20/11/2025
🔥คำเตือนจาก WHO: ระดับการดื้อยาของเชื้อหนองในที่เพิ่มสูงขึ้นและน่ากังวล
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เปิดเผยข้อมูลใหม่ที่เน้นย้ำถึงระดับการดื้อยาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าวิตกของเชื้อหนองใน (Gonorrhea) ซึ่งเป็นหนึ่งในเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงและเร่งด่วนที่สุด ด้านสาธารณสุขในปัจจุบัน
ข้อมูลจากรายงานของโครงการเฝ้าระวังการดื้อยาต้านจุลชีพในเชื้อหนองในของ WHO ภายใต้ชื่อย่อว่า ESGAP (Enhanced Gonococcal Antimicrobial Surveillance Program) ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้มาจาก 12 ประเทศใน 5 ภูมิภาคของ WHO โดยรายงานผู้ป่วยหนองในรวม 3,615 รายในปี 2024 ซึ่งประเทศที่มีอัตราการดื้อยาสูงที่สุดคือ กัมพูชาและเวียดนาม แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของการดื้อต่อยาปฏิชีวนะแนวหน้าอย่างชัดเจน:
💊 "ทางตันทางการรักษา: เมื่อ First-line Drugs กำลังพ่ายแพ้"
▪️Ceftriaxone (first-line treatment)
อัตราการดื้อยา Ceftriaxone เพิ่มขึ้นจาก 0.8% ในปี 2022 เป็น 5% ในปี 2024 เพิ่มขึ้น 6.25 เท่า ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่น่ากังวล
▪️Cefixime (first-line treatment)
อัตราการดื้อยา จาก 1.7% ในปี 2022 เพิ่มเป็น 11% ในปี 2024 (เพิ่ม 6.47 เท่า)
▪️Azithromycin (ใช้ร่วมกับ Ceftriaxone และ Cefixime)
อัตราการดื้อยา ปี 2022 0.5% / อัตราการดื้อยา ปี 2024 4% เพิ่มขึ้น 8 เท่า
▪️Ciprofloxacin
อัตราการดื้อยาสูงมาก โดยอัตราการดื้อยาของเชื้อ Neisseria gonorrhoeae ในปี 2024 ดื้อยาในอัตราที่สูงที่สุดถึง 95% แทบจะใช้ในการรักษาโรคหนองในไม่ได้ผลแล้ว ซึ่งนับเป็นการสูญเสียยารักษาโรคในอดีตที่กำลังเกิดขึ้นซ้ำในปัจจุบัน
‼️การเพิ่มขึ้นของการดื้อต่อ Ceftriaxone และ Cefixime น่ากังวลเป็นพิเศษ เนื่องจากทั้งสองเป็นยาปฏิชีวนะทางเลือกสุดท้ายที่เหลืออยู่ในการรักษาโรคหนองใน ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่พัฒนาการดื้อต่อยาปฏิชีวนะที่เคยใช้ในการรักษาอย่างรวดเร็ว การที่เชื้อดื้อยาเหล่านี้หมายความว่ามีทางเลือกในการรักษาที่ได้ผลเหลือน้อยมากหรือไม่มีเลย ทำให้การรักษาโรคหนองในมีความเสี่ยงสูงที่จะล้มเหลว
🎖️ จุดที่ควรเน้นในการนำเสนอ
- Urgency: การสื่อสารความเร่งด่วนของปัญหา
- Data-Driven: ตัวเลขที่ความตระหนัก
- Global Perspective: มุมมองระดับนานาชาติ
- Practical Implications: ผลกระทบต่อการรักษาในคลินิก
- Future Outlook: ความหวังและทางออกในอนาคต
🚨โรคหนองในถือเป็นหนึ่งในสี่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยที่สุดทั่วโลก โดยมีผู้ติดเชื้อประมาณ 82 ล้านรายต่อปี เนื่องจากทางเลือกในการรักษาที่จำกัด องค์การอนามัยโลกจึงได้จัดให้เชื้อหนองในดื้อยาเป็นภัยคุกคามด้านสาธารณสุขที่ร้ายแรงและเร่งด่วน
WHO เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ดำเนินการเพื่อจัดการกับการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่เพิ่มสูงขึ้น และบูรณาการการเฝ้าระวังโรคหนองในเข้ากับโครงการ STI แห่งชาติ
🎯"ทางออกสุดท้าย: Zoliflodacin และ Gepotidacin ความหวังใหม่"
ยาใหม่สองชนิดที่เป็นความหวังใหม่ในการต่อสู้กับเชื้อหนองในดื้อยา ได้แก่ Zoliflodacin และ Gepotidacin ที่แสดงศักยภาพที่ดีในการทดลองทางคลินิก อาจเป็นทางเลือกในการรักษาเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้
😀มีปัญหาเรื่องการใช้ยา เชิญปรึกษาเภสัชกร
💢WHO warns of rising, worrisome levels of drug-resistant gonorrhea, CIDRAP, November 19, 2025
https://www.cidrap.umn.edu/gonorrhea/who-warns-rising-worrisome-levels-drug-resistant-gonorrhea
Enhanced Gonococcal Antimicrobial Surveillance Programme (EGASP): gonorrhoea treatment optimization, 2024 report, 19 November 2025
https://www.who.int/publications/i/item/9789240117297
Data from a new surveillance report show rising resistance to ceftriaxone and cefixime, the two antibiotics currently recommended for gonorrhea treatment.