คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ เชียงใหม่

คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ เชียงใหม่ คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ เปิดให้บริการวันอาทิตย์ 13.00-16.00 ที่ M Square polyclinic(ถ.วัวลาย)

กรุณาติดต่อนัดคิวตรวจก่อนนะคะ

19/08/2025

🩺💉📌 ”รู้ทันโรคระบบทางเดินอาหาร“📌 ขอเสนอบทความเรื่อง “วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี เกราะป้องกันมะเร็งตับ“ โดย 👨‍⚕️ รศ. นพ.ศิษฏ์ ศิรมลพิวัฒน์

ผู้ที่สนใจสามารถอ่านบทความเต็มโดยกด link นี้ได้เลยค่ะ ➡️ https://www.gastrothai.net/th/knowledge-detail.php?content_id=516

คุณรู้หรือไม่ ❓
👉 คนที่เกิด ก่อนปี 2535 ส่วนใหญ่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
👉 เสี่ยงติดเชื้อสูงกว่า ❗ (พบการติดเชื้อ 5–8% เทียบกับคนที่เกิดหลังปี 2535 เพียง 1.5%)

💡 ไวรัสตับอักเสบบี ติดต่อได้ ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกัน เลือด-สารคัดหลั่ง และจากแม่สู่ลูก
แต่‼️ ไม่ติดต่อ จากการกินอาหารร่วมกัน กอด หรือสัมผัสทั่วไป

👉 ถ้าเกิดก่อนปี 2535 อย่าลืมตรวจและฉีดวัคซีนนะครับ 💉✨
#ไวรัสตับอักเสบบี #ป้องกันมะเร็งตับ #วัคซีนช่วยได้ #รู้ทันโรคระบบทางเดินอาหาร #สมาคมแพทย์ระบบทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย #ไวรัสตับอักเสบ #สุขภาพดีเริ่มที่การรู้ทันโรค

16/08/2025

💉มาฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี -> ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งตับ ค่ะ
🌸เดี๋ยวจะมารีวิว ซีรี่ย์มะเร็งตับ ให้ความรู้กันต่อเลยนะคะ

🎁ของขวัญวันแม่ปีนี้  มอบสุขภาพที่แข็งแรงให้แม่ นะคะ 💕วันแม่…นอกจากดอกมะลิและคำบอกรักลองเพิ่ม “การพาแม่ตรวจคัดกรองมะเร็ง”...
12/08/2025

🎁ของขวัญวันแม่ปีนี้ มอบสุขภาพที่แข็งแรงให้แม่ นะคะ 💕

วันแม่…นอกจากดอกมะลิและคำบอกรัก
ลองเพิ่ม “การพาแม่ตรวจคัดกรองมะเร็ง” เป็นของขวัญด้วยนะคะ
เพราะการตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก รักษาหายได้มากกว่า 90%

—————-

🌸 คัดกรองมะเร็งที่คุณแม่ไม่ควรพลาด 🌸

✅ มะเร็งเต้านม – ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือมีประวัติครอบครัว
ตรวจแมมโมแกรม + อัลตราซาวด์เต้านม ทุก 1 ปี

✅ มะเร็งปากมดลูก – ผู้หญิงอายุ 30-65 ปี
ตรวจ Pap smear หรือ HPV DNA test ทุก 3-5 ปี

✅ มะเร็งลำไส้ใหญ่ – อายุ 50 ปีขึ้นไป
ตรวจอุจจาระหาเลือดแฝง (FIT) ทุกปี หรือส่องกล้องทุก 5-10 ปี

✅ มะเร็งตับ – ผู้มีพาหะไวรัสตับอักเสบบี/ซี หรือโรคตับเรื้อรัง
ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้อง + AFP ทุก 6 เดือน

✅ มะเร็งปอด – ผู้สูบบุหรี่จัด หรือเคยสูบบุหรี่
ตรวจ Low-dose CT scan ตามคำแนะนำแพทย์

💌 เพราะสุขภาพแม่…คือของขวัญที่มีค่าที่สุด
อย่ารอให้มีอาการ ถึงจะตรวจ
ปีนี้…พาแม่ไปตรวจคัดกรองมะเร็ง ด้วยกันนะคะ 💙

#วันแม่ #ของขวัญวันแม่ #คัดกรองมะเร็ง #รักแม่ตรวจแม่ #สุขภาพแม่สำคัญที่สุด #คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ #คลินิกมะเร็งเชียงใหม่

🚨สูบบุหรี่🚬 เสี่ยงมะเร็งอะไรบ้าง?🚭 รู้หรือไม่? การสูบบุหรี่ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงเฉพาะมะเร็งปอด แต่ยังเกี่ยวข้องกับมะเร็ง...
10/08/2025

🚨สูบบุหรี่🚬 เสี่ยงมะเร็งอะไรบ้าง?

🚭 รู้หรือไม่? การสูบบุหรี่ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงเฉพาะมะเร็งปอด แต่ยังเกี่ยวข้องกับมะเร็งอีกหลายชนิด

เพราะควันบุหรี่มีสารพิษและสารก่อมะเร็งกว่า 60 ชนิด เช่น polycyclic aromatic hydrocarbons (PAHs), nitrosamines, benzene ที่สามารถทำลาย DNA และกระตุ้นให้เซลล์ปกติกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้



📌มะเร็งที่สัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ มีอะไรบ้าง?
1️⃣ระบบทางเดินหายใจ
• มะเร็งปอด
• มะเร็งกล่องเสียง
• มะเร็งช่องปาก, คอหอย, โพรงจมูก

2️⃣ระบบทางเดินอาหาร
• มะเร็งหลอดอาหาร
• มะเร็งกระเพาะอาหาร
• มะเร็งตับอ่อน

3️⃣ระบบทางเดินปัสสาวะ
• มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
• มะเร็งไต และกรวยไต

4️⃣ระบบสืบพันธุ์
• มะเร็งปากมดลูก (ร่วมกับการติดเชื้อ HPV)
• มะเร็งรังไข่ชนิด mucinous

5️⃣ระบบเลือด
• มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด AML



📌กลไกการเกิดมะเร็งจากบุหรี่ คืออะไร?

• สารก่อมะเร็งโดยตรง → ทำให้เกิด DNA adducts และการกลายพันธุ์
• สารก่อมะเร็งหลังถูกเปลี่ยนแปลงในร่างกาย → กระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิดปกติ
• การอักเสบเรื้อรัง → ทำให้เซลล์ต้องซ่อมแซมบ่อย เพิ่มโอกาสเกิดความผิดพลาดใน DNA
• กดภูมิคุ้มกันเฉพาะที่ → ทำให้เชื้อไวรัสก่อมะเร็งทำงานรุนแรงขึ้น



📌 สาระสำคัญ: เลิกบุหรี่ได้เร็วเท่าไหร่ ความเสี่ยงมะเร็งก็จะค่อย ๆ ลดลง แม้เคยสูบมานาน แต่การเลิกสูบยังมีประโยชน์เสมอ



📌แหล่งอ้างอิง
1. U.S. Department of Health and Human Services. The Health Consequences of Smoking—50 Years of Progress. A Report of the Surgeon General, 2014.
2. IARC Monographs on the Evaluation of Carcinogenic Risks to Humans. To***co Smoke and Involuntary Smoking. Vol. 83, 2004.
3. World Health Organization. To***co. Fact sheet, 2023.



💙 การตรวจคัดกรองมะเร็งอย่างสม่ำเสมอช่วยให้พบโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งรักษาได้ง่ายและมีโอกาสหายสูง

🌸คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ
ให้คำแนะนำการตรวจคัดกรองมะเร็งที่เหมาะกับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล โดยแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็ง

🩺นัดคิวปรึกษาแพทย์
🌞วันอาทิตย์ 13.00-15.30น.

☎️ โทร: 065-939-4475
Line ID:

#คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ #คลินิกมะเร็งเชียงใหม่ #เลิกบุหรี่ #บุหรี่กับมะเร็ง #มะเร็งปอด #คัดกรองมะเร็ง

🐟 EPA ตัวช่วยสำคัญ… ชะลอการผอมในผู้ป่วยมะเร็ง📍ภาวะ Cancer Cachexia หรือการน้ำหนักลดและมวลกล้ามเนื้อหายไปในผู้ป่วยมะเร็ง ...
09/08/2025

🐟 EPA ตัวช่วยสำคัญ… ชะลอการผอมในผู้ป่วยมะเร็ง

📍ภาวะ Cancer Cachexia หรือการน้ำหนักลดและมวลกล้ามเนื้อหายไปในผู้ป่วยมะเร็ง เกิดจากการอักเสบในร่างกายและการเผาผลาญพลังงานที่สูงผิดปกติ
แม้จะกินเพิ่ม… แต่น้ำหนักก็ยังลด

📍หนึ่งในสารอาหารที่มีงานวิจัยสนับสนุนว่าช่วยชะลอปัญหานี้ได้คือ EPA (Eicosapentaenoic acid)



✅ EPA คืออะไร?
• เป็นกรดไขมัน โอเมก้า-3 ที่พบมากในปลาทะเลน้ำลึก เช่น แซลมอน ทูน่า ซาร์ดีน
• มีฤทธิ์ ต้านการอักเสบ ลดสารกระตุ้นการสลายกล้ามเนื้อ (IL-6, TNF-α)
• ช่วยให้ร่างกาย คงมวลกล้ามเนื้อ และอาจเพิ่มความอยากอาหารในบางราย



📚 หลักฐานวิจัย
• ESPEN guideline 2020 แนะนำให้พิจารณาเสริม EPA ≥ 1.5–2 กรัม/วัน ในผู้ป่วยที่มีภาวะ cachexia
• Meta-analysis (Clinical Nutrition, 2013) พบว่า EPA อาจช่วยลดการสูญเสียน้ำหนักและเพิ่มคุณภาพชีวิตได้

———-

💡 ตัวอย่างการกินให้ได้ EPA ประมาณ 1.5–2 กรัม/วัน
• ปลาแซลมอนสุก ประมาณ 150–200 กรัม
• หรือ ปลาทูย่าง 2 ตัวกลาง + ซาร์ดีนในน้ำมัน 1 กระป๋อง
• หรือ น้ำมันปลา 3–5 แคปซูล (EPA 300–500 มก./เม็ด)
• หรือ สูตรอาหารทางการแพทย์ที่มี EPA 1–2 ขวด + อาหารปกติ

———

💡 เคล็ดลับการใช้
• ให้ได้ EPA ≥ 1.5–2 g/วัน ตามคำแนะนำของแพทย์
• ดื่มระหว่างมื้ออาหาร เพื่อไม่เบื่ออาหารหลัก
• เลือกสูตรที่ พลังงานสูง + โปรตีนสูง เพื่อเสริมแรงและมวลกาย



⚠️ ข้อควรระวัง
• อาจเพิ่มความเสี่ยงเลือดออกในผู้ที่ใช้ยาต้านเกล็ดเลือด/ยาละลายลิ่มเลือด
• ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคตับหรือไต

❌ EPA ไม่ใช่ยารักษามะเร็ง ❌ไม่สามารถใช้ทดแทนยารักษามะเร็งตามมาตราฐานได้


🏥 คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ
ปรึกษา และ แนะนำสูตรอาหารเสริมที่มี EPA เหมาะสมกับร่างกายและโรคของผู้ป่วยมะเร็ง
เพื่อเสริมพลัง และชะลอภาวะ cachexia อย่างปลอดภัย

🌸คิวปรึกษาแพทย์
🌞วันอาทิตย์ 13.00-15.30น.

☎️ โทร: 065-939-4475
Line ID:

#คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ #คลินิกมะเร็งเชียงใหม่ #อาหารต้านมะเร็ง #อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ #น้ํามันปลา #โอเมก้า3

🌿กัญชาทางการแพทย์ คืออะไร⁉️ ช่วยเพิ่มความอยากอาหารในผู้ป่วยมะเร็ง ได้หรือไม่⁉️(📚วิชาการล้วนๆ เพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้องกั...
09/08/2025

🌿กัญชาทางการแพทย์ คืออะไร⁉️ ช่วยเพิ่มความอยากอาหารในผู้ป่วยมะเร็ง ได้หรือไม่⁉️

(📚วิชาการล้วนๆ เพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้องกับผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์ ❌ไม่มีดราม่าใดๆนะคะ)

🟩 1. กัญชาทางการแพทย์คืออะไร?

กัญชาทางการแพทย์หมายถึงการใช้สารสกัดจาก ต้นกัญชา ซึ่งมีสารออกฤทธิ์หลัก 2 ตัว คือ:
1. THC (Tetrahydrocannabinol)
• มีฤทธิ์กระตุ้นความอยากอาหาร ลดคลื่นไส้ ช่วยให้นอนหลับ

2. (Cannabidiol)
• ไม่มีฤทธิ์กระตุ้นความอยากอาหารโดยตรง
• ช่วยลดอาการวิตกกังวล ปรับอารมณ์ บรรเทาอาการปวด



🧬 2. กลไกการกระตุ้นความอยากอาหารของ THC
• THC จับกับ CB1 receptors ในสมอง (โดยเฉพาะบริเวณ hypothalamus)
• ส่งผลให้กระตุ้น neuropeptide Y (NPY) ซึ่งเป็นสารกระตุ้นความหิว
• ลด pro-inflammatory cytokines เช่น IL-1, IL-6 → ลดอาการ cachexia
• เพิ่มการหลั่ง dopamine → ทำให้รับประทานอาหารแล้วรู้สึกพึงพอใจมากขึ้น



📚 3. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

🔸 Dronabinol (THC สังเคราะห์)
• ได้รับการรับรองจาก FDA ในสหรัฐอเมริกา สำหรับ
• เบื่ออาหารในผู้ป่วยเอดส์
• คลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัดที่ไม่ตอบสนองต่อยากลุ่มอื่น

🔸 เปรียบเทียบกับ Megestrol acetate
• งานวิจัย (Strasser et al., JCO 2006):
• เปรียบเทียบ THC กับ Megestrol ในผู้ป่วย cancer cachexia
• พบว่า Megestrol acetate ให้ผลในการเพิ่มน้ำหนักดีกว่า
• แต่ THC ช่วยด้านความอยากอาหาร และอารมณ์ ได้ในบางกลุ่ม

🔸 Systematic review (Bar-Sela et al., 2020)
• พบว่า THC อาจช่วยเพิ่มการบริโภคอาหารและคุณภาพชีวิต
• แต่ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดเรื่องการเพิ่มน้ำหนักในระยะยาว



🟨 4. รูปแบบที่ใช้ในประเทศไทย
• น้ำมันกัญชาทางการแพทย์ (สูตรขององค์การเภสัชกรรม)
• THC เด่น / CBD เด่น / สัดส่วนผสม 1:1
• ใช้ในรูปแบบ หยดใต้ลิ้น เริ่มจากขนาดน้อยที่สุด เช่น 1-2 หยดก่อนนอน
• ต้องได้รับการดูแลโดยแพทย์ที่ผ่านการอบรม และมีทะเบียนผู้ใช้กัญชาอย่างถูกต้อง



⚠️ 5. ข้อควรระวัง
❌ผลข้างเคียงของ THC:
• ง่วง มึน เวียนศีรษะ ปากแห้ง ใจสั่น
• อารมณ์แปรปรวน หรือในบางรายอาจกระตุ้นอาการทางจิต
❌ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจ, โรคจิตเวช หรือหญิงตั้งครรภ์

✅ใช้เพื่อ บรรเทาอาการ เท่านั้น

❌ ไม่มีข้อมูลกัญชา ในการรักษาโรคมะเร็ง



✅ 6. สรุป
• กัญชาทางการแพทย์ (โดยเฉพาะ THC) อาจช่วยเพิ่มความอยากอาหาร และลดอาการคลื่นไส้จากยาเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็ง
• แต่ผล การเพิ่มน้ำหนักน้อยกว่ายามาตรฐานอย่าง Megestrol acetate
• ควรใช้ร่วมกับโภชนาการที่เหมาะสม และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น

✅ การสั่งจ่ายกัญชาทางการแพทย์ ที่ถูกต้อง
-ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เฉพาะทางที่ผ่านการอบรมหลักสูตรกัญชาทางการแพทย์
-โรงพยาบาลขึ้นทะเบียนคลินิกกัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
-นำ้มันกัญชาขององค์การเภสัช (GPO) ผ่านอย. เพื่อความปลอดภัย และปราศจากสารพิษเจือปน

❌❌ไม่ควรใช้ ใบกัญชาต้มเอง หรือ กัญชาเถื่อน เพราะจะเกิดอันตราย และ เป็นพิษต่อร่างกายได้

#กัญชาทางการแพทย์ #กัญชารักษาโรค #คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ #คลินิกมะเร็งเชียงใหม่

🌸ยาเพิ่มความอยากอาหารในผู้ป่วยมะเร็ง 😊มีอะไรบ้าง?          ผู้ป่วยมะเร็งหลายคน มีปัญหา เบื่ออาหาร น้ำหนักลด หรือ Cancer ...
08/08/2025

🌸ยาเพิ่มความอยากอาหารในผู้ป่วยมะเร็ง 😊มีอะไรบ้าง?

ผู้ป่วยมะเร็งหลายคน มีปัญหา เบื่ออาหาร น้ำหนักลด หรือ Cancer Cachexia
ซึ่งส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรง ฟื้นตัวช้า และตอบสนองต่อการรักษาได้ไม่เต็มที่

😊ในปัจจุบัน มียาหลายกลุ่มที่ใช้ทางการแพทย์เพื่อ กระตุ้นความอยากอาหาร แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ



1️⃣ กลุ่ม Corticosteroids
ตัวอย่าง: Dexamethasone, Prednisolone

✅ ข้อดี:
• กระตุ้นความอยากอาหารได้เร็ว
• ลดคลื่นไส้ อาเจียน จากยาเคมีบำบัด

❌ ข้อจำกัด:
• เหมาะใช้ระยะสั้นเท่านั้น
• เสี่ยงต่อ ภาวะการติดเชื้อ น้ำตาลในเลือดสูง เบาหวาน ความดันสูง และกระดูกบาง 😱



2️⃣ กลุ่ม Progestin (Megestrol acetate)
ตัวอย่าง: Megestrol acetate (Giga®)

✅ ข้อดี:
• เพิ่มความอยากอาหารและน้ำหนักได้ชัดเจน
• มีงานวิจัยยืนยันผลในผู้ป่วยมะเร็งและ HIV-associated cachexia

✅ ข้อบ่งใช้หลัก ของ Megestrol acetate
1. กระตุ้นความอยากอาหารและเพิ่มน้ำหนักในผู้ป่วย มะเร็งระยะลุกลาม
2. ภาวะ HIV-associated cachexia (น้ำหนักลดและกล้ามเนื้อลีบ)

✅ กลไกการออกฤทธิ์
1. กระตุ้นศูนย์ควบคุมความอยากอาหารในสมอง
• เพิ่มการทำงานของ neuropeptide Y ทำให้รู้สึกหิว

2. ลดสารอักเสบ (Cytokine) เช่น TNF‑α และ IL‑6
• ลดการสลายกล้ามเนื้อและไขมัน

3. เพิ่มการสะสมพลังงานและน้ำหนักตัว
• น้ำหนักขึ้นส่วนใหญ่เป็นไขมันและมวลกายรวม

✅ ข้อมูลวิจัยสนับสนุน
📌 Cochrane Review (2005)
• Megestrol acetate ช่วยเพิ่มความอยากอาหารและน้ำหนักได้จริงในผู้ป่วยมะเร็งและ HIV-associated cachexia
• ผู้ป่วย ~25% มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นชัดเจน

📌 J Clin Oncol. 1990;8(10):1558–64
• การใช้ Megestrol 480–800 mg/day ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งกินอาหารได้มากขึ้นและน้ำหนักเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2–4 กก. ใน 2 เดือน
• ผลลัพธ์ดีที่สุดเมื่อใช้ ร่วมกับโภชนาการที่เหมาะสม

✅ ขนาดยาที่ใช้ทั่วไป
• Cancer cachexia: 400–800 mg/day
• Giga® oral suspension 40 mg/mL → 10–20 mL/day
• เริ่มเห็นผลหลังใช้ต่อเนื่อง 2–3 สัปดาห์
• ใช้ตามดุลยพินิจแพทย์และติดตามอาการใกล้ชิด

⁉️ข้อควรระวัง⁉️
🚨ผลข้างเคียง: บวมน้ำ น้ำหนักขึ้นเร็ว ลิ่มเลือดอุดตัน (VTE)
🚨ใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น



3️⃣ กลุ่มอื่น ๆ (ใช้เฉพาะกรณี)
• Mirtazapine → เหมาะกับผู้ป่วยที่มีปัญหานอนไม่หลับและเบื่ออาหาร
• Olanzapine → ช่วยลดคลื่นไส้จากยาเคมีบำบัดและอาจช่วยเพิ่มความอยากอาหารเล็กน้อย
• ใช้ตามดุลยพินิจแพทย์และเป็น off-label use



สรุป
• การเลือกใช้ยากระตุ้นความอยากอาหารขึ้นกับ อาการผู้ป่วย, โรคร่วม และผลข้างเคียงที่ต้องระวัง

• ยา Megestrol acetate (Giga®) มักเป็น ตัวเลือกหลัก เพราะมีข้อมูลวิจัยสนับสนุนชัดเจน

• ควรใช้ ร่วมกับโภชนาการที่เหมาะสม เพื่อฟื้นฟูน้ำหนักและคุณภาพชีวิตผู้ป่วยได้เต็มที่


🌈คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ🌈
พร้อมช่วยประเมินภาวะโภชนาการ ให้คำแนะนำการใช้ยาเพิ่มความอยากอาหารอย่างปลอดภัย

🌸นัดคิวปรึกษาแพทย์
วันอาทิตย์ 13.00-15.30น.

☎️ โทร: 065-939-4475
Line ID:

#คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ #คลินิกมะเร็งเชียงใหม่ #มะเร็งระยะสุดท้าย #มะเร็งระยะลุกลาม

🌸 5 เทคนิค🌸 เรียกความอยากอาหาร ในผู้ป่วยมะเร็ง 🥰ผู้ป่วยมะเร็งหลายคนมักเจอปัญหา เบื่ออาหาร น้ำหนักลด โดยเฉพาะช่วงรับยาเคม...
07/08/2025

🌸 5 เทคนิค🌸 เรียกความอยากอาหาร ในผู้ป่วยมะเร็ง 🥰
ผู้ป่วยมะเร็งหลายคนมักเจอปัญหา เบื่ออาหาร น้ำหนักลด โดยเฉพาะช่วงรับยาเคมีบำบัด
ซึ่งถ้าไม่ได้รับพลังงานและโปรตีนเพียงพอ อาจทำให้ร่างกายอ่อนแรงและฟื้นตัวช้าลง

ลองใช้ 5 เทคนิคนี้ เพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร โดย ไม่ต้องพึ่งยา 👇



1️⃣ จัดมื้ออาหารเล็ก ๆ แต่บ่อยครั้ง
• แทนที่จะกิน 3 มื้อใหญ่ ให้ปรับเป็น 5–6 มื้อย่อยต่อวัน
• แต่ละมื้อให้เน้นอาหารพลังงานสูงและย่อยง่าย เช่น ข้าวต้มปลา ไข่ตุ๋น สมูทตี้ผลไม้



2️⃣ ปรับรสชาติและกลิ่นให้น่ากินขึ้น
• เลือกรสชาติที่ผู้ป่วยชอบ เช่น หวานอ่อน ๆ หรือเค็มนิด ๆ
• ใช้เครื่องเทศอ่อน ๆ เช่น ขิง มะนาว ตะไคร้ เพื่อกระตุ้นกลิ่นอาหารให้ชวนกินมากขึ้น



3️⃣ เลือกอาหารที่มีสีสันสวยงาม
• อาหารสีสด เช่น ฟักทอง แครอท บรอกโคลี หรือผลไม้สีสันหลากหลาย
• สีสันช่วยกระตุ้นความอยากอาหารและทำให้รู้สึกดีขึ้นเวลาเห็นจานอาหาร



4️⃣ เสริมอาหารทางการแพทย์ถ้ากินได้น้อย
• ใช้ สูตรอาหารโปรตีนสูง/พลังงานสูง
• สามารถปั่นผสมผลไม้หรือเวย์โปรตีนเพิ่มความอร่อยและพลังงาน



5️⃣ สร้างบรรยากาศการกินที่ผ่อนคลาย
• เปิดเพลงเบา ๆ หรือทานร่วมกับครอบครัว
• จัดโต๊ะอาหารให้สว่างและสะอาดตา ลดความรู้สึกเครียดเวลาอาหาร



✨ สรุป:
เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับพลังงานและโปรตีนเพียงพอ ลดโอกาสน้ำหนักลด และช่วยให้ร่างกายรับมือกับการรักษาได้ดีขึ้น

Tip จากหมอนภาวรรณ: หากปรับอาหารแล้วยังน้ำหนักลด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินภาวะโภชนาการ และพิจารณาแนวทางดูแลเฉพาะบุคคลอย่างปลอดภัย


🌈คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ🌈
ช่วยวางแผนโภชนาการ ให้คำแนะนำ และดูแลผู้ป่วยมะเร็ง เพื่อให้รับมือกับผลข้างเคียงจากการรักษาได้อย่างมั่นใจ

🌸นัดคิวปรึกษาแพทย์
วันอาทิตย์ 13.00-15.30น.

☎️ โทร: 065-939-4475
Line ID:

#คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ #คลินิกมะเร็งเชียงใหม่ #มะเร็งระยะสุดท้าย

🚨🚨 Cancer Cachexia (ภาวะผอมหนังหุ้มกระดูกจากมะเร็ง) คือ อะไร⁉️Cancer cachexia      เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมะเร็งน้ำหนักลดอย่า...
06/08/2025

🚨🚨 Cancer Cachexia (ภาวะผอมหนังหุ้มกระดูกจากมะเร็ง) คือ อะไร⁉️

Cancer cachexia
เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมะเร็งน้ำหนักลดอย่างต่อเนื่อง
สูญเสียมวลกล้ามเนื้อและไขมัน แม้ได้รับพลังงานเพียงพอ

📌สาเหตุและกลไก ของ Cancer Cachexia
เป็นภาวะที่เกี่ยวข้องกับหลายระบบในร่างกายและไม่ได้เกิดจากปัจจัยเดียว สามารถอธิบายได้ดังนี้

สาเหตุหลักของ Cancer Cachexia

• การอักเสบจากภูมิคุ้มกัน: ร่างกายผู้ป่วยมะเร็งจะมีการหลั่งสารไซโตไคน์ (cytokines) เช่น TNF-α, IL-1, IL-6 จากทั้งเนื้อร้ายและเซลล์ภูมิคุ้มกัน ซึงเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การสลายของกล้ามเนื้อและไขมัน

• ปัจจัยจากเนื้องอก: เนื้องอกจะปล่อยสาร เช่น proteolysis-inducing factor (PIF) และ lipid-mobilizing factor (LMF) กระตุ้นการสลายกล้ามเนื้อและไขมันโดยตรง

• การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และสารสื่อประสาท: ทำงานร่วมกับการอักเสบ ส่งผลให้เกิดการสลายมากกว่าการสร้างกล้ามเนื้อและไขมัน
กลไกสำคัญของ Cancer Cachexia

• การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อและไขมัน:
• โปรตีนในกล้ามเนื้อ: มีการสลายโปรตีนในกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น (protein degradation) ผ่านทาง ubiquitin-proteasome pathway และ lysosome pathway รวมถึงการสร้างโปรตีนน้อยลง (protein synthesis ลดลง)
• ไขมัน: มีการสลายไขมัน (lipolysis) ของร่างกาย เพิ่มขึ้น ทำให้น้ำหนักลดเร็ว

• การใช้พลังงานของร่างกาย (Metabolism):
• มีการใช้พลังงานขณะพัก (Resting Energy Expenditure, REE) เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการเผาผลาญพลังงานสูงขึ้น แม้ไม่ได้มีกิจกรรมร่างกายมากขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนและสารจากเนื้องอก เช่น uncoupling proteins (UCPs) ที่เพิ่มการเผาผลาญพลังงานในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อและไขมัน

• การดื้อต่ออินซูลิน:
• ร่างกายมีปัญหาในการใช้น้ำตาลกลูโคส (insulin resistance) ส่งผลให้เซลล์นำกลูโคสไปใช้ได้น้อยลง ร่างกายจึงดึงไขมันและกล้ามเนื้อมาสลายเป็นพลังงานแทน

• เบื่ออาหาร (Anorexia):
• เกิดร่วมจากสัญญาณในสมองที่ได้รับผลจากไซโตไคน์และฮอร์โมน ทำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้น้อยลงร่วมกับร่างกายมีการเผาผลาญมากขึ้น

—————
📌การวินิจฉัย ได้อย่างไร

เกณฑ์วินิจฉัย Cancer Cachexia (ตามเกณฑ์ของ ESPEN / Fearon et al., 2011)

วินิจฉัยได้ถ้ามี ข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้:

• น้ำหนักตัวลดโดยไม่ได้ตั้งใจ ≥5% ในช่วงเวลา 6 เดือน
�หรือ
• ดัชนีมวลกาย (BMI)2%
�หรือ
• มีมวลกล้ามเนื้อลดลง (sarcopenia) โดยวัด skeletal muscle index (ชาย

📣คุณรู้หรือไม่? ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมบางราย* และญาติสายตรง** มีสิทธิ์ตรวจยีนส์ BRCA ฟรี⁉️ จาก สปสช.📌 สำหรับประชาชนไทยทุกสิ...
25/07/2025

📣คุณรู้หรือไม่? ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมบางราย* และญาติสายตรง** มีสิทธิ์ตรวจยีนส์ BRCA ฟรี⁉️ จาก สปสช.

📌 สำหรับประชาชนไทยทุกสิทธิ, อายุ 18 ปีขึ้นไป และมีข้อบ่งชี้ในการตรวจตามเกณฑ์สปสช.

📌ใครบ้างที่เข้าตามเกณฑ์ สปสช.?

✅ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม* ที่มีประวัติดังต่อไปนี้:

1. มะเร็งเต้านมก่อนอายุ 45 ปี

2. เป็นมะเร็งเต้านมอายุ 46–50 ปี ร่วมกับ ข้อใดข้อหนึ่ง:
- มีมะเร็งเต้านมหลายตำแหน่งในข้างเดียวกันหรือคนละข้าง
- มีญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งตับอ่อน หรือ มะเร็งต่อมลูกหมาก

3. เป็นมะเร็งเต้านม ก่อนอายุ 50 ปี ร่วมกับข้อใดข้อหนึ่ง:
-ญาติสายตรง 1 คน เป็นมะเร็งเต้านมก่อนอายุ 50 ปี, มะเร็งเต้านมในผู้ชาย, มะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก
-ญาติสายตรง 2 คน เป็นมะเร็งเต้านม หรือ มะเร็งต่อมลูกหมาก
-คนในครอบครัว 3 คน เป็นมะเร็งเต้านม

4.มะเร็งเต้านมทุกอายุ ที่มีข้อใดข้อหนึ่ง:
-เป็นชนิด Triple Negative
-มะเร็งเต้านมในผู้ชาย

✅ ญาติสายตรงของผู้ป่วยที่ตรวจพบยีน BRCA** เช่น ลูก พี่น้อง พ่อแม่
———

🏥 โรงพยาบาลที่ร่วมโครงการตรวจฟรี ในจังหวัดเชียงใหม่
📍 โรงพยาบาลนครพิงค์
📍 โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

———
🌸คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ🌸
เราช่วยตรวจสอบข้อบ่งชี้ตามเกณฑ์ ให้คำปรึกษา และแนะนำการส่งต่อไปยังรพ.ที่เข้าร่วมโครงการ

นัดคิวปรึกษาแพทย์ วันอาทิตย์ 13.00-16.00 น.
☎️ โทร: 065-939-4475
Line ID:

#คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ #ตรวจยีนมะเร็ง #มะเร็งเต้านม #ตรวจยีนส์มะเร็งเต้านมฟรี #ป้องกันมะเร็ง

🌸🌸มาตรวจยีนส์มะเร็งที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมกันค่ะ🧬มะเร็งที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม: รู้จักให้ลึก เพื่อป้องกันได้ตรงจุดหลายคนอา...
15/07/2025

🌸🌸มาตรวจยีนส์มะเร็งที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมกันค่ะ

🧬มะเร็งที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม: รู้จักให้ลึก เพื่อป้องกันได้ตรงจุด

หลายคนอาจไม่รู้ว่า 5-10% ของมะเร็งทั้งหมด เกิดจาก “พันธุกรรม” หรือ germline mutation
คือการกลายพันธุ์ของยีน ที่ส่งต่อจากรุ่นพ่อแม่ สู่รุ่นลูกได้
ถ้ามียีนเหล่านี้ผิดปกติ → เสี่ยงเกิดมะเร็ง มากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า



🔬 ตรวจอย่างไร?
• ใช้เลือดเพื่อตรวจ DNA
• วิเคราะห์ด้วย Next‑Generation Sequencing (NGS)
• ใช้เวลารอผลตรวจ ~2 สัปดาห์



🩸 ใครควรตรวจ?

✅ มีประวัติมะเร็งในครอบครัว เช่น เต้านม, รังไข่, ลำไส้ใหญ่, มดลูก, ต่อมลูกหมาก
✅ มีญาติเป็นมะเร็งในวัยหนุ่มสาว (

💧 ผู้ป่วยมะเร็งต้องดื่มน้ำเท่าไหร่? ดื่มอย่างไรถึงจะพอ?⸻🔬 ทำไมผู้ป่วยมะเร็งต้องให้ความสำคัญกับน้ำ? • ระหว่าง เคมีบำบัด /...
12/07/2025

💧 ผู้ป่วยมะเร็งต้องดื่มน้ำเท่าไหร่? ดื่มอย่างไรถึงจะพอ?



🔬 ทำไมผู้ป่วยมะเร็งต้องให้ความสำคัญกับน้ำ?
• ระหว่าง เคมีบำบัด / ฉายแสง ร่างกายต้องเผชิญ catabolic stress → การเผาผลาญและสูญเสียน้ำมากขึ้น
• ผลข้างเคียง เช่น อาเจียน, ท้องเสีย, เบื่ออาหาร, ปัสสาวะบ่อย → เพิ่มความเสี่ยงภาวะขาดน้ำ (dehydration)
• การเสริมโปรตีนปริมาณสูง → เพิ่มภาระต่อไต ต้องการน้ำช่วยขับของเสีย (urea, creatinine) ออกทางปัสสาวะ



📊 ปริมาณน้ำที่แนะนำต่อวัน

✅ คำนวณตามสูตรมาตรฐาน:
30–35 mL ต่อน้ำหนักตัว 1 kg/วัน
เช่น:
• 40 kg → 1,200–1,400 mL/วัน
• 50 kg → 1,500–1,750 mL/วัน
• 60 kg → 1,800–2,100 mL/วัน



⚠️ กรณีพิเศษที่ต้องปรับปริมาณน้ำ
🔼 เพิ่มน้ำ → มีไข้สูง, เหงื่อออกมาก, อาเจียน/ท้องเสีย >3 ครั้ง/วัน
🔽 จำกัดน้ำ → ภาวะหัวใจล้มเหลว, ไตวาย, hyponatremia (ต้องทำตามแพทย์สั่งเท่านั้น)



🥤 ชนิดน้ำที่เหมาะสม
• น้ำเปล่า, น้ำซุปใส, น้ำผลไม้เจือจาง (หวานน้อย)
❌หลีกเลี่ยง: น้ำผลไม้เข้มข้น, น้ำหวาน, ชา/กาแฟปริมาณมาก → เพราะเพิ่ม diuresis (ปัสสาวะมากเกิน)



💡 แนวทางดื่มน้ำสำหรับผู้ที่ดื่มยาก
• จิบทีละน้อย 50–100 mL ทุก 1–2 ชั่วโมง แทนการดื่มครั้งละมาก ๆ
• เพิ่มรสชาติเล็กน้อย เช่น เติมเลมอน, ใช้น้ำผลไม้เจือจาง
• นับซุปหรือน้ำแกงเป็นส่วนหนึ่งของน้ำต่อวันได้



🏥 เมื่อไหร่ควรให้ IV Hydration?
• รับทางปากไม่ได้ (กินน้อย, อาเจียนมาก, รู้สึกเพลีย-เวียนหัวจากขาดน้ำ)
• มีอาการขาดน้ำรุนแรง: ปากแห้ง, ความดันต่ำ, BUN/Cr สูง

👉 การให้ IV ต้องประเมินโดยแพทย์และควบคุมอย่างใกล้ชิด



👩‍⚕️ คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ
เรามีบริการ:
✅ ประเมินความเสี่ยงขาดน้ำ ติดตาม lab BUN, Creatinine, Electrolytes
✅ วางแผนโภชนาการ + hydration ทั้งทางปากและ IV
✅ ให้คำปรึกษารายบุคคลโดยแพทย์เฉพาะทาง

📞 นัดหมาย-ปรึกษาได้ที่
☎️ โทร: 065-939-4475
Line ID:

#ผู้ป่วยมะเร็ง #ดื่มน้ำอย่างถูกต้อง #โภชนาการผู้ป่วยมะเร็ง #ให้IVปลอดภัย #คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ #คลินิกมะเร็งเชียงใหม่

ที่อยู่

ถนนวัวลาย
Chiang Mai

เวลาทำการ

13:00 - 16:00

เว็บไซต์

https://collshp.com/drkae

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ คลินิกมะเร็งหมอนภาวรรณ เชียงใหม่ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram