุขภาพกาย

อารมณ์ลบ เช่น ความโกรธ เครียด → ทำให้ความดันสูง หัวใจทำงานหนัก เสี่ยงเกิด Stroke ซ้ำ

อารมณ์สงบ ผ่อนคลาย → ความดันโลหิตลดลง ลดภาวะแทรกซ้อน และลดโอกาสซึมเศร้าหลัง Stroke

✨ สรุปง่ายๆ ก็คือ…
กายภาพบำบัดช่วยฟื้นฟูร่างกาย
แต่ อารมณ์และกำลังใจช่วยฟื้นฟูสมองและหัวใจ 💪💖

#อัมพฤกษ์ #อ่อนแรง #กาพบำบัดที่บ้าน #ยะลา #สะเตงคลินิกกายภาพบำบัด

💢 เบ่งอุจจาระ…เสี่ยง Stroke มากกว่าที่คิด! 💢🚨 หลายคนมองข้าม แต่จริงๆ อันตรายมาก!การ เบ่งแรง ขณะขับถ่าย ทำให้ ความดันโลหิ...
16/08/2025

💢 เบ่งอุจจาระ…เสี่ยง Stroke มากกว่าที่คิด! 💢

🚨 หลายคนมองข้าม แต่จริงๆ อันตรายมาก!
การ เบ่งแรง ขณะขับถ่าย ทำให้ ความดันโลหิตพุ่งสูงทันที → เสี่ยง หลอดเลือดสมองแตก หรือ อุดตัน ได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มี

ความดันโลหิตสูง

โรคหัวใจ

เคยเป็น Stroke มาก่อน

---

❓ ทำไมถึงเสี่ยง?

การเบ่ง = Valsalva Maneuver → เลือดไหลกลับหัวใจน้อยลง → สมองขาดเลือดชั่วคราว

ความดันพุ่งสูงทันที → เสี่ยงหลอดเลือดแตก

หลังหยุดเบ่ง ความดันตกเร็ว → หน้ามืด ล้ม อันตราย

---

✅ วิธีลดความเสี่ยง

🥦 กินผัก ผลไม้ ดื่มน้ำมากขึ้น ลดท้องผูก

🪑 ใช้เก้าอี้วางเท้าให้เข่าสูงขึ้น ลดแรงเบ่ง

🚶‍♂️ ออกกำลังกายเบาๆ กระตุ้นการขับถ่าย

👨‍⚕️ ถ้าท้องผูกเรื้อรัง → ควรปรึกษาแพทย์

---

📌 #สะเตงคลินิกกายภาพบำบัด
ดูแลสุขภาพคุณ ด้วยความห่วงใย ❤️

💥หยุดก่อน อย่าพึ่งอาบน้ำถ้ายังไม่รู้เคล็ดลับนี้🛁 วิธีอาบน้ำผู้ป่วย Stroke ให้ปลอดภัยและช่วยฟื้นตัว💡 1. ป้องกันการลื่นล้ม...
15/08/2025

💥หยุดก่อน อย่าพึ่งอาบน้ำถ้ายังไม่รู้เคล็ดลับนี้
🛁 วิธีอาบน้ำผู้ป่วย Stroke ให้ปลอดภัยและช่วยฟื้นตัว

💡 1. ป้องกันการลื่นล้ม

ปูแผ่นกันลื่นในห้องน้ำ

ติดราวจับมั่นคง

ใช้เก้าอี้อาบน้ำถ้ายืนได้นานไม่พอ

💡 2. อุณหภูมิน้ำพอดี

น้ำอุ่นประมาณ 37–40°C

เลี่ยงน้ำร้อนหรือเย็นเกินไป เพราะกระตุ้นความดันเลือด

💡 3. เคลื่อนไหวระหว่างอาบน้ำ

ยืดกล้ามเนื้อเบาๆ

ใช้แขนขาที่อ่อนแรงขยับร่วมกับแขนขาดี

นวดเบาๆ ช่วยลดตึงกล้ามเนื้อ

💡 4. มีผู้ช่วยพยุง

โดยเฉพาะตอนเข้า–ออกห้องน้ำ

จัดแสงสว่างเพียงพอ

💡 5. เตรียมของใช้ให้อยู่ใกล้มือ

ฟองน้ำ, แชมพู, ผ้าเช็ดตัว วางในระยะเอื้อมถึง

อาการปวดไหล่ในผู้ป่วย Stroke พบได้บ่อยมาก โดยสาเหตุหลักๆ มักเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทั้งทางโครงสร้างและระบบประสาทหลัง...
15/08/2025

อาการปวดไหล่ในผู้ป่วย Stroke พบได้บ่อยมาก โดยสาเหตุหลักๆ มักเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทั้งทางโครงสร้างและระบบประสาทหลังจากสมองได้รับความเสียหาย ดังนี้ครับ

1. กล้ามเนื้อและข้อต่อไหล่เสียสมดุล

หลัง Stroke กล้ามเนื้อบางกลุ่มอ่อนแรง (เช่น กล้ามเนื้อรอบหัวไหล่) ขณะที่อีกบางกลุ่มเกร็งตัว

ทำให้ กระดูกหัวไหล่ (humerus) เคลื่อนต่ำลงเล็กน้อยจากเบ้าข้อไหล่ (subluxation) เกิดการดึงรั้งของเส้นเอ็นและเนื้อเยื่อรอบๆ จนปวด

พบได้บ่อยในช่วงแรกหลังอัมพาต

2. ภาวะเกร็ง (Spasticity)

เมื่อเส้นประสาทควบคุมการเคลื่อนไหวเสียหาย กล้ามเนื้อบางมัดจะตึงเกร็งตลอดเวลา

กล้ามเนื้อที่เกร็งรอบไหล่และต้นแขนทำให้ขยับไหล่ได้ลำบาก และเกิดปวดจากการใช้แรงเกิน

3. การเคลื่อนไหวน้อย (Immobility)

ผู้ป่วยที่ไม่ได้ขยับแขนไหล่บ่อยๆ จะมีพังผืดเกาะในข้อไหล่ (Frozen shoulder)

ทำให้ไหล่ติดแข็ง ปวดเวลาขยับหรือแม้แต่ตอนพัก

4. การอักเสบของเนื้อเยื่อรอบข้อไหล่

เช่น เส้นเอ็นรอบหัวไหล่ (rotator cuff tendinitis) หรือถุงน้ำหล่อลื่น (bursitis) อักเสบ

เกิดจากท่าทางไม่เหมาะสม หรือใช้แขนผิดวิธีในขณะอ่อนแรง

5. การรับความรู้สึกเปลี่ยนไป (Sensory changes)

สมองส่วนที่ควบคุมการรับรู้ความรู้สึกอาจเสียหาย ทำให้รู้สึกปวดมากเกินจริง (Central pain) แม้ไม่มีการบาดเจ็บรุนแรง

---

💡 การจัดการเบื้องต้น

พยุงแขนข้างอ่อนแรงด้วยสลิงหรือหมอนรอง

ฝึกกายภาพบำบัดเพื่อคงการเคลื่อนไหวของข้อไหล่

ยืดกล้ามเนื้ออย่างนุ่มนวลเพื่อลดเกร็ง

ประคบอุ่นหรือใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า (TENS) เพื่อบรรเทาปวด

หลีกเลี่ยงการดึงแขนข้างอ่อนแรงแรงๆ

#กายภาพบําบัด #ปวดไหล่ #อัมพาต

ผู้ป่วย Stroke สามารถดื่มกาแฟได้ แต่ต้องคำนึงถึงปริมาณและสภาพร่างกายเป็นหลัก เพราะคาเฟอีนมีทั้งข้อดีและข้อควรระวัง1. คาเ...
14/08/2025

ผู้ป่วย Stroke สามารถดื่มกาแฟได้ แต่ต้องคำนึงถึงปริมาณและสภาพร่างกายเป็นหลัก เพราะคาเฟอีนมีทั้งข้อดีและข้อควรระวัง

1. คาเฟอีนกับระบบประสาทในผู้ป่วย Stroke
คาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำงานโดยยับยั้งสาร adenosine ซึ่งปกติจะทำให้รู้สึกง่วง

หลังดื่ม คาเฟอีนจะออกฤทธิ์ใน 15–45 นาที และอยู่ในร่างกายได้นาน 4–6 ชั่วโมง

สำหรับผู้ป่วย Stroke คาเฟอีนสามารถช่วยให้สมองตื่นตัวในช่วงฝึกกายภาพ แต่ถ้าดื่มมากเกินไปอาจทำให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันสูง และนอนหลับยาก ซึ่งกระทบต่อการซ่อมแซมสมอง

2. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
งานวิจัยปี 2015 (Journal of Stroke & Cerebrovascular Diseases) พบว่าผู้ป่วย Stroke ที่ดื่มคาเฟอีนในปริมาณปานกลาง (ไม่เกิน 200 มก./วัน) ไม่มีผลเพิ่มความเสี่ยง Stroke ซ้ำในระยะสั้น แต่ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงต้องระวังมากเป็นพิเศษ

งานวิจัยปี 2020 (Nutrients Journal) ระบุว่าคาเฟอีนอาจช่วยด้านการรับรู้ (cognitive function) และความจำ แต่ผลลัพธ์จะชัดเจนในกลุ่มที่ไม่มีปัญหาการนอน

American Heart Association แนะนำให้ผู้ป่วยโรคหัวใจและ Stroke จำกัดคาเฟอีนไม่เกิน 1–2 แก้วเล็กต่อวัน และควรดื่มในช่วงเช้า

3. ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนดื่ม
ระดับความดันโลหิต – ถ้ายังควบคุมไม่ได้ควรงดหรือปรึกษาแพทย์ก่อน

ปัญหาการนอน – คาเฟอีนช่วงบ่ายหรือเย็นอาจทำให้นอนหลับยาก ทำให้สมองฟื้นตัวช้าลง

ยาที่ใช้ร่วม – บางยาลดความดันและยาต้านการเต้นผิดจังหวะหัวใจอาจมีปฏิกิริยากับคาเฟอีน

สภาพหัวใจ – หากมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง คาเฟอีนอาจกระตุ้นให้เกิดอาการ

4. คำแนะนำการดื่มอย่างปลอดภัย
ดื่มไม่เกิน 200 มก./วัน (กาแฟดำ 1–2 แก้วเล็ก)

ควรดื่มช่วง เช้า–สาย เพื่อไม่ให้กระทบการนอน

เลือก กาแฟไม่หวาน หรือใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลเพื่อลดความเสี่ยงน้ำตาลในเลือดสูง

ดื่มน้ำเปล่าตามอย่างน้อย 1 แก้วเพื่อป้องกันการขาดน้ำ

การนอนน้อยมีผลต่อการซ่อมแซมและฟื้นฟูสมอง โดยเฉพาะในผู้ป่วย Stroke ค่อนข้างชัดเจน และสามารถอธิบายได้ดังนี้🧠 1. สมองซ่อมแซ...
13/08/2025

การนอนน้อยมีผลต่อการซ่อมแซมและฟื้นฟูสมอง โดยเฉพาะในผู้ป่วย Stroke ค่อนข้างชัดเจน และสามารถอธิบายได้ดังนี้

🧠 1. สมองซ่อมแซมตัวเองได้ดีที่สุดตอนหลับลึก
ในช่วง หลับลึก (Deep sleep) สมองจะเข้าสู่โหมดซ่อมแซมเซลล์ประสาท สร้างเส้นทางประสาทใหม่ (Neuroplasticity) และล้างสารพิษที่สะสม เช่น β-amyloid ซึ่งถ้าสะสมมากอาจทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น

🔄 2. นอนน้อยลดความสามารถในการสร้างเส้นทางประสาทใหม่
สำหรับผู้ป่วย Stroke ร่างกายต้องอาศัยกระบวนการสร้างเส้นทางประสาททดแทนส่วนที่เสียไป หากนอนน้อย สมองจะมีเวลาสร้างและเชื่อมต่อเส้นทางใหม่ได้น้อยลง ทำให้ฟื้นตัวช้าลง

⚡ 3. เพิ่มความเครียดและฮอร์โมน Cortisol
การนอนน้อยทำให้ร่างกายหลั่ง Cortisol มากขึ้น ส่งผลให้หัวใจและหลอดเลือดทำงานหนักขึ้น เสี่ยงต่อการเกิด Stroke ซ้ำ และยังขัดขวางการซ่อมแซมเซลล์ประสาท

💡 4. กระทบความจำและการเรียนรู้การเคลื่อนไหว
การทำกายภาพบำบัดต้องอาศัย “ความจำกล้ามเนื้อ (Motor memory)” เพื่อให้ร่างกายจดจำการเคลื่อนไหวใหม่ ๆ การนอนน้อยทำให้สมองประมวลผลและเก็บข้อมูลการฝึกได้น้อยลง

❤️ 5. ส่งผลต่ออารมณ์และแรงจูงใจ
ผู้ที่นอนน้อยมักหงุดหงิดง่าย ขาดสมาธิ และหมดกำลังใจ ซึ่งเป็นตัวขัดขวางการฟื้นฟู เพราะการฟื้นตัวต้องใช้ทั้งพลังใจและพลังร่างกายควบคู่กัน

👉 ถ้าคุณหรือคนที่คุณรักเป็นผู้ป่วย Stroke อย่าลืมให้นอนหลับอย่างมีคุณภาพทุกคืน 💤

#นอนฟื้นสมอง #ผู้ป่วยStrokeนอน #การนอนช่วยฟื้นฟู #ฟื้นตัวจากStroke #นอนพอช่วยสมอง #กายภาพบำบัด #พักผ่อนให้พอ #สุขภาพสมอง #การนอนหลับลึก #สะเตงคลินิกกายภาพบำบัด #กายภาพบำบัดยะลา

ที่อยู่

269 ถนนผังเมือง4 ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
Yala
95000

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 19:00
อังคาร 09:00 - 19:00
พุธ 09:00 - 19:00
พฤหัสบดี 09:00 - 19:00
ศุกร์ 09:00 - 19:00
เสาร์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+66645614889

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สะเตง คลินิกกายภาพบำบัด จ.ยะลาผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง สะเตง คลินิกกายภาพบำบัด จ.ยะลา:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram