SALAM Pharmacy Drug store

02/04/2025

**ยาน้ำเด็กเมื่อเปิดฝาแล้วจะมีอายุกี่วัน**
---
# # # บทนำ
ยาน้ำสำหรับเด็ก (pediatric oral liquid preparations) เป็นรูปแบบยาที่ใช้บ่อยในการรักษาโรคหลากหลายชนิดของเด็ก เนื่องจากใช้ง่ายและสามารถปรับขนาดยาให้เหมาะสมกับช่วงอายุและน้ำหนักตัวได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ผู้ปกครองพบอยู่บ่อย ๆ คือไม่แน่ใจว่ายาน้ำที่เปิดฝาแล้วนั้น จะสามารถเก็บไว้ใช้ได้นานเท่าไรโดยไม่เสื่อมสภาพหรือปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ บทความนี้จะนำเสนอหลักเกณฑ์ทั่วไปในการกำหนดอายุของยาน้ำเด็กหลังเปิดฝา พร้อมคำแนะนำในการเก็บรักษา และอ้างอิงทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง
---
# # # 1. ปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุของยาน้ำหลังเปิดฝา
1. **ชนิดของยา**
- ยาต้านจุลชีพ (เช่น ยาปฏิชีวนะชนิดผสมน้ำ หรือ suspensions) มักกำหนดวันหมดอายุหลังผสมน้ำอย่างชัดเจน เช่น 7–14 วัน ขึ้นอยู่กับชนิดของยาและข้อแนะนำของผู้ผลิต
- ยาน้ำที่พร้อมใช้ (ready-to-use) บางชนิดอาจมีสารกันเสีย (preservatives) จึงสามารถเก็บได้นานกว่า แต่ก็ยังมีวันหมดอายุหลังเปิดฝาตามที่ระบุ
2. **สภาพการเก็บรักษา**
- **อุณหภูมิ**: ยาบางชนิดระบุให้เก็บในตู้เย็น (2–8 องศาเซลเซียส) เพื่อลดความเสี่ยงการเสื่อมสภาพหรือเจริญของเชื้อจุลินทรีย์
- **ความชื้น**: การเก็บยาในที่ชื้นอาจทำให้ยาเปลี่ยนคุณภาพ
- **การปนเปื้อน**: หากมีการใช้ช้อนหรือหลอดดูดยาที่ไม่สะอาด อาจทำให้เชื้อจุลินทรีย์เข้าสู่ขวดยา
3. **ความคงตัว (Stability) ของตัวยาสำคัญ**
- แต่ละตัวยามีความคงตัวแตกต่างกัน การเสื่อมสภาพของยาอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง และอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้ป่วย
---
# # # 2. คำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับระยะเวลาการเก็บยาน้ำหลังเปิดฝา
โดยทั่วไปคำแนะนำที่พบบ่อย (ซึ่งอาจแตกต่างกันตามแต่ละตำรับยาและผู้ผลิต) คือ:
1. **ยาปฏิชีวนะชนิดผสมน้ำ (Antibiotic suspensions)**
- มักใช้ได้ภายใน 7–14 วัน หลังผสมน้ำหรือหลังเปิดฝา (ขึ้นกับชนิดของยา)
- ส่วนใหญ่ระบุให้เก็บในตู้เย็น และเขย่าขวดก่อนใช้ทุกครั้ง
2. **ยาน้ำเชื่อมเด็กทั่วไป (เช่น ยาแก้ไอ, ยาลดไข้ พาราเซตามอลแบบน้ำ)**
- หากไม่ได้ระบุวันหมดอายุหลังเปิดโดยเฉพาะ ควรใช้อย่างมาก 1 เดือนหลังเปิดฝา หรือภายในวันที่ระบุบนฉลาก หากเวลานั้นสั้นกว่า
- ควรสังเกตการเปลี่ยนแปลง เช่น สี กลิ่น การตกตะกอนที่ผิดปกติ หากพบควรหยุดใช้ทันที
3. **ข้อควรระวัง**
- ไม่ควรใช้ยาน้ำเกินกว่าที่ระบุบนฉลากหรือคำแนะนำจากผู้ผลิต แม้ว่าลักษณะภายนอกจะดูปกติก็ตาม
- ห้ามนำยาที่หมดอายุหรือเลยกำหนดมาใช้ซ้ำ เพราะเสี่ยงทั้งการเสื่อมฤทธิ์และการปนเปื้อน
---
# # # 3. วิธีการเก็บรักษายาน้ำเพื่อยืดอายุใช้งาน
1. **อ่านฉลากและปฏิบัติตาม**
- ผู้ผลิตจะแจ้งวันที่หมดอายุ (Expiry date) ของยาน้ำ หรือจำนวนวันที่ควรใช้ให้หมดหลังจากเปิดฝาหรือผสมน้ำ
2. **เก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม**
- หากระบุให้แช่ตู้เย็น ควรเก็บในตู้เย็นอย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด ความชื้น และความร้อนสูง
3. **ปิดฝาให้แน่นหลังใช้งาน**
- ป้องกันการปนเปื้อนจากอากาศหรือเชื้อโรคภายนอก
4. **รักษาความสะอาดขณะตวงยา**
- ใช้ช้อนตวงหรือหลอดดูดยาที่สะอาด เพื่อหลีกเลี่ยงเชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อน

ร้านสลามฟาร์มาซี ขออวยพรให้ทุกท่านได้เฉลิมฉลองฮารีรายออิดิ้ลฟิตรี อย่างมีความสุขด้วยความรักและความสันติภาพ 🤍🕌✨️
30/03/2025

ร้านสลามฟาร์มาซี ขออวยพรให้ทุกท่านได้เฉลิมฉลองฮารีรายออิดิ้ลฟิตรี อย่างมีความสุขด้วยความรักและความสันติภาพ 🤍🕌✨️

มาทำความรู้จัก "ไข้อีดำอีแดง" กันค่ะร้านยาสลาม ฟาร์มาซียินดีให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพและสอบถามข้อมูลยาเพิ่มเติมกับเราได...
21/03/2025

มาทำความรู้จัก "ไข้อีดำอีแดง" กันค่ะ

ร้านยาสลาม ฟาร์มาซียินดีให้บริการ
ปรึกษาปัญหาสุขภาพและสอบถามข้อมูลยาเพิ่มเติมกับเราได้ที่ร้านยาสลาม ฟาร์มาซี หรือ inbox เข้ามาในเพจเลยได้นะคะ
โทรศัพท์ 096-9396216

รอมฎอนนี้ กินยายังไงดี?ร้านยาสลาม ฟาร์มาซียินดีให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพและสอบถามข้อมูลยาเพิ่มเติมกับเราได้ที่ร้านยาสลา...
14/03/2025

รอมฎอนนี้ กินยายังไงดี?

ร้านยาสลาม ฟาร์มาซียินดีให้บริการ
ปรึกษาปัญหาสุขภาพและสอบถามข้อมูลยาเพิ่มเติมกับเราได้ที่ร้านยาสลาม ฟาร์มาซี หรือ inbox เข้ามาในเพจเลยได้นะคะ
โทรศัพท์ 096-9396216

ข้อแนะนำ วิธีการกินยา ช่วงถือศีลอดมีวิธีปฏิบัติอย่างไรบ้าง มาดูกัน
02/03/2025

ข้อแนะนำ วิธีการกินยา ช่วงถือศีลอด
มีวิธีปฏิบัติอย่างไรบ้าง มาดูกัน

SALAM RAMADAN MUBARAK H.1446/2025
02/03/2025

SALAM RAMADAN MUBARAK H.1446/2025

17/01/2025

📢 เปิดให้บริการแล้ว! ขอใบรับรองแพทย์ 5 โรค (ที่ไม่ได้มีตรวจพิเศษอื่นๆ)....สามารถขอรับบริการตามวัน เวลา และสถานที่ ตามรายละเอียดข้างล่างนะคะ ⬇️⬇️

📍 ศูนย์สุขภาพชุมชนตลาดเก่า
จันทร์/พุธ/พฤหัส เวลา 08.30-11.00น.

📍 ศูนย์สุขภาพชุมชนบ้านสะเตง
อังคาร/ศุกร์ เวลา 08.30-11.00น.

📍 ศูนย์สุขภาพชุมชนเทศบาล
จันทร์/พฤหัส เวลา 08.30-11.00 น.

📍 คลินิกหมอครอบครัว ธนวิถี-เวชกรรม
จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-11.00 น.

#โรงพยาบาลยะลา #ขอใบรับรองแพทย์ #5โรค

รู้ทัน 6 โรคฮิตหน้าฝน ที่เด็กเล็กต้องเฝ้าระวัง1) โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV หรือชื่อเต็มว่า Respiratory Sy...
15/01/2025

รู้ทัน 6 โรคฮิตหน้าฝน ที่เด็กเล็กต้องเฝ้าระวัง

1) โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV หรือชื่อเต็มว่า Respiratory Syncytial Virus เป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคในทางเดินหายใจ โดยเฉพาะเด็กเล็ก โดยเชื้อไวรัสอาจทำให้มีเสมหะมากปอดเกิดอาการอักเสบ.

2) โรคมือเท้าปาก เป็นโรคติดต่อที่พบบ่อยในเด็กโดยเฉพาะเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี มักมีการระบาดช่วงฤดูฝน สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเตอโรไวรัส

3) โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสเด็งกี ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ และมีผื่นลักษณะเฉพาะซึ่งคล้ายกับผื่นของโรคหัด

4) โรคไข้หวัดใหญ่ คือโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ เกิดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Influenza สามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนได้ผ่านการไอ จาม หรือสัมผัสผู้ที่ติดเชื้อไวรัส

5) โรคท้องเสียหรืออุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้า ที่เป็นสาเหตุของโรคลำไส้อักเสบจากเชื้อโรตาไวรัส ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะท้องร่วงรุนแรงในทารกและเด็กเล็กที่พบบ่อยที่สุด

6) โรคไอพีดี (Invasive Pneumococcal Disease) โรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรครุนแรงหลายชนิดในเด็กขึ้นอยู่กับอวัยวะที่มีการติดเชื้อ เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคปอดอักเสบ หรือการติดเชื้อในกระแสเลือด

ที่มา: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (Department of Disease Control Ministry of Public Health)

วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2568“ ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง”
11/01/2025

วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2568
“ ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง”

13/12/2024

💦 หลังน้ำลด...อย่าลดการระวัง! 🌊
โรคจากน้ำสกปรกอาจตามมาได้ 🚨
มาทำความรู้จักและวิธีป้องกันจากโรคเหล่านี้กัน ✅
และหากมีอาการ รีบพบแพทย์ทันที ‼
❌ไม่ซื้อยามาทานเอง❌

#โรงพยาบาลยะลา #อยากเห็นคนไทยสุขภาพดี #รู้ทันโรคจากน้ำสกปรก

12/12/2024

แบบฟอร์มสำหรับผู้ที่ขอรับความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567
-----------
📢อ่านรายละเอียดการเตรียมหลักฐานและและดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ลิ้งค์
👉https://yalacity.go.th/news/detail/12451
-----------
📃แบบคำร้องขอรับความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567
https://yalacity.go.th/files/com_networknews/2024-12_2f2922cbbb28b79.pdf
-----------
📃หนังสือมอบอำนาจ
https://yalacity.go.th/files/com_networknews/2024-12_47ebde023f8fb60.pdf
-----------
📃หนังสือรับรองการอยู่อาศัย
https://yalacity.go.th/files/com_networknews/2024-12_50ca8e75ade3449.pdf
-----------
📃หนังสือรับรองบ้านเช่า กรณีไม่มีสัญญาเช่า
https://yalacity.go.th/files/com_networknews/2024-12_f34d2e5f3c5f0cf.pdf
-----------
📃หนังสือรับรองบ้านไม่มีเลขที่
https://yalacity.go.th/files/com_networknews/2024-12_76b40dae58606e0.pdf
-----------
📌หรือรับได้ที่กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครยะลา
☎️ 073 - 222870, 073-223666 ต่อ 1806

11/12/2024

ปวดแขน ปวดขา ปวดคอบาไหล่ ปวดแบบนี้ควรไปนวดหรือทำกายภาพ?
ถ้าต้องนั่งทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนแทบจะไม่ได้ลุกไปไหน คงจะรู้สึกปวดเมื้อยตามร่างกายอยู่ไม่น้อย เพราะการค้างอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน ก็ย่อมตามมาด้วยการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อ ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเป็นธรรมดา
ทว่าพอเริ่มรู้สึกปวดตัวสักที ก็ต้องมานั่งชั่งใจและคิดว่า อาการปวดแบบนี้ แค่ไปนวดก็จะหายปวดไหม หรือควรไปทำกายภาพบำบัดเลยดี แม้ทั้งสองวิธีจะสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายจากอาการปวดได้เช่นเดียวกัน แต่ความต่างเรื่องวิธีการก็อาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกันอยู่ดี
กลายเป็นข้อสงสัยชวนสับสนกันไปอีกว่า เมื่อความปวดรุมเร้าร่างกาย เราควรเลือกเข้ารับการรักษาด้วยวิธีไหน วันนี้ The MATTER จึงได้ชวน กภ.วรัญญา จเรวณิช เจ้าของคลินิก ใจยินดีกายภาพบำบัด และ สันติ นาคเครือ นักกายภาพบำบัด มาร่วมแนะนำว่า อาการปวดแบบไหน ที่เราควรเข้าร้านนวด และอาการประไหน เราถึงต้องไปหานักกายภาพ
- เมื่อเริ่มรู้สึกปวดเมื่อยจะเลือกไปหาใครดี
แม้บทบาทหน้าที่ของนักกายภาพบำบัดและหมอนวดจะคล้ายคลึงกัน ทว่าการรักษาของพวกเขานั้น มีเป้าหมายที่แตกต่างกันพอสมควรทีเดียว โดยนักกายภาพบำบัด จะมีหน้าที่ซึ่งเน้นไปในด้านการป้องกัน รักษา และฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วย อันเกี่ยวข้องกับระบบกล้ามเนื้อ กระดูก และระบบประสาท
โดยนักกายภาพบำบัด จะเริ่มจากการประเมิน เพื่อวิเคราะห์สาเหตุของอาการ เพื่อนำไปสู่การวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เช่น การใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด หรือการวางแผนการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ดังนั้นอย่างแรกที่ผู้มีอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวต้องทำคือการลองสังเกตอาการปวดของตนดูก่อนว่า
- อาการปวดนั้นรบกวนชีวิตประจำวัน โดยไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเองได้ไหม?
- อาการปวดที่กำลังเป็นนั้น มีลักษณะเฉพาะเจาะจง ปวดร้าวไปในบริเวณอื่นของร่างกายร่วมด้วยหรือไม่?
- อาการปวดกินระยะเวลานานกว่า 1-2 สัปดาห์ แม้พักผ่อน ดูแลตัวเองอย่างดี ตลอดจนใช้ยาร่วมด้วยแล้วก็ตามหรือไม่?
- พบอาการแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น อาการชา อ่อนแรง บวม อักเสบ หรือข้อยึดติด ตามมาด้วยหรือเปล่า?
หากมีอาการเข้าข่ายดังกล่าว อาจลองเข้าไปตรวจประเมินกับนักกายภาพบำบัด เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงของอาการ อันนำไปสู่การให้นักกายภาพฯ ช่วยวางแผนและให้คำแนะนำในการใช้ชีวิตประจำวัน ตลอดจนคำแนะนำ สำหรับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ท่าทางที่ถูกต้อง และวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมต่อตัวผู้เข้ารับการรักษาด้วย
ในส่วนของหมอนวดนั้น พวกเขามีหน้าที่ซึ่งเน้นไปในด้านการผ่อนคลาย ด้วยการใช้มือช่วยนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว และเลือดไหลเวียนดีขึ้น สำหรับใครที่สำรวจอาจการปวดเมื้อยของตนเอง แล้วพบว่า
- มีอาการตึงหรือปวดเมื้อยทั่วไปตามร่างกาย
- เมื่อยล้าจากการทำงาน
- ต้องการผ่อนคลายกล้ามเนื้อจากอาการปวด
- ไม่มีประวัติการบาดเจ็บรุนแรงมาก่อน
การนวด จึงจะเป็นวิธีที่ดีสำหรับผู้มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย แล้วต้องการผ่อนคลายร่างกาย โดยการนวดจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวและกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นด้วย
โดยนักกายภาพได้แนะนำว่า การนวดบ่อยๆ ไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใด หากทำอย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อสภาพร่างกายของแต่ละคน แต่ ถ้าผู้ใดที่นวดแล้วเกิดอาการบาดเจ็บหรือฟกช้ำตามร่างกาย ควรเว้นห่างรอให้อาการเหล่านั้นหายไปก่อน ยังไม่ควรกลับไปนวดซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือกระดูกพรุน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนนวด อีกทั้ง ผู้ที่มีภาวะโรคหลอดเลือดบางประเภท เช่น หลอดเลือดอุดตันหรือเส้นเลือดขอด อาจมีความเสี่ยงหากนวดแรงเกินไปได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก่อนไปนวดคือ การสำรวจร่างกายของตนเองก่อนและหลังไปนวดให้ดี เพื่อไม่ทำให้ร่างกายได้รับอาการบาดเจ็บจากการนวดนั่นเอง
ทั้งนี้ สำหรับใครที่มีอาการปวดเมื่อย นักกายภาพบำบัดยังได้แนะนำวิธีอื่นๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจากการไปนวดและเข้ารับการรักษาโดยนักกายภาพด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น
- การประคบร้อน: เมื่อมีอาการตึงตัว หรือมีอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ สามารถลองประคบร้อนได้ เนื่องจากความร้อนจะช่วยทำให้หลอดเลือดขยายตัว กล้ามเนื้อจะได้รับสารอาหารที่มากขึ้น ช่วยทำให้อาการปวดเมื้อยต่างๆ ลดลง
- การประคบเย็น: สำหรับใครที่รู้สึกว่ากล้ามเนื้อมีอาการอักเสบ ให้รีบประคบเย็นภายใน 24 ชั่วโมง สามารถช่วยลดอาการบาดเจ็บได้ ตลอดจนทำให้ระยะเวลาของการหายสั้นลงด้วยเช่นกัน
- ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ: ซึ่งเป็นข้อที่สามารถแก้ได้ง่ายที่สุด โดยเมื่อเรามีการเปลี่ยนท่าบ่อยๆ จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อไม่ค้างอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานจนเกินไป อันเป็นสาเหตุของอารการปวดเมื้อยตามส่วนต่างๆ ของร่างกายนั่นเอง
- พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับเป็นช่วงเวลาสำหรับร่างกายเราในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ รวมถึงขณะที่เรากำลังหลับ โทนของกล้ามเนื้อจะลดลง ซึ่งหมายความว่ากล้ามเนื้อก็ได้พักเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ด้านนักกายภาพฯ ยังได้แนะนำเพิ่มเติม ถึงข้อควรระวังเมื่อเรามีอการเจ็บปวดกล้ามเนื้อหรือปวดเมื่อยตามร่างกายไว้ว่า อย่างแรกควรหลีกเลี่ยงการใช้งานบริเวณที่เจ็บปวดมากเกินไป อาจทำให้อาการอักเสบหรือบาดเจ็บรุนแรงขึ้น
ยืดเส้นยืดสายกันสักนิด ก็ช่วยได้เช่นกัน
นักกายภาพบำบัดได้แนะนำท่าบริหารสำหรับอาการปวดเมื่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการทำงานในแต่ละวันของเรา โดยวิธีเหล่านี้สามารถช่วยลดความไม่สบายตัวและป้องกันไม่ให้อาการลุกลามไปเป็นปัญหาที่รุนแรงได้
- ท่ายืดกล้ามเนื้ออก: เริ่มจากการยื่นแขนตรงเข้ากำแพง พร้อมกับแอ่นอกไปด้านหน้า โดยยืดค้างไว้นาน 10 วินาที ทำซ้ำ 5-7 ครั้ง/วัน
- ท่ายืดกล้ามเนื้อบ่า: นั่งแล้วใช้แขนข้างนึงจับที่เก้าอี้ ส่วนแขนอีกข้างจับที่หัวแล้วยืดไปด้านหน้า ให้รู้สึกตึงบริเวณกล้ามเนื้อบ่า โดยยืดค้างไว้นาน 10 วินาที/ครั้ง ทำซ้ำ 5-7 ครั้ง/วัน
- ท่าออกกำลังกายกล้ามเนื้อบ่า: ยื่นแขนมาข้างหน้าให้ตึง ใช้ยางยืดสำหรับออกกำลังกายดึงรั้งแขนทั้งสองข้างเอาไว้ แล้วค่อยๆ กางแขนออก ทำทั้งหมด 10 ครั้ง/เซ็ต โดยทำ 3 เซ็ต/วัน ซึ่งใครที่ไม่มียางยืดออกกำลังกาย สามารถใช้เป็นขวดน้ำแทนได้
สำหรับใครที่นั่งทำงานนานๆ ตลอดทั้งวัน จนเริ่มรู้สึกปวดตึงตามร่างกาย ก็สามารถสละเวลาสักนิดสักหน่อย แล้วลุกทำท่าตามคำแนะนำของนักกายภาพบำบัดได้ ใช้เวลาไม่นาน แถมยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเราด้วย
ส่วนผู้ใดที่ต้องการเข้ารับการรักษากับนักกายภาพบำบัดหรือไปนวด ก็ต้องไม่ลืมสังเกตอาการ ตลอดจนเงื่อนไขทางร่างกายของตนเอง เพื่อไม่ให้การรักษา ย้อนกลับมาทำร้ายร่างกายของเราได้

อ่านข้อมูลเกี่ยวกับการนวดและการกายภาพอย่างละเอียดได้ที่: https://thematter.co/lifestyle/body-pain-should-i-go-for-a-massage-or-physical-therapy/235618

#นวด #นวดคอ

ที่อยู่

Yala

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 21:00
อังคาร 09:00 - 21:00
พุธ 09:00 - 21:00
พฤหัสบดี 09:00 - 21:00
ศุกร์ 09:00 - 21:00
เสาร์ 09:00 - 21:00
อาทิตย์ 09:00 - 21:00

เบอร์โทรศัพท์

+66969396216

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ SALAM Pharmacyผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์