Inside Krabeeputh เผยชีวิตการฝึกตน ความรู้ ความคิด และจิตวิญญาณของ #กระบี่พุทธมนุษย์กินพืช #กระบี่พุทธมนุษย์ฝึกตน

นิยามความเป็นตัวผม
==============
> เป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง (a Buddhist)
ผมเคยเป็นเด็กวัดเรียนในวัดมาก่อน เคยได้รับการอบรมบ่มสอนด้วยธรรมะจากพระและครูบาอาจารณ์ พอเติบโตสู่วัยรุ่นและเรียนจบได้ออกมาใช้ชีวิตข้างนอกทั่วไปก็พยายามจะดำเนินชีวิตตามหลักพุทธศาสนาสำหรับฆราวาสอย่างน้อยที่สุดก็คือ "ศีล 5" แม้จะทำได้ไม่ดีนักก็ตาม เพราะบ่อยครั้งที่เราก็แพ้จิตใจตัวเอง โดนครอบงำด้วยกิเลสตัณหา โลภ โกรธ หลง
> เป็นนักมังสวิรัติ (a Vegetarian)
ผมทานมังสวิรัติมาตั้งแต่อายุประมาณ 9-10 ขวบ เริ่มจากการที่แม่พากินเชิงบังคับหน่อยๆ และต่อมาได้ตั้งตบะกับพระไว้ตั้งแต่เด็กว่า "จะทานมังสวิรัติให้ได้ตลอดชีวิต" นับมาจนถึงปัจจุบันผมทานมังสวิรัติมาได้ 30 กว่าปี ถือว่าไม่เป็นต้นเหตุแห่งการฆ่าเพื่อกินมาครึ่งชีวิตแล้ว
> เป็นเจ้าของฟาร์มเล็กๆ (a Farmer)
ผมโดนปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กให้สร้างอาชีพและเป็นเจ้านายตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นความใฝ่ฝันของผมมาตลอดว่าอยากจะมีบริษัทของตัวเองทำธุรกิจอะไรสักอย่าง จนมีบริษัทตัวเองเล็กๆ ที่ทำด้านระบบสถานีโทรทัศน์ แต่แล้วก็มาได้รับผลกระทบหนักจากภาวะทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมด้าน broadcast TV โดน disrupt หนักมากจากสื่อออนไลน์ และการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ในต้นปี พ.ศ. 2563 จนถึงปัจจุบันมาซ้ำเติมเข้าไปอีก ยิ่งทำให้ทรุดเลย จึงคิดจะเปลี่ยนไปทำงานทางด้านอุตสาหกรรมอาหารและสุขภาพตามที่ตัวเองสนใจมานาน จึงได้กลับมาอยู่บ้านเกิดทำ "ฟาร์มเฮือนซายโท่ง" ในรูปแบบโคกหนองนาโมเดลตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา

ความสนใจส่วนตัว
============
- สุขภาพการกินอยู่ที่ดี (Health & Wellness)
- เกษตรกรรม (Agriculture)
- อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ (Healthy Foods & Beverages)
- เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)
- การท่องเที่ยว (Travel)
- จิตวิญญาณ (Spirituality) และพุทธศาสนา (Buddhism)

เป้าหมายชีวิต
=========
> ต้องการพิสูจน์ศักยภาพความเป็นคน เกิดมาแล้วชาติหนึ่งจะสามารถไปตามฝันได้แค่ไหน?
> ในบั้นปลายชีวิตอยากอยู่กับธรรมชาติ มีชีวิตที่เรียบง่าย อยู่อย่างสุขสงบ (Self-actualization)

นอกจากเพจส่วนตัวอันนี้แล้ว ยังมีเฟสบุ๊คเพจและกลุ่มอื่นที่สร้างไว้สำหรับเรื่องที่ผมสนใจ สามารถติดตามได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้
> เรื่องการเกษตรตามรอยพระราชดำริ FB Page ชื่อ "เฮือนซายโท่ง Organic Farm & Cafe"
https://www.facebook.com/ZhaiTongHouse
> เรื่องอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
FB Page ชื่อ "Puth's Foods สุขภาพดีด้วยอาหารมังสวิรัติ เจ วีแกน"
https://www.facebook.com/Puthfoods
FB Group ชื่อ "อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ (Healthy foods & beverages)"
https://www.facebook.com/groups/861546671336665/

14/11/2025

เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2568 ผมได้ทำหน้าที่เป็นสารถีคอยดูแลหลวงพ่อผืนฟ้า อนุตตโร (อาจารย์ 2 พระนวกะ) ในวัย 73 ปี และสมณะสู่บุญ ปุญญคโต ออกเดินทางจากราชธานีอโศก อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ตั้งแต่ก่อนเที่ยง ไปเยี่ยมสมณะอาพาธ (หลวงตาผองไท นาวาบุญนิยม) วัย 96 ปี ที่เพิ่งออกจากห้อง ICU โรงพยาบาลกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

เรื่องราวชีวิต #กระบี่พุทธมนุษย์กินพืช #กระบี่พุทธมนุษย์ฝึกตน #ฟาร์ม #เฮือนซายโท่ง #โคกหนองนาโมเดล #เกษตรทฤษฎีใหม่ #เศรษฐกิจพอเพียง #ศาสตร์พระราชา #เกษตรกร #เกษตรกรรุ่นใหม่ #ชีวิตชนบท #เรียบง่าย #เรียบง่ายแต่มีความสุข #อาหารสมอง

13/11/2025

เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ผมได้ไปร่วมงานกสิกรรมเพื่อฟ้าดินที่หมู่บ้านราชธานีอโศก ได้ไปเขตนักบวชแล้วพบกับภาพที่ประทับใจอย่างยิ่งจึงอยากนำมาแชร์ให้ทุกคนได้เห็นสมณะมหาเถระ (หลวงพ่อถ่องแท้ วินยธโร) มาดูแลสมณะอาพาธ (หลวงตาผองไท รตนปุญโญ) ซึ่งมีพรรษาน้อยกว่าแต่มีอายุมากกว่าผมเชื่อว่าใครเห็นแล้วก็จะซาบซึ้งในความเอื้ออารีของท่าน จนน่าเลื่อมใสศรัทธาสมณะมหาเถระนั้น ซึ่งท่านกระทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้วไม่ใช่ทำแค่ครั้งเดียวนะครับ

เรื่องราวชีวิต #กระบี่พุทธมนุษย์กินพืช #กระบี่พุทธมนุษย์ฝึกตน #ฟาร์ม #เฮือนซายโท่ง #โคกหนองนาโมเดล #เกษตรทฤษฎีใหม่ #เศรษฐกิจพอเพียง #ศาสตร์พระราชา #เกษตรกร #เกษตรกรรุ่นใหม่ #ชีวิตชนบท #เรียบง่าย #เรียบง่ายแต่มีความสุข #อาหารสมอง

13/11/2025

เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ผมได้ไปร่วมงานกสิกรรมเพื่อฟ้าดินที่หมู่บ้านราชธานีอโศก ได้ไปเขตนักบวชแล้วพบกับภาพที่ประทับใจอย่างยิ่งจึงอยากนำมาแชร์ให้ทุกคนได้เห็นสมณะมหาเถระ (หลวงพ่อถ่องแท้ วินยธโร) มาดูแลสมณะอาพาธ (หลวงตาผองไท รตนปุญโญ) ซึ่งมีพรรษาน้อยกว่าแต่มีอายุมากกว่าผมเชื่อว่าใครเห็นแล้วก็จะซาบซึ้งในความเอื้ออารีของท่าน จนน่าเลื่อมใสศรัทธาสมณะมหาเถระนั้น ซึ่งท่านกระทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้วไม่ใช่ทำแค่ครั้งเดียวนะครับ

เรื่องราวชีวิต #กระบี่พุทธมนุษย์กินพืช #กระบี่พุทธมนุษย์ฝึกตน #ฟาร์ม #เฮือนซายโท่ง #โคกหนองนาโมเดล #เกษตรทฤษฎีใหม่ #เศรษฐกิจพอเพียง #ศาสตร์พระราชา #เกษตรกร #เกษตรกรรุ่นใหม่ #ชีวิตชนบท #เรียบง่าย #เรียบง่ายแต่มีความสุข #อาหารสมอง

ใครเป็นโรคตับอักเสบ เป็นกามโรค ต้องอ่าน!!
03/11/2025

ใครเป็นโรคตับอักเสบ เป็นกามโรค ต้องอ่าน!!

31/10/2568 วันนี้เอาต้น “พิลังกาสา” มาปลูกด้วยนะ ได้ต้นมาจากพี่เฮ็ง อดีต ผอ.กรมการข้าว ที่มาเรียนแพทย์แผนไทยด้วยกัน แกเพาะใส่ถุงเอามาแจกให้เพื่อนๆ ผมเลยขอมา 2 ต้น อีก 2 ต้นชื่ออะไรจำไม่ได้ ไว้จะไปถามแกใหม่ 😅

☘️ประโยชน์ :
1. ผลสุกของพิลังกาสาสุกจะเป็นสีม่วงเข้มจนเกือบดำ โดยสีม่วงนี้จะมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระไปทำลายเซลล์ในร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดในสมองอุดตัน นอกจากนี้ ยังช่วยยับยั้งเชื้ออีโคไล (E. coli) ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคท้องร่วงและอาหารเป็นพิษได้อีกด้วย
2. ในทางเภสัชวิทยา พิลังกาสามีสาร α-amyrin, rapanone และมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยยับยั้ง platelet activating factor receptor binding และมีฤทธิ์เหมือนฮิสตามีน ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว ต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด รักษามาลาเรีย แก้อาการท้องเสีย แก้เกลื้อน ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อ Aspergillus

🍒สรรพคุณ :
• ใบ - มีรสร้อน แก้ไอ แก้โรคตับพิการ แก้ปอดพิการ แก้ท้องเสีย ใบอ่อนรับประทานเป็นผักได้
• ดอก - ฆ่าเชื้อโรค
• ผล - แก้ไข้ ท้องเสีย แก้โรคเรื้อน บำรุงโลหิต
• เมล็ด - แก้ลมพิษ
• ต้น - แก้โรคเรื้อน กุฏฐัง โรคผิวหนัง
• ราก - แก้กามโรค หนองใน พอกปิดแผล ถอนพิษงูกัด ใช้กากพอกแผลและเอาน้ำดื่ม

Note: “ตับพิการ" เป็นคำที่ใช้เรียกภาวะที่ตับทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การรับประทานอาหารไขมันสูง, แอลกอฮอล์, หรือการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ จนทำให้ตับเสื่อมสภาพ เกิดเป็นภาวะไขมันพอกตับ ตับอักเสบเรื้อรัง หรือตับแข็ง

ดูดิ “พิลังกาสา” มีประโยชน์และสรรพคุณทางยามากมายขนาดนี้ไม่ปลูกได้ไง ทุกคนหาไปปลูกที่บ้านคนละ 1 ต้นนะครับ 😊

เรื่องราวชีวิต #กระบี่พุทธมนุษย์กินพืช #กระบี่พุทธมนุษย์ฝึกตน #ฟาร์ม #เฮือนซายโท่ง #โคกหนองนาโมเดล #เกษตรทฤษฎีใหม่ #เศรษฐกิจพอเพียง #ศาสตร์พระราชา #เกษตรกร #เกษตรกรรุ่นใหม่ #ชีวิตชนบท #เรียบง่าย #เรียบง่ายแต่มีความสุข #อาหารสมอง

27/10/2025

27/10/2568 วันนี้มีเรื่องเล่าให้อ่าน ยาวหน่อยนะ หวังว่าผู้ที่อ่านจบจะได้เห็นแนวทางจากประสบการณ์จริงของผมและมีพลังใจสู้ไปด้วยกัน
เมื่อวันก่อนที่ไปเรียนแพทย์แผนไทยที่ศีรษะอโศก มีคุณครูสอนระดับชั้นมัธยมที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ เป็นน้องนักศึกษา พท. รุ่น 10 ถามผมว่า "สรุปพี่ตัดสินใจหรือยังว่าจะมีหรือไม่มี?" ผมก็งงว่ามีหรือไม่มีอะไร น้องบอกว่า "ก็ที่พี่โพสต์ในเพจไงว่าจะมีแฟนหรือไม่มีแฟนดี?" น่าจะมาจากที่เห็นโพสต์นี้ https://www.facebook.com/share/p/17Awq4fb1w/ หรือไม่ก็โพสต์นี้ https://www.facebook.com/share/p/14N6GHJxuBe/ จากการสนทนานี้ทำให้ผมรู้ว่าน้องก็มาติดตามในเพจนี้เหมือนกันนะนี่ แล้วผมก็ตอบไปว่า "ก็ยังไม่รู้ ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ความตั้งใจนั้นก็ไม่ได้อยากมีหรอกเพราะเรารู้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่ประเสริฐหรือดีกว่า แต่ก็ไม่รู้ว่าจะแพ้กิเลสตัวเองเมื่อไหร่นะ?!"
คราวนี้ผมจะเล่าถึงปัจจัยแวดล้อมและสภาวะธรรมที่มันเป็นอารมณ์ (รูปกาย) ที่มันเกิดขึ้นในจิตใจ/ในความคิดหรือในหัว (แล้วแต่จะใช้ภาษาเรียก) จากที่ผมได้รับรู้/เห็นอารมณ์ (นามกาย) ของตัวเองเพื่อขยายคำตอบที่ผมได้ตอบน้องเขาไปให้ทุกคนได้อ่าน...
🔅เนื่องจากผมเกิดมาชาตินี้ได้พบพระโพธิสัตว์ระดับ 7 (นิยตะโพธิสัตว์) ผู้มีปลายทางเป็นมนุษย์ประเสริฐสูงสุดไม่มีใครเทียบเท่าได้นั่นก็คือจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน โดยได้เข้าไปเป็นเด็กนักเรียนใช้ชีวิตกินอยู่หลับนอนและเรียนหนังสืออยู่เกือบ 10 ปี ในหมู่กลุ่ม "ชาวอโศก" ที่มีวิถีชีวิตทวนกระแสโลกีย์ที่พ่อครู #สมณะโพธิรักษ์ สร้างขึ้น ได้รู้พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าจากพ่อครู #สมณะโพธิรักษ์ ทั้งการฟังธรรมเทศนาหรืออ่านหนังสือที่ท่านเขียน และได้เห็นพ่อครู สมณะสิกขมาตุ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่เคร่งครัดมาโดยตลอด จนผมจบมัธยมปลายจึงได้ออกมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยข้างนอก ซึ่งตอนที่ผมเป็นเด็กน้อยนั้นผมไม่รู้หรอกนี่คือสิ่งที่ผมจะได้เรียนรู้ดี-ชั่วและซึมซับเข้าสู่จิตใจจนนำมาสู่การปฏิบัติขัดเกลาตนของผมทุกวันนี้ (พ่อครู เคยกล่าวว่ากับศิษย์เก่าฯ ว่า "อาตมาได้ฝังชิปให้พวกคุณทุกคนแล้ว ใครจะรู้ตัวและเปลี่ยนชีวิตได้เมื่อไหร่ก็อยู่ที่บุญบารมีของผู้นั้น“)
ตอนเป็นเด็กวัยรุ่น ช่วงเรียนมัธยมต้น-ปลาย ยังอยู่ในหมู่กลุ่มผมเป็นหนึ่งในเด็กผู้ชายไม่กี่คนที่ไม่เคยแม้กระทั่งช่วยตัวเอง บางคนอาจจะสงสัยทำไมรู้ว่ามีไม่กี่คน? ก็เพราะเราจะมีการเช็คศีลแยกหญิง-ชาย เมื่อแยกก็จะมีการซักถามพูดคุยกันอย่างเปิดเผยโดยมีนักบวชหรือสมณะเป็นผู้ดูแล ดังนั้นตอนอยู่ในหมู่กลุ่มผมจึงไม่มีเรื่องเสื่อมเสียร้ายแรงเกี่ยวกับผู้หญิง แต่เรื่องรักชอบผู้หญิง แอบคุยสาว ส่งจดหมายน้อยให้กันก็มีบ้างตามประสาวัยรุ่น พอเรียนจบมัธยมปลายแล้วออกมาใช้ชีวิตข้างนอกต้องทำงานหาเงินส่งเสียตัวเองเรียน ช่วง 1-2 ปีแรกก็ยังไม่มีเรื่องเสื่อมเสียเกี่ยวกับผู้หญิง ความรู้ดี-รู้ชั่วมันมีอยู่บ้าง แม้ฮอร์โมนมันพุ่งพล่านแต่ด้วยความด้อยประสบการณ์จึงทำให้พอประคับประคองมาได้บ้าง จนอายุเข้าสู่ 20 ปี เริ่มคุ้นชินกับโลกภายนอกมากขึ้น ประกอบความอยากรู้อยากลองที่เป็นกิเลสครอบงำจึงทำให้ผมได้มีเพศสัมพันธ์เป็นครั้งแรกในชีวิตกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีอายุมากกว่าไม่กี่ปีในคืนฝนตก ครั้งแรกของผู้ชายสำหรับผมนี่มันโคตรเจ็บปวดทรมานมากนะเพราะผมไม่เคยช่วยตัวเองมาก่อนหนังหุ้มปลายองคชาตจึงยังไม่เปิด แค่สอดใส่เพียงครั้งเดียวแถมยังไม่สุดด้วยก็ต้องเลิกเพราะผมเจ็บปวดมากทำต่อไม่ได้ และปวดจี๊ดๆเหมือนมีอะไรเสียดแทงอยู่ในท่อองคชาติต่อมาอีกหลายเดือนเลยทีเดียว (ฝ่ายหญิงจะเป็นยังไงผมไม่รู้เพราะผมไม่ใช่เขาและไม่เคยถามเขาเลย) หลังจากนั้นก็เริ่มรู้จักช่วยตัวเองเป็นครั้งแรกในชีวิตด้วย แล้วชีวิตก็ผ่านการมีแฟนคนแล้วคนเล่าแต่สุดท้ายก็เลิกลากันไปหมดไม่มีใครอยู่ได้นานจนถึงปัจจุบัน (โสด) ดังนั้นที่ผ่านมาจึงได้รับซับซาบรสของการเสพเมถุนติดมาด้วย
