
13/12/2024
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวผสมผสาน ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวกรอบแคบ รอลุ้นผล ประชุมเฟดสัปดาห์หน้า
Krungthai XSpring •-ตลาดหุ้นจีน เคลื่อนไหวแดนลบ โดย HSKI-1.66% SSEC-1.49% จากแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มบลูชิพขนาดใหญ่ Meituan-3%, East Money-2.4% ฯลฯ เพราะผลประชุม Central Economic Work Conference ไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนถึงขนาดของมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากการส่งสัญญาณภาพรวมว่า
ทางการ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ผ่านมาตรการ การคลัง จะเพิ่มมาตรการใช้จ่ายของรัฐ ผ่านการเพิ่มการขาดดุลทางการคลัง ส่วนมาตรการการเงิน จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อเพิ่ม Consumption และ Stablized property and stock markets รวมถึงการผ่อนคลายค่าเงินหยวน แทนที่เน้น Stability เพื่อตอบรับ การปรับขึ้น US Tariff
•+/-ตลาดหุ้นเอเชียพัฒนาแล้ว เคลื่อนไหว Mix โดยตลาดหุ้นที่ปรับ ลดลง ได้แก่ Nikkei-1.05% นำลงโดยหุ้นบลูชิพขนาดใหญ่ Mitsubishi Heavy-3.2% Sony Group-3.2% ฯลฯ ตามการปรับ ลดลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และการให้โอกาสที่ BOJ ปรับขึ้น ดอกเบี้ย ในสัปดาห์หน้า ลดลงเหลือ 23% โดยรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะ อดทนต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อรอดูสัญญาณ Wage Growth ที่ชัดเจนก่อนดำเนินนโยบาย XAO-0.38%
•ส่วนตลาดหุ้นที่ปรับสูงขึ้น ได้แก่ Kospi พลิกจากลบมาเป็นบวก +0.63% คาดความเสี่ยงทางการเมืองอาจคลี่คลาย หลังจาก วันเสาร์ นี้ สภาฯจะมีกระบวนการถอดถอนนายกรัฐมนตรี ยุนซุกยอล (Impeachment) จากการประกาศกฎอัยการศึกที่ผ่านมา Taiex +0.02% นำขึ้นโดยหุ้น TSMC+0.94%
•+/-ตลาดหุ้น ASEAN เคลื่อนไหวคละ โดยตลาดหุ้นที่ปรับลดลง ได้แก่ PSE-0.5% JKSE-0.41% VNI-0.34% ส่วนตลาดหุ้นที่ ปรับสูงขึ้น ได้แก่ FBKLCI+0.43% STI+0.2%
ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวกรอบแคบ
ตลาดหุ้นไทย ดัชนีฯ เคลื่อนไหว ใน กรอบ 1431.97-1438.35 จุด (-7.92 จุดถึง -1.54 จุด) โดยดัชนีฯ ฟื้นตัวเล็กน้อย หลังจากร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดใน 15 นาทีแรก หลังเปิดตลาด ปัจจัยลบมาจาก การร่วงลงของตลาดหุ้นภูมิภาค เพราะกังวลต่อ US Bond Yield 10 ปีกลับมาเปลี่ยนเป็น ทิศทาง ขาขึ้น สัปดาห์แรกรอบ 4 สัปดาห์ และ US Dollar Index แข็งค่า ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง จากคาดการณ์ US Dot Plot ใหม่ มี โอกาสที่เฟดจะชะลอการปรับลดดอกเบี้ยปี 2025E ลงเหลือ น้อยกว่าเดิมที่ 4 ครั้ง
ภาวะตลาดโดยรวม (Market Breadth) เป็น Negative เห็นได้ จาก จำนวนบจ.ที่ปรับลดลง > จำนวนบจ.ที่ปรับสูงขึ้น ที่ 218 ต่อ 196 บจ. Gainers นำโดย PTT IVL มีผลต่อดัชนีฯ +1.13 จุด ส่วน Losers หุ้นที่ร่วงและมีผลต่อดัชนีฯสูงสุด ได้แก่ DELTA มีผล ต่อ ดัชนีฯ -3 จุด
Sectors & Stock Price Performance:
• +กลุ่มอุตฯที่ปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ Petro+2.67% Media+0.73% Transport+0.69% Tourism+0.68%
•-กลุ่มอุตฯที่ปรับลดลง ได้แก่ Electronic-1.63% Agri-1.6% Health-1.25% Auto-0.72%
•+หุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้น >3% ได้แก่ BEM IVL CCET BTS VGI BYD AAI
•-หุ้นที่ปรับลดลง >3% ได้แก่ BH STA MCOT SISB
ประเด็นต้องติดตาม วันนี้ :
• EU: Industrial Production เดือน ต.ค. คาด -0.1% MoM, -1.9% YoY (Vs เดือน ก.ย. -2% MoM, -2.8% YoY) แต่คาดปรับตัว ดีขึ้นในช่วงที่เหลือปีนี้ โดย Consensus คาดสิ้นเดือน ธ.ค. ขยายตัว +1.5% YoY
Strategy Update: คาดดัชนีฯเคลื่อนไหว Sideways แนวรับ 1,431 จุด (EMA 75 วัน)/1425 จุด แนวต้าน 1442 จุด (EMA 10 วัน)/1447 จุด (EMA25วัน) แนะนำ ขึ้นขายทำกำไร เพื่อรอสัญญาณเทคนิค ยืนยันขาขึ้นรอบใหม่