18/12/2024
โรคท้องเสียจาก Norovirus
เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคลำไส้อักเสบ ส่วนใหญ่มีอาการท้องเสียแบบเป็นน้ำ(ไม่มีมูกหรือเลือดปน) คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง โดยอาการอาจจะรุนแรงได้ อาการปวดท้องและอาเจียนเป็นอาการเด่น โดยทั่วไปอาการจะหายเองได้ใน 2-3 วัน
ในบางพื้นที่มักระบาดในช่วงหน้าหนาว การระบาดเป็นกลุ่มก้อนมักเกิดในที่คนอยู่กันหนาแน่นเช่นโรงเรียน กองทหาร โรงพยาบาล ในแต่ละปีเชื้อนี้อาจทำให้มีการเจ็บป่วยได้ถึงปีละเกือบ 700 ล้านครั้ง (Mandell, Douglas, and Bennett's Principles and Practice of Infectious Diseases, Ninth Edition) อัตราป่วยในอเมริกาปีละ 2 ล้านคน เสียชีวิตทั่วโลกปีละประมาณ 200,000 ราย โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็ก
การติดต่อโรคผ่านทางการบริโภคอาหารหรืออาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ เชื้อนี้ติดต่อได้ง่ายแม้ว่ามีเชื้อปริมาณเล็กน้อย (small inoculum-น้อยกว่า 100 virion)ก็แพร่กระจายเชื้อได้ พบเชื้อได้ในน้ำแข็งที่ใช้บริโภคได้หากมีการปนเปื้อน ที่พบบ่อยคือผัก ผลไม้ที่ล้างไม่สะอาด หรือสัมผัสเชื้อที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมเช่นฝารองโถส้วม ลูกบิดในห้องน้ำ
ระยะฟักตัวของโรคคือ 1-2 วันหลังรับเชื้อ เชื้ออยู่ในอุจจาระได้นานถึง 4 สัปดาห์ ในผู้ที่ภูมิคุ้มกันลดลงเชื้ออาจจะอยู่ในอุจจาระได้นานเป็นเดือน
การวินิจฉัยทำได้จากลักษณะอาการท้องเสียที่เป็นพร้อมกันหลายคน การตรวจหาเชื้อในอุจจาระอาจช่วยในง่ของระบาดวิทยาและการสอบสวนโรค วิธีการตรววจหาเชื้อคือการตรวจ PCR ปัจจุบันมักใช้เป็นการตรวจหาเชื้ออื่นได้ด้วยแบบ multiplex PCR
การรักษา
โรคนี้ยังไม่มียาต้านไวรัสที่จำเพาะ มักใช้การรักษาประคับประคอง การให้สารน้ำและเกลือแร่
การป้องกัน
การรักษาสุขอนามัยด้วยการล้างมือด้วยสบู่ (แอลกอฮอล์เจลไม่ช่วยในการทำลายเชื้อ norovirus) การล้างผักผลไม้ก่อนบริโภค อาหารควรปรุงให้สุกสะอาด ผู้ที่ดูแลคนที่ป่วยเป็น norovirus ควรล้างมือบ่อยๆเพื่อป้องกันการติดต่อ ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมด้วยน้ำยาทำความสะอาด โรคนี้มีการติดเชื้อซ้ำได้เนื่องจากเชื้อมีหลายสายพันธุ์