พอผมได้ย้ายมาอยู่ที่ฟาร์มคนเดียวได้อยู่กับธรรมชาติ มาใช้ชีวิตแบบบ้านๆ ประกอบกับได้กลับมาฟังธรรมและอ่านหนังสือธรรมะของพ่อครูอีกครั้งแล้วกลับมาพิจารณาพระธรรมคำสอนเทียบเคียงกับสภาวะที่เกิดขึ้นในตน (โยนิโสมนสิการ) จนรู้แจ้งชัดในตนแล้วว่าเราได้คุณธรรมอะไรและยังไม่ได้อะไร จึงตั้งใจจะพัฒนาตัวเองให้สูงขึ้นตามที่พ่อครูสอนและเจริญรอยตามที่พ่อครูได้นำพาทำด้วยตัวท่านเอง หวังว่าลึกๆ ในใจว่าจะได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อในภพชาติต่อๆ ไปอีก
สิ่งแรกที่ทำคือเข้มงวดเรื่องการกิน จากเคยกิน #มังสวิรัติ แบบกินไข่ได้ก็เลิกกินไข่เพราะเมื่อพิจารณาจากการเลี้ยงไก่เชิงอุตสาหกรรมทุกวันนี้ใช้ยาปฏิชีวนะและสารเคมีเยอะมาก จึงเห็นควรว่าตัวเองควรเลิกกินไข่ได้แล้วจะทนฝืนกินไข่แบบคาวๆ ทำไมอีก (ทุกครั้งที่กินไข่ก็รู้สึกคาวอยู่เสมอ) และหันมา #กินมื้อเดียว ตามอย่างพระพุทธเจ้า และพ่อครู สมณะสิกขมาตุชาวอโศกทำ จนตอนนี้ผมรู้สึกกินมื้อเดียวได้สบาย เห็นคนอื่นกินอะไรก็แล้วแต่ เช่น ไปเก็บผลไม้กับเพื่อนๆ นักศึกษาแพทย์แผนไทยเขาแกะผลไม้ใส่ปากกินกันอร่อย เราก็รู้สึกเฉยๆ ไม่รู้สึกต้องฝืนทนทุกข์ทรมาน เพื่อนๆ ชวนกินเราก็ไม่กิน จิตมีความตั้งมั่นไม่หวั่นไหว ดังนั้นกามคุณในเรื่องการกินผมรู้สึกตัวเองเบาบางลงเยอะ ทุกข์ในเรื่องการกินน้อยลงมาก
สิ่งที่ 2 ที่ผมพยายามจะทำให้ได้คือการรักษา #พรหมจรรย์ (แปลว่า ความประพฤติอันประเสริฐ หรือการดำเนินชีวิตอย่างประเสริฐ) ครองตนเป็นคนโสด (โสดจริงๆ ไม่ใช่แอบไปตีหม้อหรือซื้อกินลับหลัง) แต่กามคุณในเรื่องเมถุนธรรมนั้นหยาบสุดๆ คือ การร่วมประเวณี แม้ผมไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับใครมา 3 ปีแล้วแต่ก็ยังไม่พ้นเมถุนธรรม (เมถุนธรรมที่ละเอียดขึ้นมี 7 ระดับ ศึกษารายละเอียดได้ในเมถุนสังโยค 7) ยังรู้สึกทุกข์หรือมีแรงบีบคั้นในใจแต่มันเบาลงกว่าแต่ก่อนมากเพราะการกินมื้อเดียวนั้นช่วยผ่อนแรงขับทางเพศ (s*x drive) ให้เบาลง เพราะร่างกายได้รับสารอาหารน้อยลง ฮอร์โมนต่างๆ ก็ผลิตน้อยลง แรงกระตุ้นจากอวัยวะต่างๆ ก็ลดลง แต่ได้ร่างกายที่สมสัดส่วนขึ้น โรคภัยก็น้อยลง ทุกวันนี้ที่มีแพ้อยู่ก็เพราะใจมันยังอยาก ยังเรียกร้องหาอยู่ (ปริยุฏฐานกิเลส) เนื่องด้วยอุปาทานที่เราเคยมีในชาติก่อนๆ และชาตินี้ที่ไปเสพเมถุนสั่งสมอุปาทานให้แรงกล้าขึ้น พอจะมาเอามันออกจากใจจึงรู้สึกยากมาก ผมเห็นความคิดที่มันแว็บคิดนั่นคิดนี่ หรือคิดลามกอยู่ก็รู้ว่าเรากำลังมีราคะเข้าแทรก แต่บางทีมันก็ไม่อยากออกความคิดนั้นเพราะกำลังเสพกามในความคิด กำลังเสพรสอร่อยอยู่ (ได้สมใจอยาก) พอเสพนานเข้า บ่อยเข้า มันก็สะสมพลังจนมีฤทธิ์มีแรงบังคับจิตใจสั่งให้กระทำทางกายและวาจาออกไป เช่น ออกไปหาสาว ไปคุยกับสาว (ผมโชคดีที่ฟาร์มไม่มีสาวๆ หรือมีมาบ้างก็นานๆ ที) เป็นต้น เห็นผู้หญิงสวยๆ หรือน่ารักก็ยังรู้สึกชอบใจ อยากเข้าหาอยากพูดคุยด้วย บางทีเรื่องราวเก่าๆ ที่เคยทำก็ผุดขึ้นในความคิดหรือบางทีบรรยากาศภายนอกมันพาไปอารมณ์ก็เตลิดคิดว่าถ้ามีใครสักคนอยู่ด้วยก็คงจะดี ได้พูดคุย สัมผัสกอดหอม คลอเคลีย จนไปถึงการได้ร่วมประเวณีแล้วแต่ว่าช่วงนั้นอารมณ์/ความคิดจะพาเราเตลิดไปแค่ไหน บางครั้งมันฤทธิ์มันแรงมากก็ต้องตัดกำลังมันด้วยการสำเร็จความไคร่ จริงๆ วิธีนี้ไม่ใช่วิธีที่ดีเลยในแง่ของการฝึกลดละกิเลสกาม เพราะเป็นการเสพกามอีกวิธีหนึ่ง แต่มันก็ยังดีกว่าการเสพเมถุนด้วยการร่วมประเวณี
ดังนั้นผมจึงรู้ตัวดีว่าเรายังอ่อนแอในเรื่องกามเมถุน เวลามีผู้หญิงเข้ามาผมก็ยังมีหวั่นไหวเหมือนกันแต่จะมากหรือน้อยหรือไม่มีเลยก็แล้วแต่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะตรงกับจริตหรือที่เราชอบมากน้อยเท่าไหร่ ผมเข้าใจว่าคนอื่นทั่วไปคงไม่ได้สนใจเรื่องนี้นักเพราะคิดว่าการเสพกามมันคือธรรมชาติของคนและสัตว์ แต่ผมอยากพัฒนาตัวเองให้สูงขึ้นไง มันเลยต้องใส่ใจเรื่องนี้ ถึงอย่างนั้นก็ตามผมก็อาจจะแพ้กิเลสตัวเองได้จนไปมีเมียมีลูกก็เป็นได้ทั้งๆ ที่เราก็รู้ว่าเป็นคนโสดนั้นดีแต่ก็ยังแพ้กิเลส ขนาดสมณะชาวอโศกที่เคร่งครัดแท้ๆ บวชมา 30-40 ปี ยังสึกออกมามีคู่ได้เลย ดังนั้นเรื่องนี้จึงประมาทไม่ได้ จะดูกันระยะเวลาสั้นๆ ไม่ได้เลย สำหรับผมมันคือ "ศึกที่ต้องรบกันยาว" นี่แหละผมจึงตอบน้องที่ถามข้างต้นไปอย่างนั้น

เรื่องราวชีวิต #กระบี่พุทธมนุษย์กินพืช #กระบี่พุทธมนุษย์ฝึกตน #ฟาร์ม #เฮือนซายโท่ง #โคกหนองนาโมเดล #เกษตรทฤษฎีใหม่ #เศรษฐกิจพอเพียง #ศาสตร์พระราชา #เกษตรกร #เกษตรกรรุ่นใหม่ #ชีวิตชนบท #เรียบง่าย #เรียบง่ายแต่มีความสุข #อาหารสมอง

18/10/2025

17/10/2568 ผมเริ่มยาวแล้วสมควรแก่เวลาที่ต้องตัดผม ตัดผมไปก็เห็นใจที่มันยังอยากตัดผมให้ดูหล่อ ดูดีในสายตาคนอื่นอยู่ แปลว่าเรายังไม่หมดกิเลสเรื่องนี้ แต่ก็เห็นประโยชน์ของการตัดผมสั้นด้วยตัวเองว่ามันประหยัดค่าตัดผม และดูแลทำความสะอาดร่างกายได้ง่าย
แม้ใจมันจะยังไม่หมดความอยาก (ตัณหา) แต่กายกรรมก็ต้องทำเพื่อกดข่มจิตใจฝ่ายอกุศล (วิกขัมภนปหาน) จนกว่าใจมันจะมีฤทธิ์มีแรงอ่อนลงด้วยปัญญาสามารถดับได้เป็นครั้งคราว (ตทังคปหาน) แล้วสามารถดับได้เด็ดขาด (สมุจเฉทปหาน) และพัฒนาต่อจนสามารถเกิดความสงบระงับ ไม่ต้องขวนขวายเพื่อดับอีก (ปฏิปัสสัทธิปหาน) จนเช้าสู่ภาวะที่กิเลสดับแล้วสิ้น (นิสสรณปหาน) จิตเป็นอมตธาตุ หรือนิพพานนั้นเอง นี่คือการนิพพานในแต่ละเรื่องในชีวิตจริงของเราทุกคน ใครทำได้ก็เป็นผู้ประเสริฐที่มีคุณค่าแก่โลกใบนี้ 😊

เรื่องราวชีวิต #กระบี่พุทธมนุษย์กินพืช #กระบี่พุทธมนุษย์ฝึกตน #ฟาร์ม #เฮือนซายโท่ง #โคกหนองนาโมเดล #เกษตรทฤษฎีใหม่ #เศรษฐกิจพอเพียง #ศาสตร์พระราชา #เกษตรกร #เกษตรกรรุ่นใหม่ #ชีวิตชนบท #เรียบง่าย #เรียบง่ายแต่มีความสุข #อาหารสมอง

16/10/2025
การชนะใจตนเองยากที่สุด!!
03/09/2025

การชนะใจตนเองยากที่สุด!!

3/9/2568 เมื่อวานพระดาบดินส่งคำสอนพ่อครู #สมณะโพธิรักษ์ มาให้ ความว่า “การเอาชนะใจตนเองนั่นแหละเป็นการเอาชนะที่ยากที่สุด” อันนี้จริงที่สุด!!
บางครั้งที่มีโอกาสเอื้ออำนวยให้เราทำตามใจกิเลสของตัวเองได้ โอกาสจะแพ้ภัยตัวเองมาเต็มๆ รู้สึกได้เลยว่าใจตุ๊บๆ ต่อมๆ เพราะเกิดธรรมาธรรมะสงครามในจิตใจเรา มันมีการต่อสู้กับเรื่องที่เรายังไม่หลุดพ้น ใจหนึ่งมันปรุงแต่ง (สังขาร) สารพัดอย่างเลยเถิดไปไกลจนเกิดมีฤทธิ์เป็นแรงพลังบังคับตัวของเราให้อยากกระทำ จนจะลงมือทำจริงๆ (ถ้าลงมือทำสำเร็จ “บาป” ก็เกิดสมบูรณ์ทันที) แม้จะผิดพลาดก็มีการหาเหตุผลสารพัดไว้ให้ตัวเองรู้สึกผิดน้อยลงหรือปลอบใจตัวเองว่าเริ่มใหม่ก็ได้ (ดูมันดิ เก่งไหมล่ะ?)
แต่อีกใจหนึ่งก็รู้ว่าถ้าพลาดไปสิ่งที่ตั้งใจทำมาตลอดก็จะสูญเปล่า สิ่งที่เราพูดไว้ก็จะไม่ศักดิสิทธิ์เพราะทำไม่ได้อย่างพูด นึกถึงสมณะและหลวงพ่ออนุตตโรที่ท่านเมตตาอบรมสั่งสอนให้เห็นโทษภัย จะกล้าไปกราบท่านไหมและบอกท่านยังไง พยายามนึกถึงคำสอนของพ่อครูเพื่อทำให้ใจมันคลาย ท่านเคยบอกว่า “ฌาน คือไฟเผากิเลส“ ตอนเกิดการต่อสู้ในจิตใจนี่แหละ คือจังหวะที่ต้องใช้ “ไฟเผากิเลส” มียุทธวิธียังไงต้องงั้นเอามาสู้ เมื่อชนะได้จึงเป็น ”ฌาน“
แต่กิเลสมันก็แรงจัง จะชนะมันได้ต้องใช้ความเข้มแข็งและพลังจิตใจเยอะมากๆ แต่พลังจิตเราอ่อนด้อยมากเลยเนื่องจากเรายังไม่หลุดพ้นในเรื่องนี้ (ให้ตายซิ จะไหวไหมน้อ?) และเวทีนี้ก็ไม่มีใครสู้แทนเราได้ด้วยดิ เราต้องสู้เองเท่านั้น มันเป็นของใครของมัน คนอื่นไม่รู้กับเรา มีแค่เราที่รับรู้ได้ในใจของเรา จึงเห็นเลยว่าชนะใจตัวเองนี่แหละโคตรยากจริงๆ!!

ป.ล. วันนี้มาระบายความในใจออกแนวนามธรรม จะมีใครอ่านแล้วเข้าใจไหมน้อ?

เรื่องราวชีวิต #กระบี่พุทธมนุษย์กินพืช #กระบี่พุทธมนุษย์ฝึกตน #ฟาร์ม #เฮือนซายโท่ง #โคกหนองนาโมเดล #เกษตรทฤษฎีใหม่ #เศรษฐกิจพอเพียง #ศาสตร์พระราชา #เกษตรกร #เกษตรกรรุ่นใหม่ #ชีวิตชนบท #เรียบง่าย #เรียบง่ายแต่มีความสุข #อาหารสมอง

💡ผู้มี "ปัญญา" จะรู้จักรู้แจ้งรู้จริง "อุปธิ 3" ดียิ่ง มีพยัญชนะอีกคำที่ว่า "อุปธิ 3" นี่แหละ ที่บัญญัติไว้ว่า หมายถึง "...
27/08/2025

💡ผู้มี "ปัญญา" จะรู้จักรู้แจ้งรู้จริง "อุปธิ 3" ดียิ่ง มีพยัญชนะอีกคำที่ว่า "อุปธิ 3" นี่แหละ ที่บัญญัติไว้ว่า หมายถึง "กิเลส-ขันธ์-อภิสังขาร" (พระไตรปิฎกเล่ม 29 ข้อ 33)
🌿ซึ่งผู้มี "ปัญญา" จะสามารถรู้จักรู้แจ้งรู้จริง "อุปธิ 3" นี้ได้ครบ อันได้แก่ "กิเลส-ขันธ์-อภิสังขาร" นั่นคือ จะรู้จักรู้แจ้งรู้จริงได้ว่า "กิเลส" นั้นแท้ๆ มันคืออะไร? "ขันธ์" คืออย่างไร? และ "อภิสังขาร" จัดการกันไฉน?
🧑‍🤝‍🧑คนจึงจะต้องสร้าง "ปัญญาวุธ" ขึ้นมา ซึ่งก็คือ “สร้างพลังงานทางจิต” นี้เอง ให้มีคุณวิเศษที่มีประสิทธิภาพตามที่ว่านี้จริง ให้ได้สำเร็จแท้ นั่นคือ
1. รู้จักตัวตนของ "กิเลส" ให้ได้
2. รู้แจ้งว่ากิเลสมันมีอยู่ใน "ขันธ์" ของเรานี่เอง
3. รู้จริง "อภิสังขาร" ว่า คือ "วิธีการจัดการ" ชำระกิเลสหมดสิ้นสูญสลายหายไปจากจิตตนเองได้จริงๆ
แล้วผู้มี "ปัญญา" นั้นจึงจะสามารถทำลาย "กิเลส" ด้วย "ไฟ (ฌาน) ที่เป็นพลังงานของจิต" ขึ้นมาเผา (ฌายติ, ฌาเปติ) กำจัด "กิเลส" ให้ดับสูญสิ้นไปจาก "ขันธ์ 5" ของตนให้เรียบร้อยตามต้องการสำเร็จเด็ดขาด คนผู้นั้นจึงมี "วิมุติ-นิพพาน" เป็นผู้ "อมตะ" ผู้ทำตนสำเร็จเป็น "อรหันต์" คือผู้อยู่เหนือ "ความเกิด-ความตาย"
ผู้สามารถสลาย "กิเลส" จาก "จิตวิญญาณ" ของตนที่มันยึดความเป็น "อัตตา-ปรมาตมัน-พระเจ้า-เทฺว" ไม่ยอมเลิกสำเร็จแท้จริง แล้วตนเองจะจัดการกับตนเองให้ "อยู่" หรือให้ "ตาย" ไปอย่าง "ปรินิพพานเป็นปริโยสาน" เมื่อใดก็ได้ เป็นเรื่องของตนเด็ดขาดสัมบูรณ์สุด
🔥"ฌาน" ของพุทธจึงไม่ใช่ "ฌาน" ที่แค่กดข่มได้เก่งสุดหรือแค่เล่นเจ้าล่อเอาเถิด "เกิดแล้ว-ตาย ตายแล้ว-เกิด" กันอยู่ไม่รู้แล้ว แต่เป็น "พลังฤทธิ์" วิเศษที่เรียกด้วยภาษาเข้าใจกันง่ายๆว่า "ไฟ" เป็นพลังงานทางจิตที่มีฤทธิ์พิเศษมีอำนาจวิเศษสามารถ "เผากิเลส" ตัวการที่พา "เกิด" วนเวียนอยู่ในวัฏสงสารไม่มี "จบสิ้น" ได้สำเร็จกระทั่ง "จบกิจ" แท้ "กิเลสาสวะ" หมดสิ้นได้เด็ดขาดจริง ไม่ใช่แค่วิธี "กดข่ม(วิกขัมภนะ)" หรือแช่เย็นไว้จับตัวเป็นก้อนแข็งแน่นิ่งเข้าไปๆ เท่านั้น ซึ่งยิ่งไม่เคลื่อน ไม่ไหวติง
แต่ "ฌาน" ที่สัมมาทิฏฐิของพุทธนั้น ยิ่งมีประสิทธิภาพ ไหวแรงร้อนยิ่ง เหนือชั้นกว่า"ไฟราคะ-ไฟโทสะ-ไฟโมหะ" ซึ่งสร้างด้วยพลังทางกาย ด้วยพลังทางวาจา ด้วยพลังทางใจ กันอย่างบริบูรณ์สัมบูรณ์สุดๆ
🔥"ฌานที่สัมมาทิฏฐิของพุทธ" ต้องวิเศษมีฤทธิ์มีพลัง แรงร้อนเหนือกว่า "ไฟราคะ-ไฟโทสะ-ไฟโมหะ" จึงจะเผาผลาญทำลาย "ราคะ-โทสะ-โมหะ สำเร็จได้

พ่อครู #สมณะโพธิรักษ์ 🙏
หนังสือปัญญา 8 เล่ม 1 หน้า 167-170

สาเหตุที่ทำให้พระพุทธ​ศาสนา​เสื่อม=====================       ไม่ใช่คนนอกศาสนามาทำลาย​ แต่เป็นเพราะคนในศาสนา โดยเฉพาะ​ผู...
21/08/2025

สาเหตุที่ทำให้พระพุทธ​ศาสนา​เสื่อม
=====================
ไม่ใช่คนนอกศาสนามาทำลาย​ แต่เป็นเพราะคนในศาสนา โดยเฉพาะ​ผู้นำ คือ​ "พระสงฆ์" หลังจากที่พระพุทธ​เจ้า​ปรินิพพาน​ได้พียง​ 7​ วัน ก็ได้มีพระสุภททะกล่าวจาบจ้วงพระพุทธ​องค์​ พระมหากัสสปะพร้อมพระอรหันต์​จึงได้ทำการสังคายนา คือ รวบรวมพระธรรมวินัยให้เป็นหมวดหมู่
พระพุทธ​องค์​ปรินิพพาน​ได้​ 100​ ปี ได้มีภิกษุ​วัชชีได้ประพฤติ​ตนผิดพระธรรมวินัย​ พากับรับเงินรับทองจากชาวบ้าน จึงได้ทำการสังคายนาเป็นครั้งที่​ 2​ เมื่อเสร็จสิ้น​การสังคายนาภิกษุ​พวกวัชชีไม่ยอมรับ จึงได้แยกตัวไปทำสังคายนาขึ้นอีก จึงทำให้พระพุทธ​ศาสนาแยกออกเป็น​ 2​ นิกาย
เมื่อ​ พ.ศ.​ 300​ พระเจ้าอโศกมหาราชได้พบกับสามเณรรูปหนึ่งชื่อสามเณรนิโครธจึงเกิดความศรัทธา​เลื่อมใส จึงได้เปลี่ยนพระทัยหันมานับถือพระพุทธ​ศาสนา​และได้โปรดให้มีการทำสังคายนาพระธรรมวินัย​ ได้ทำนุบำรุงพระพุทธ​ศาสนา​ให้เจริญรุ่งเรือง และได้ส่งพระเถระผู้มีความสามารถ​ออกไปเผยแพร่พระพุทธ​ศาสนา​ยังนานาประเทศ
ส่วนประเทศไทย​ได้ส่งพระโสณะเถระกับพระอุตตระเถระเข้ามาเผยแพร่ มาถึงสมัยรัชกาล​ที่​ 4​ พระองค์​ได้ทรงผนวชตั้งพระทัยจะประพฤติ​ปฏิบัติ​ในกิจของสงฆ์​ แต่เมื่อมาอยู่ในร่มเงาแห่งบวรพุทธศาสนา จึงได้มาเห็นความบกพร่องหย่อนยานของพระสงฆ์ จนพระองค์​ทนไม่ได้จึงแยกตัวไปตั้งคณะสงฆ์​ธรรมยุต​ขึ้นมา เริ่มเคร่งครัดวิรัติ​ตนตามสิกขาวินัย ไม่รับเเงินทองอันเป็นของต้องห้าม​ เป็นวัตถุอนามาส จนมีผู้คนเลื่อมใสศรัทธา ในเมืองไทยจึงเกิดเป็น​ 2​ นิกาย
สาเหตุที่แท้จริงในปัจจุบันนี้ คือ...
1.​ ผู้นำศาสนา​คือพระสงฆ์​กลายเป็นนักธุรกิจ หารายได้จากการทำบุญ มีการเรี่ยไรเงินทอง​ แจกซองผ้าป่า​ ล่าเจ้าภาพกฐินเพื่อหาเงินอันเป็นการล่อแหลมต่ออาบัติ​ปาราชิก ทำให้กฐินเพี้ยน​ ผ้าป่าผิด​ บิดเบือน​พุทธ​บัญญัติ​เดิม
2.​ ผู้นำศาสนา​คือพระสงฆ์​กลายเป็นทุนนิยม​ มีการหล่อพระพุทธ​รูป​ ทำเหรียญ​ขายจนกลายเป็น​พุทธ​พาณิชย์​ นำเอาพระพุทธ​รูปไปขายเป็นสินค้าและอ้างว่าเช่าบูชา​ ต้นทุนไม่เท่าไรแต่คิดกำไรมหาศาล
3.​ ผู้นำศาสนา​คือพระดึงเอาพุทธศาสนา​ไปปนกับพราหมณ์ มีการสะเดาะเคราะห์​ต่อชะตา ทำเครื่องรางของขลัง​ เล่นไสยศาสตร์​ เดรัจฉาน​วิชา​ เป็นหมอดูฤกษ์​ยาม​ ซึ่งค้านกับคำสอนของพระพุทธ​เจ้า
4.​ การศึกษา​พระพุทธ​ศาสนา​ผิดพลาด พระเณรที่เข้ามาบวชไม่ได้มุ่งเรียนโลกุตรธรรม​ ไม่ได้มุ่งลดละกิเลส ไม่มีเป้าหมายที่จะปฏิบัตตนให้หลุดพ้นจากทุกข์​ตามแนวทางพระศาสนา แต่กลับไปเรียนวิชาการทางโลก(เดรัจฉาน​วิชา) เรียนจบแล้วก็สึกออกไปแย่งงานชาวบ้าน ไม่ได้ให้อะไรแก่ศาสนา​ เพียงแอบอ้างอาศัยแล้วยังทำให้ศสนาพลอยเศร้าหมองไปด้วย
5.​ ผู้นำศาสนามุ่งเน้นแต่พิธีกรรมตามจารีตประเพณี​เท่านั้น ไม่ได้มุ่งเน้นเนื้อหาสาระที่จะนำไปประพฤติ​ปฏิบัติ​ตนอันจะดับทุกข์​ได้ พิธีกรรมนั้นก็มุ่งแต่ผลประโยชน์ อันจะได้มาซึ่งวัตถุ​เงินทอง​ หรือเพื่อความขลัง​ศักดิ์สิทธิ์ งมงาย ซึ่งพระพุทธ​ศาสนา​เป็น​ อเทวนิยม​ ไม่ใช่​ เทวนิยม
6.​ ไม่ได้คัดเลือกกลั่นกรองผู้ที่จะเข้ามาบวช จึงมีแต่คนอกหัก​ หลักลอย​ คอยงาน​ สังขาร​แย่​ หัวไม่ดี​ ขี้โรค​ เป็นผู้ล้มเหลวในชีวิต ไม่ได้บวชด้วยความเลื่อมใสศรัทธา​ในหลักคำสอน​ ไม่มีทางไปจึงได้อาศัยบวชเลี้ยงตน​ จากผู้ไม่มีอะไรกลายเป็นพระมหาศาล​ จากอยู่กระต๊อบก็มาอยูตึก จากลูกตามีตามาก็มามียศมีตำแหน่ง​ เป็นใหญ่เป็นโต ซึ่งสวนทางกับพระศาสดาที่พระองค์​ทิ้งเงินทองมาเอาธรรม​ ทิ้งเวียงวังมาอยู่เรือนว่าง​ ลอมฟาง​ โคนไม้
กาลเวลาผ่านไป ทุกสิ่งอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แม้หลักคำสอนของพระศาสดา​ ได้ผ่านเข้าสู่กึ่งพุทธกาล ก็ย่อมมีความคลาดเคลื่อนแปรเปลี่ยนไปได้เช่นกัน ด้วยการทำบุญ​นอกพุทธที่แปลกปลอมเข้ามาในรูปแบบ​ของเดรัจฉาน​วิชา บอกใบ้ให้หวย​ เครื่องราง​ของ​ขลัง​ รดน้ำมนต์​ สะเดาะเคราะห์​ต่อชะตา พฤติกรรม​เหล่านี้ได้ยกอ้างเอาชื่อพระพุทธ​ศาสนา​ขึ้นมา​ เพื่อหวังประโยชน์​ทางการค้า ลาภ​ ยศ​ ชื่อเสียง​ ด้วยความเก่งกาจ​ อิทธิปาฏิหาริย์​ พระพุทธ​ศาสนา​จึงถูกสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ปิดบังเนื้อแท้จนหมดสิ้น ด้วยการกระทำเพื่อผลกำไรหรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์​ ด้วยอำนาจแห่งมิจฉาทิฐิ​ของบุคคลบางกลุ่ม
เราเหล่าพุทธบริษัท​ทั้งหลาย น่าที่จะมาร่วมแรงร่วมใจกันเข็นกงล้อพระธรรม​จักร​ และช่วยกันซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอ มาช่วยกันสืบศาสนจักร​ ให้เป็นเอกภาพในพระพุทธ​ศาสนา ด้วยการมาสร้างสังคมดีให้มีคุณธรรม​ กระทำตนให้เป็นประโยชน์เพื่อเป็นพุทธ​บูชา​ สัมมาปฏิบัติ​ด้วยกันเทอญ.

บทความโดย ส.ดวงดี
สาธุครับ🙏

ที่อยู่

84 Moo 5 Ban Non Tio, Non Khun
Yang Chum Noi
33190

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Inside Krabeeputhผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Inside Krabeeputh:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram