แพทย์จีนหมิงลี่

แพทย์จีนหมิงลี่ แนะนำความรู้การดูแลสุขภาพแบบแพทย์?

การเอาชนะอารมณ์ด้วยอารมณ์ในแบบธาตุทั้งห้า  แพทย์จีนในยุคจิน-หยวน “จางจื่อเหอ” ได้อธิบายวิธีนี้ไว้ใน“儒门事亲·九气感疾更 相为治衍》” ว่...
18/06/2025

การเอาชนะอารมณ์ด้วยอารมณ์ในแบบธาตุทั้งห้า
แพทย์จีนในยุคจิน-หยวน “จางจื่อเหอ” ได้อธิบายวิธีนี้ไว้ใน“儒门事亲·九气感疾更 相为治衍》” ว่า:

😣 ความเศร้าสามารถรักษาความโกรธได้ เพราะคำพูดเศร้าสร้อยสามารถระงับความโกรธได้

😊ความดีใจสามารถรักษาความเศร้าได้ เพราะความเบิกบานสามารถคลายความโศกเศร้า

😫ความกลัวสามารถรักษาความดีใจได้ เพราะความหวาดกลัวความตายจะทำให้รู้สึกเกรงกลัวและยั้งตน

😡ความโกรธสามารถรักษาความกลัวได้ เพราะความโกรธจะทำให้ไม่กลัว

🤔ความคิดมากสามารถรักษาความโกรธได้ เพราะใช้ความคิดในการควบคุมอารมณ์โกรธ

ทั้งห้าสิ่งนี้ หากนำมาใช้อย่างเหมาะสม จะสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์รุนแรงให้สงบลงได้ และจะทำให้ผู้อื่นรับฟังเราได้ง่ายขึ้น

金元医家张子和在《儒门事亲·九气感疾更 相为治衍》中具体阐述了这一方法:“悲可以治怒, 以怆侧苦楚之言感之;喜可以治悲,以谑 浪亵狎之言娱之; 恐可以治喜,以恐惧死亡之言怖之; 怒可以治思,以污辱欺罔之言触之; 思 可以治恐, 以虑彼志此之言夺之。凡此五者, 必诡诈谲怪 , 无所不至 , 然后可以动人耳目 , 易人听视。”

คนไทยล่ะ? 得气เร็วไหม?ต้องบอกว่า…คนไทยอยู่ตรงกลางครับคนที่ร่างกายแข็งแรง–นอนดี–กินดี–ไม่พร่อง → 得气ไวโดยเฉพาะถ้ามีศรัทธาในแ...
05/06/2025

คนไทยล่ะ? 得气เร็วไหม?
ต้องบอกว่า…คนไทยอยู่ตรงกลางครับ
คนที่ร่างกายแข็งแรง–นอนดี–กินดี–ไม่พร่อง → 得气ไว
โดยเฉพาะถ้ามีศรัทธาในแพทย์จีน หรือฝังเข็มมาก่อน
แต่คนไทยบางกลุ่มที่…
- ใช้ยาเยอะ ยาประจำตัวมาก
- ชอบนอนดึก
- มีความเครียด พักผ่อนน้อย
- ไม่รู้จักความรู้สึก得气
→ จะ得气ช้า หรือบางครั้ง “มาแล้ว” แต่เขาไม่รู้ตัว
📍สุดท้ายหมอได้ข้อสรุปว่า…得气ไม่ใช่แค่เรื่องของเชื้อชาติ
แต่มันเป็นเรื่องของ 3 อย่าง:
1. พื้นฐานร่างกาย (体质)
2. ความเข้าใจและประสบการณ์ (认知)
3. ใจเปิดหรือปิดต่อพลังของเข็ม (意念)

มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ

EP50**คนทวีปไหนตอบสนองการฝังเข็มดีกว่ากัน?👩🏼‍⚖️

🔬หลายคนคงสนใจว่า ทุกคนจะมีความรู้สึกเมื่อยชาตึงปวด(酸麻胀痛)ขณะฝังเข็ม เท่ากันหรือเปล่า แล้วถ้าไม่เท่ากันเป็นเพราะสาเหตุอะไร?
วันนี้หมอจะพามาเล่าอีกหนึ่งปัจจัย ที่มีผลต่อความรู้สึกตอบสนองต่อการฝังเข็ม (เต๋อชี่:得气)เกี่ยวข้องกับชาติติพันธ์ุกันครับ

得气 กับชาติพันธุ์: ชี่จะมาเร็วหรือช้า…ขึ้นกับแค่เชื้อชาติจริงหรือเปล่า?🤔
หมอจะเล่าให้ฟังจากประสบการณ์สิ่งที่เจอจริง พร้อมงานวิจัยที่น่าสนใจ

หลายคนเคย ตั้งคำถามว่า
“การ…得气 (เต๋อชี่) มัน ความสัมพันธ์ กับเชื้อชาติไหม?”
หมอเคยคิดว่า “คงไม่เกี่ยวมั้ง”
แต่พอฝังเข็มให้คนไข้หลากหลายชาติพันธุ์เข้าเรื่อย ๆ
บอกเลยครับว่า… มันมีความต่างจริง
แต่ไม่ใช่เพราะ “เชื้อชาติ” เพียงอย่างเดียวครับ

เราลองมาดูปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเชื้อชาติกัน

🇨🇳 คนจีน: 得气ชัด เพราะรู้จักคำนี้อยู่แล้ว

หมอเคยฝังเข็มคนไข้ชาวจีนท่านนึง
ขณะฝังยังไม่ทันหมุนเข็มเลย เขาบอกว่า
“มาแล้ว 麻了 酸了 ขึ้นมาถึงข้างหลังเลย”

คือเขา ไม่รอหมอถาม ด้วยซ้ำ เพราะเขารู้ว่า得气คืออะไร
ตั้งแต่เด็กเขาฟังคำนี้จากบ้าน–จากหมอที่จีน
พอเข็มลงนิดเดียว เขา “รู้ตัวทันที” ว่า得气เกิดแล้ว
นี่คือความได้เปรียบของการเติบโตมากับวัฒนธรรม “ชี่”

🟢งานวิจัยของ Zhao, L. et al. (2012)
เปรียบเทียบคนจีนกับชาวอเมริกัน พบว่า:
- คนจีนส่วนใหญ่ รู้ศัพท์ และ เข้าใจความรู้สึกแบบ得气
- ขณะที่ชาวตะวันตกใช้คำอธิบายแบบ “warm”, “electric”, “dull” ซึ่งไม่แม่นยำแบบแพทย์จีน

🇺🇸 ในขณะที่ฝรั่ง: 得气ช้า เพราะไม่เข้าใจว่าต้องรู้สึกยังไง

หมอได้มีโอกาสฝังให้คนไข้ชาวอเมริกันคนหนึ่ง
เข็มลงไปได้ 2 นาที หมอยังไม่หมุน เขาก็ถามว่า
“หมอครับ นี่คือ supposed to feel painful ใช่ไหมครับ?”

หมอต้องอธิบายเลยว่า “เจ็บกับ得气ไม่เหมือนกันนะครับ”
แต่เขาก็ยังงงอยู่ดี เพราะเขา ไม่เคยได้ยินคำว่า 得气
ไม่รู้ว่าต้อง “สังเกต” ความรู้สึกแบบไหน

🔵ตามงานวิจัยของ NIH-USA (2005–2020)
เมื่อทดลองฝังเข็มในคนเอเชีย vs. คนยุโรป/อเมริกัน พบว่า:
- คนเอเชียตอบสนอง limbic system และ insula ชัด
- คนตะวันตกตอบสนองความเจ็บก่อน limbic–insula ตอบสนองน้อยกว่า มักตีความ “ชา” เป็น “เจ็บ”
- บางคนรู้สึกเจ็บแต่ไม่รู้ว่าคือชี่เคลื่อน

🌍 ในขณะที่คนแอฟริกา: 得气เร็วแบบน่าประหลาดใจ

เคสนี้หมอจำแม่นมาก
ตอนฝึกงานอาจารย์แพทย์จีนได้ฝังให้คนไข้หญิงซึ่งเป็นเพื่อนต่างชาติชาวแอฟริกาใต้
ยังไม่ทันหมุนเข็มดี เธอบอกว่า
“I feel something moving inside already. It’s warm but not painful.”

ตอนแรกหมอคิดว่าเธออาจคิดไปเอง
แต่พอดีอาจารย์ท่านฝังอีกจุดหนึ่งต่อ เธอพูดว่า
“It’s like a line of energy going up.”

ชัดเจนเลยครับ ว่าเธอ “รับรู้走气” ได้ดีมาก
และ ไม่มีความกลัวต่อเข็มเลยแม้แต่นิดเดียว

🟠อันนี้ตรงกับงานวิจัยของ Zhou, K. et al. (2013)
ที่ตีพิมพ์ใน Journal of Alternative and Complementary Medicine เทียบ得气ในคนแอฟริกาและเอเชีย พบว่า:
- คนแอฟริกา (โดยเฉพาะในแถบตะวันออกและใต้ทะเลทรายซาฮารา)
✅ 得气ไว เฉลี่ยแค่ 10–20 วินาที
✅ รู้สึก酸麻胀重 ได้ชัด
✅ บางคนรู้สึก 走气 ไปยังจุดปวดได้เลย

โดยนักวิจัยเสนอทฤษฎีว่าเพราะ…
1. กล้ามเนื้อของคนแอฟริกาแน่น และตอบสนองแรงกดไว
2. ระบบ Aδ-fiber และ C-fiber บางกลุ่มไวมาก
3. เป็นชาติพันธุ์ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติและมีจิตที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ → เข้าใจ “พลังชีวิต” แบบ instinctive

🇹🇭 แล้วถ้าถามว่าคนไทยล่ะ? 得气เร็วไหม?

ต้องบอกว่า…คนไทยอยู่ตรงกลางครับ
คนที่ร่างกายแข็งแรง–นอนดี–กินดี–ไม่พร่อง → 得气ไว
โดยเฉพาะถ้ามีศรัทธาในแพทย์จีน หรือฝังเข็มมาก่อน

แต่คนไทยบางกลุ่มที่…
- ใช้ยาเยอะ ยาประจำตัวมาก
- ชอบนอนดึก
- มีความเครียด พักผ่อนน้อย
- ไม่รู้จักความรู้สึก得气

→ จะ得气ช้า หรือบางครั้ง “มาแล้ว” แต่เขาไม่รู้ตัว

📍สุดท้ายหมอได้ข้อสรุปว่า…得气ไม่ใช่แค่เรื่องของเชื้อชาติ
แต่มันเป็นเรื่องของ 3 อย่าง:
1. พื้นฐานร่างกาย (体质)
2. ความเข้าใจและประสบการณ์ (认知)
3. ใจเปิดหรือปิดต่อพลังของเข็ม (意念)

🍀เหมือนคำโบราณที่ว่า
“意到气到,神随针行”
“ใจไปก่อน ชี่จะตามมา เทพจะพาเข็มไปถึงจุดป่วย”

ไม่ว่าเขาจะเป็นคนชาติไหน…
ถ้าชี่เปิด ใจเปิด และร่างกายไม่พร่อง
得气…ย่อมมาแน่นอนครับ

🔬จากทั้งประสบการณ์จริงและงานวิจัยจึงสรุปได้ว่า…
🟣ชาติพันธุ์มีผลต่อความไวในการเกิด得气จริง โดยคนเชื้อสายแอฟริกา โดยเฉพาะแถบแอฟริกาตะวันออกและใต้ทะเลทรายซาฮารา มัก得气ได้เร็วที่สุด ภายในเวลาไม่ถึง 20 วินาที
🟢รองลงมาคือคนจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ที่เติบโตมากับคำว่า得气จึงสังเกตได้ไว
🟠ส่วนคนไทยและชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้得气ได้ดีหากร่างกายไม่พร่อง แต่จะขึ้นอยู่กับความเชื่อและสุขภาพเป็นหลัก
🔵ขณะที่คนยุโรปและอเมริกาเหนือมัก得气ช้าหรือไม่รู้ตัวเลย เพราะไม่เข้าใจศัพท์เฉพาะของแพทย์จีน และมักแยกไม่ออกระหว่างความรู้สึก得气และเจ็บ และจะรู้สึกเจ็บเร็วกว่า得气

สรุปเรียงลำดับ得气ไวมากไปน้อย:
แอฟริกา > จีน/เกาหลี/ญี่ปุ่น > ไทย/อาเซียน > ยุโรป/อเมริกา

เล่าจากคลินิกจริง ๆ หมอแมนแพทย์จีนครับ ✨

🥸หมายเหตุ:
บทความนี้อาจมีการอ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือพิจารณาเพียงบางมิติของปัญหาเท่านั้น ซึ่งอาจส่งผลให้ไม่สามารถสะท้อนความเป็นจริงได้อย่างครบถ้วนหรือแม่นยำในทุกบริบท ดังนั้น ข้อมูลที่นำเสนอจึงควรใช้เพื่อการวิเคราะห์หรือสันนิษฐานเบื้องต้น โดยมีหลักการทางวิจัยและวิทยาศาสตร์เป็นแนวทางประกอบการพิจารณา

#หมอแมนแพทย์จีน
#เต๋อชี่
#การตอบสนองต่อการฝังเข็ม

🌧️ความชื้นที่มากับฝนตก สาเหตุหนึ่งของปัจจัยก่อโรค🌧️ ความชื้นในทางการแพทย์จีนสามารถก่อปัญหาได้ในหลายๆระบบพร้อมกัน เช่น กร...
26/05/2025

🌧️ความชื้นที่มากับฝนตก สาเหตุหนึ่งของปัจจัยก่อโรค🌧️

ความชื้นในทางการแพทย์จีนสามารถก่อปัญหาได้ในหลายๆระบบพร้อมกัน เช่น กระเพาะม้ามชื้น มักทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องขับถ่าย อาหารไม่ย่อย เบื่ออาหาร ภาวะโรคอ้วน อาการคัน ปัสสาวะติดขัด ไขมัน เบาหวาน หรือส่งผลปัญหาประจำเดือน เป็นต้น

👉🏻ความชื้น มักทำลาย “หยางชี่”
เป็นที่ทราบกันว่า “หยางชี่” ในทางการแพทย์จีนมีบทบาทสำคัญในการดูแลภูมิคุ้มกันในร่างกาย เป็นตัวช่วยในการผลักดันการไหลเวียนเลือด ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ยังคงมีบทบาทสำคัญที่สามารถช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารได้ดีขึ้นอีกด้วย ดังนั้น การที่ร่างกายก่อความชื้นขึ้นภายในนั้น จึงไม่เป็นผลดีถ้าหากเกิดโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้น เพราะหากกลไกหยางชี่ถูกทำลายลง โรคจะยิ่งมีความเรื้อรังมากขึ้น และการฟื้นฟูดูแลรักษาจะเป็นได้ค่อนข้างยากหากกลไกนี้ถูกทำลายลง

✨ดูแลตัวเองในช่วงฝนตก✨

✅ดื่มน้ำอุ่น
✅หลีกเลี่ยงของเย็นจัด น้ำแข็ง ปะทะลมเย็นบ่อยๆ
✅ดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน
✅หลีกเลี่ยงสภาพอากาศชื้น

ร้อนใน คลายร้อนแบบ แพทย์แผนจีน
10/05/2025

ร้อนใน คลายร้อนแบบ แพทย์แผนจีน

ตะคริวที่ขาตอนกลางคืน เกิดจากอะไรกันนะ ในมุมมองของแพทย์แผนจีน 🤔?
28/04/2025

ตะคริวที่ขาตอนกลางคืน เกิดจากอะไรกันนะ ในมุมมองของแพทย์แผนจีน 🤔?

รสชาติในปากบอกโรคได้นะคะ
06/04/2025

รสชาติในปากบอกโรคได้นะคะ

ทำไมคนจีนชอบกินของน้ำร้อน♨️นอกจากเรื่องการทานน้ำร้อนที่ ทำมาเป็นวัฒนธรรมอันยาวนานแล้วยกตัวอย่างเช่น ชาร้อน คนจีนยังเชื่อ...
15/03/2025

ทำไมคนจีนชอบกินของน้ำร้อน♨️
นอกจากเรื่องการทานน้ำร้อนที่ ทำมาเป็นวัฒนธรรมอันยาวนานแล้วยกตัวอย่างเช่น ชาร้อน คนจีนยังเชื่อว่าการทานน้ำร้อนดีต่อสุขภาพ
ในตำราการแพทย์แผนจีน

💨 ความเย็นชอบทำลายหยาง ความเย็นเป็นอิน ชอบทำลายหยางทำให้หยางพร่อง ลมปราณหยางไม่สามารถสร้างความอบอุ่นเป็นพลังผลักดันการทำงานของร่างกายจึงเกิดกลุ่มอาการ ทำให้มีอาการกลัวหนาว มีไข้ เหงื่อไม่ออก ปวดศีรษะ ปวดตัว ปวดข้อ

💨 ความเย็นทำลายลมปราณหยางทำให้เลือดและลมปราณไหลเวียนไม่สะดวก เกิดอาการปวด เช่น ปวดที่ศีรษะ ลำตัว แขนขา และข้อ ถ้าความเย็นตรงเข้ารุกรานเข้าภายในของร่างกายจะทำให้การไหลเวียนของลมปราณในซานเจียวติดขัด ทำให้มีอาการปวดเย็นหรือปวดบิดที่ท้องได้

💨 ความเย็นทำให้หดเกร็ง ถ้าความเย็นมากระทบที่ส่วนนอกของร่างกาย ทำให้ช่องใต้ผิวหนังหดตัว รูเหงื่อปิด เส้นลมปราณตีบตัน หยางที่ปกป้องร่างกายไม่ไหลเวียนมาที่ส่วนนอก จะมีอาการไข้ กลัวหนาว เหงื่อไม่ออก ข้อเย็น ปวด แขนขาเย็นและอ่อนแรง ขยับเคลื่อนไหวไม่สะดวก

💨 ความเย็นที่ก่อตัวภายในร่างกายมักทำลายลมปราณหยางของหัวใจ ม้าม ไต โดยเฉพาะไต หยางไตเป็นรากฐานของลมปราณหยางภายใน

การทำอะไรมากเกินไปมักส่งผลเสียต่อสุขภาพได้นะคะ‼️🔆五劳七伤 เจ็บป่วยจากการใช้งานเกินไปทั้งห้า🔆久视伤血 สายตามองมากเกินไปทำลายเลือด...
08/03/2025

การทำอะไรมากเกินไปมักส่งผลเสียต่อสุขภาพได้นะคะ‼️

🔆五劳七伤 เจ็บป่วยจากการใช้งานเกินไปทั้งห้า🔆

久视伤血 สายตามองมากเกินไปทำลายเลือด
ตับในทางการแพทย์จีน มีหน้าที่กักเก็บเลือด ตับนั้นเปิดทวารที่ตา เมื่อใช้สายตามากเกินไปทำลายอวัยวะตับ เมื่อเลือดตับไม่พอก็ไปแสดงออกที่ดวงตา

久卧伤气 นอนมากเกินไปทำลายชี่
เมื่อนอนมากไปไม่เคลื่อนไหว ไม่ลุกออกกำลังกาย ชี่และเลือดในร่างกายก็ไม่เคลื่อนไหวไปด้วย ส่งผลให้ชี่ของปอดได้รับความเสียหาย (ปอดควบคุมลมปราณในร่างกายให้สมดุล)

久坐伤肉 นั่งมากเกินไปทำลายกล้ามเนื้อ
การนั่งนานทำลายม้าม ม้ามเกี่ยวข้องกับการควบคุมกล้ามเนื้อ เมื่อม้ามพร่อง กล้ามเนื้อก็ไม่มีแรง

久立伤骨 ยืนมากเกินไปทำลายกระดูก
การยืนนานมักทำลายไต ทำให้ปวดเอว (เอวเป็นตำแหน่งไต) ปวดข้อเข่าง่าย
ไตเกี่ยวข้องกับกระดูก (สังเกตจากยิ่งอายุมากพลังไตจะน้อยลงกระดูกก็จะยิ่งพรุน )

久行伤筋 เดินมากเกินไปทำลายเส้นเอ็น
การเดินมากๆหรือตรากตำทำงานหนัก มักทำลายอวัยวะตับ ตับอีกหนึ่งหน้าที่คือควบคุมเส้นเอ็น
ะค

✨รอยช้ำเกิดจากได้หลายสาเหตุ ถ้าพูดในมุมมองแพทย์แผนจีน จะเกิดจาก✨👉🏻ม้ามพร่อง ม้ามไม่กักเก้บเลือดม้ามควบคุมไม่ให้เลือดออก ...
22/02/2025

✨รอยช้ำเกิดจากได้หลายสาเหตุ ถ้าพูดในมุมมองแพทย์แผนจีน จะเกิดจาก✨

👉🏻ม้ามพร่อง ม้ามไม่กักเก้บเลือด
ม้ามควบคุมไม่ให้เลือดออก ลมปราณของม้ามช่วยควบคุม
ให้เลือดไหลเวียนอยู่ภายในเส้นเลือดในร่างกาย ถ้าลมปราณของม้ามพร่อง
ทำให้เกิดเลือดออกง่าย เลือดออกใต้ผิวหนัง อุจจาระเป็นเลือด ประจำเดือนมามาก เป็นต้น

✨แพทย์แผนจีนจึงเน้นการบำรุงม้าม เป็นหลัก✨

และสาเหตุอื่นๆในมุมมองการแพทย์แผนปัจจุบันอาจเกิดจาก 🤔
✅ยาบางชนิด เช่น แอสไพริน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยากลุ่มสเตียรอยด์
✅ขาดสารอาหารบางอย่าง เช่น วิตามินซี
✅อายุเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผิวหนังมีความบอบบาง
✅ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับวายหรือไตวายเรื้อรัง
✅การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น ไวรัสเดงกี
✅เกล็ดเลือดต่ำหรือเกล็ดเลือดทำงานผิดปกติ
✅มีความผิดปกติของระบบการแข็งตัวของเลือด

ผมร่วง ผมบาง สาเหตุอาจมาจาก?📍ทานของมัน หวาน ทอด หรือ รสจัด เป็นประจำ📍ครุ่นคิดใช้สมองมาก ม้ามไม่แข็งแรง📍ไตและตับพร่อง จาก...
08/02/2025

ผมร่วง ผมบาง สาเหตุอาจมาจาก?

📍ทานของมัน หวาน ทอด หรือ รสจัด เป็นประจำ
📍ครุ่นคิดใช้สมองมาก ม้ามไม่แข็งแรง
📍ไตและตับพร่อง จากการทำงานหนัก พักผ่อนไม่พอ

ปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ ส่งผลให้การกินของคนเราในปัจจุบันค่อนข้างเร่งรีบ การกินเร็วส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย...
01/02/2025

ปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ ส่งผลให้การกินของคนเราในปัจจุบันค่อนข้างเร่งรีบ

การกินเร็วส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายก่อให้เกิดภาวะ Metabolic Syndrome กลุ่มอาหารที่เกิดจากการเผาผลาญอาหารของร่างกายผิดปกติ ทำให้เกิดโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง

ช่วงนี่ฝุ่นเยอะ ดูแลสุขภาพง่ายๆด้วยการกดจุดกระตุ้นเส้นลมปราณ และที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงการทำงานและการออกกำลังกายกลางแจ้ง ...
25/01/2025

ช่วงนี่ฝุ่นเยอะ ดูแลสุขภาพง่ายๆด้วยการกดจุดกระตุ้นเส้นลมปราณ และที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงการทำงานและการออกกำลังกายกลางแจ้ง หากจำเป็นควรออกกำลังกายภายในอาคาร เลี่ยงฝุ่น และควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อต้องออกไปกลางแจ้งนะคะ 😊

ที่อยู่

29
Chiang Mai
500000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ แพทย์จีนหมิงลี่ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram