SUDA CHEST Massage

18/08/2024

https://youtu.be/lvAAPM7842w

07/01/2024

ดูรีวิวของ siri care center สถาบัน สร้างครู สร้างงาน สร้างอาชีพ ใน Google Maps

★★★★★ "การนวดหน้าอกที่คุ้มค่าทั้งเงินทั้งเวลา ที่นี้เท่านั้น ต้อง siricarecenter เท่านั้น นวดแบบถึงพังผืดถึงซิลิโค...

13/12/2023

https://www.siri999.com/b/112

รีวิวนวดหน้าอกหลังเสริมสาขาพัทยาโพธิสาร6

02/12/2023

อาการหน้าอกแฝด คือ หน้าอกชิดกันจนเกินไป
จนไม่เห็นร่องหน้าอกค่ะ

🌎 สาเหตุที่เกิดอาการหน้าอกแฝดคือ การที่คุณหมอผ่าตัดเพราะเลาะโพรงกว้างเกิดไป จนทำให้ซิลิโคนวิ่งเข้าหากัน

** วิธีแก้ไข อาการหน้าอกแฝด คือ สามารถแก้ไขได้ โดยการ ให้คุณหมอเย็บโพรง เพื่อไม่ให้ซิลิโคนวิ่งเข้าหากัน และ รักษาแผลให้หาย เพื่อมานวดสลายผังพืด ค่ะ

แต่ถ้าไม่นวดเลย ผังพืดก็จะเกาะรอบโพรง และบริเวณแผลที่เย็บโพรงผังพืดจะเกาะหนาขึ้นค่ะ

🌎🌎 สาเหตุที่หน้าอกชิดเกินไปจนไม่เห็นร่องหน้าอกเลย

** วิธีแก้ไขหน้าอกชิดเกินไป คือ สามารถนวดให้ซิลิโคนขยับออกมาได้ จะทำให้ให้เห็นร่องนมได้ค่ะ

🌻🌻 วิธีการนวด คือ ให้นวดผลักหรือดันซิลิโคนออก ไม่ควรผลักและดันซิลิโคนเข้าค่ะ อาจจะทำให้ซิลิโคนเข้าหากันจนเกินไป

****แนะนำควรนวดเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง อาทิตย์ละครั้งถึงจะเห็นผลและอาการดีขึ้นค่ะ

21/11/2023

https://www.facebook.com/100088392361030/posts/306072899015787/?sfnsn=mo

สารพัดประโยชน์การนวดหน้าอกหลังศัลยกรรม หน้าอกสวยด้วยการเสริมจะสวยนิ่มธรรมชาติ จะต้องมีการดูแลนวดหน้าอ....

21/11/2023

https://www.siri999.com/b/108

พังผืดอันตรายแค่ไหน อาการพังผืดเกาะซิลิโคนจะเกิดขึ้นได้ในกลุ่มของผู้หญิง ที่ทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก เนื่...

18/11/2023

ผลกระทบจาก "แผ่นมาส์กหน้า" ที่คนขายไม่เคยบอกคุณ

การมาส์กหน้าเป็นสิ่งที่เราทุกคนชื่นชอบเพราะเชื่อว่าเป็นการบำรุงผิว ไม่ว่าจะเป็นมาส์กโฮมเมด แผ่นมาส์กหน้าที่ทันสมัยที่สุด หรือมาส์กแบบลอกออก การมาส์กหน้าแต่ละชนิดก็มีข้อดีของตัวเอง อย่างไรก็ตามการใช้แผ่นมาส์กหน้าเหล่านี้เป็นประจำอาจขจัดน้ำมันธรรมชาติของผิวและทำให้สมดุล pH ของผิวเสียไป และทราบหรือไม่ว่าแผ่นมาส์กหน้าที่เรามักนิยมใช้ และมีการใช้บ่อยครั้งนั้นมีผลกระทบอย่างไร ซึ่งผู้ขายไม่เคยบอกเรา

ผลกระทบจากแผ่นมาส์กหน้า
แผ่นมาส์กหน้าเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบบชั่วคราวที่ใช้กระดาษ ผ้า หรือเซลลูโลสที่ชุ่มด้วยเซรั่มเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง แผ่นมาส์กหน้ามีหลากหลายสูตรสำหรับทุกสภาพผิว ตั้งแต่มาส์กที่มี AHA หรือ BHA สำหรับผลัดเซลล์ผิวหยาบไปจนถึงมาส์กเซราไมด์ที่สามารถให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวแห้ง เนื่องด้วยเหตุนี้ทุกสภาพผิวจึงสามารถใช้แผ่นมาส์กหน้าได้ สิ่งสำคัญคือต้องอ่านฉลากและหาสิ่งที่เหมาะกับความต้องการของผิวของคุณ

มาส์กหน้าแบบแผ่นเกาหลีมีส่วนผสมที่สามารถช่วยฟื้นฟูและสมานผิวได้หลายวิธี ให้ความชุ่มชื้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ผลประโยชน์ของมาส์กหน้าแบบแผ่นเกาหลีจะคงอยู่เพียงจนกว่าจะเปียกเท่านั้น เมื่อแผ่นแห้งแล้ว มันสามารถดึงแร่ธาตุและวิตามินทั้งหมดออกจากใบหน้าของคุณ! บางแผ่นมาส์กอาจมีสารเคมี ดังนั้นคุณควรอ่านส่วนผสมอย่างละเอียดก่อนเลือกใช้เสมอ

แม้ว่ามาส์กหน้าแบบแผ่นเกาหลีจะน่าใช้ทุกวัน แต่เราไม่แนะนำให้ทำเช่นนั้น ส่วนผสมบางอย่างในมาส์กอาจทำให้รูขุมขนอุดตันเมื่อใช้ทุกวัน ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะใช้มาส์กหน้าแบบแผ่นเกาหลีสัปดาห์ละครั้ง โดยรวมแล้ว ควรใช้มาส์กหน้าไม่เกินสามครั้งต่อสัปดาห์ หากคุณมีผิวมันคุณอาจต้องการใช้มาส์กหน้าเพียงครั้งเดียวต่อสัปดาห์ และหากคุณมีผิวแห้ง คุณอาจต้องการใช้มาส์กหน้าสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์

13/11/2023

“นวดหน้าอกหลังเสริม” คืออะไร ? คนศัลยกรรมหน้าอกต้องรู้ !

“การศัลยกรรมหน้าอก” ถือเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกหน้าใจให้กับตัวเอง แต่เมื่อศัลยกรรมมาแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าหน้าอกที่ใหญ่ขึ้นนี้ จะสวยได้รูปดั่งธรรมชาติสรรสร้างในทันที สาว ๆ ต้องทำการดูแลตัวเองโดยการ “นวดหน้าอกหลังเสริม” เพิ่มเติมด้วยนั่นเอง

นวดหน้าอกหลังเสริม คืออะไร ?

นวดหน้าอกหลังเสริม คือ การดูแลรักษารูปทรงของหน้าอกหลังจากผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อให้ยังคงสภาพสวยงามคู่กับเราไปตลอด ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นที่ผู้ได้รับการศัลยกรรมหน้าอกต้องปฏิบัติ โดยการนวดหน้าอกหลังจากศัลยกรรมจะช่วยให้หน้าอกของสาว ๆ มีรูปทรงที่สวย กระชับ ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ลดการเกิดพังผืดหดรัดบริเวณซิลิโคน อันเกิดมาจากกลไกทางธรรมชาติของร่างกายที่สร้างพังผืดขึ้นมาเพื่อห่อหุ้มสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายอย่างซิลิโคน นอกจากนี้ยังทำให้หน้าอกนิ่มและฟูขึ้นอีกด้วย

ควรเริ่มนวดตั้งแต่เมื่อไร

เมื่อศัลยกรรมหน้าอกเรียบร้อยแล้ว ศัลยแพทย์หรือพยาบาลผู้ดูแลจะทำการให้คำแนะนำถึงการนวดที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล ซึ่งสามารถนวดด้วยตนเองหรือใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญ (Therapist) ที่ได้รับการรับรองก็ได้ โดยควรเริ่มนวดหลังจากเสริมประมาณ 7 วันหรือเมื่อหายเจ็บแผลแล้ว และหมั่นนวดอย่างต่อเนื่องไปจนถึง 3 – 6 เดือนแรก หลังจากนั้นจึงสามารถปรับความถี่ลงมาได้เป็นประมาณ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้การนวดหน้าอกเป็นประจำสม่ำเสมอจะยิ่งส่งผลดีต่อหน้าอกของคุณมากขึ้น

เมื่อรู้จักการนวดหน้าอกหลังเสริมแบบนี้แล้ว สาว ๆ ก็อย่าลืมปฏิบัติกันอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ เพื่อที่หน้าอกนี้จะได้คงรูปสวยงามอยู่กับเราไปนาน ๆ

06/11/2023

https://www.facebook.com/share/p/dEao7rpQAUsDLFir/?mibextid=ZbWKwL

เจอแบบนี้ห้ามนวดเด็ดขาดนะคะ ทุกคน
ต้องให้แผลแห้งสนิทเลยนะคะ
เนื่องจากแผลหายจุด ห้ามเสี่ยงนวดนะคะ

06/11/2023

https://www.facebook.com/share/p/GF8fZfQUGDfJFojw/?mibextid=ZbWKwL

น่ากลัวมากถ้าพังผืดรัดลูกซิลิโคนแล้ว
เกิดอาการแข็งเป็นหิน ชนิดที่นอนคว่ำแล้วเจ็บ
ยิ่งนวดก็เจ็บ แต่วิธีที่จะช่วยได้คือต้องนวด เท่านั้น

แน่นอนคะ ลูกค้าต้องอดทนจากอาการเจ็บอยู่บ้าง
แต่ห้ามนวดมั่ว ห้ามใช้เท้า ห้ามใช้ศอก ห้ามนวดจนฟกช้ำ

การนวดต้องอยู่ในระดับที่เจ็บแบบพอดีพอไหว
และต้องเข้าถึงพังผืดให้ได้
เพราะถ้านวดแล้วไม่ถึงพังผืด พังผืดไม่คลายตัว
ก็นวดเสียเวลาเปล่าว

แนะนำว่าท่านใดมีอาการเหล่านี้
เข้าตรวจได้ ฟรี ทุกสาขา
รวมถึง ร้านของลูกศิษย์ทั่วประเทศ
เข้าไปตรวระดับพังผืด ฟรีคะ ทั่วประเทศ

04/11/2023

7 อาหารที่ห้ามกินก่อนนอน ถ้าไม่อยากหน้าบวมตอนเช้า

สาวๆ เคยสังเกตกันไหมว่า ตื่นเช้ามาบางวันใบหน้าบวมอย่างไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหน้าบวมในตอนเช้า ก็คือ อาหารที่กินเข้าไปก่อนนอนนั่นเอง ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมอาหาร 7 ชนิดที่ไม่แนะนำให้กินก่อนนอน เพราะอาจทำให้เกิดอาการหน้าบวมในตอนเช้ามาบอกกันค่ะ จะมีอาหารชนิดใดบ้างไปอ่านพร้อมๆ กันเลยค่ะ

1.อาหารหมักดอง
อาหารหมักดอง คือ อาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูงกว่าอาหารสดมากถึง 10 เท่าเลยทีเดียว จึงไม่แปลกที่จะทำให้ใบหน้าของสาวๆ บวมได้ อีกทั้งอาหารหมักดองยังมีสารกันเสียและสีผสมอาหาร ซึ่งใส่เข้าไปเพื่อยืดอายุของอาหาร และเพื่อทำให้อาหารดูมีสีสันน่าทานมากขึ้นด้วย ซึ่งการกินอาหารหมักดองก่อนนอน ไม่เพียงแต่จะทำให้ใบหน้าของสาวๆ บวมในตอนเช้าอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกด้วย

2.อาหารทอดมัน
อาหารทอดมัน คือ อาหารที่มีโซเดียมจากเกลือ และยังเป็นอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูงอีกด้วย ดังนั้นถ้าสาวๆ ไม่อยากให้ใบหน้าบวมในตอนเช้า แนะนำให้หลีกเลี่ยงการกินอาหารทอดมันก่อนนอน เพราะอาหารชนิดนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ใบหน้าบวมในตอนเช้าเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสทำให้สาวๆ อ้วนได้เช่นกัน

3.อาหารแปรรูป
อาหารแปรรูป ไม่ว่าจะเป็นลูกชิ้น ไส้กรอก แฮม หรือเบคอน ล้วนเป็นอาหารที่ได้จากการแปรรูปเนื้อสัตว์ ซึ่งอาหารประเภทนี้มีปริมาณโซเดียมที่สูงมาก ดังนั้นถ้าสาวๆ กินอาหารแปรรูปก่อนนอน นอกจากจะทำให้ใบหน้าบวมในตอนเช้าแล้ว ยังมีโอกาสส่งผลเสียต่อร่างกายสูงมากเลยทีเดียว

4.อาหารแช่แข็ง
อาหารแช่แข็ง คือ อาหารที่มีกระบวนการยืดอายุของอาหารด้วยการใส่โซเดียมในอาหารเข้าไปปริมาณมาก เนื่องจากโซเดียมจะช่วยยืดอายุของอาหารให้อยู่ได้นาน ซึ่งสาวๆ ต่างทราบกันดีอยู่แล้วว่า โซเดียมคือตัวการหลักที่ทำให้ใบหน้าบวมได้ ดังนั้นถ้าหลีกเลี่ยงการกินอาหารแช่แข็งก่อนนอนได้ ก็แนะนำให้ทำกันค่ะ

5.ขนมขบเคี้ยว
ขนมขบเคี้ยวโดยส่วนใหญ่จะมีการใส่ปริมาณเกลือค่อนข้างมาก ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อร่างกายของคนเราได้รับปริมาณโซเดียมที่สูงมาก ก็จะส่งผลให้เซลล์ผิวขาดน้ำโดยอัตโนมัติ ดังนั้นร่างกายจึงต้องพยายามกักเก็บน้ำเอาไว้ในเซลล์ผิว เพื่อป้องกันไม่ให้ขาดน้ำ และนั่นก็จะทำให้เกิดอาการหน้าบวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย

6.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
เชื่อว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป คือหนึ่งในอาหารยอดฮิตที่สาวๆ ชอบกินก่อนนอน เพราะจัดเป็นอาหารที่ช่วยแก้ความหิวในตอนกลางคืน แถมยังทำได้ง่ายอีกด้วย แต่สาวๆ ทราบหรือไม่ว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไม่เพียงแต่จะทำให้ใบหน้าของสาวๆ บวมในตอนเช้าเท่านั้น แต่ยังทำลายสุขภาพของสาวๆ ได้ด้วย ดังนั้นถ้ารู้สึกอยากกินอาหารชนิดนี้ แนะนำให้อดใจกินในตอนกลางวันจะดีกว่า

7.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แน่นอนว่าสายปาร์ตี้จะทำข้อนี้ได้ยาก แต่ถ้าวันไหนมีนัดสำคัญ ก็ไม่แนะนำให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน เพราะเครื่องดื่มชนิดนี้มีส่วนทำให้ร่างกายขาดน้ำ และส่งผลให้ความเข้มข้นของเลือดสูงไปด้วย สิ่งที่ตามมาก็คือ ร่างกายพยายามรักษาสมดุลโดยการดูดน้ำเข้าสู่เส้นเลือดที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนเกิดการสะสมทำให้เกิดอาการบวมตามมานั่นเอง

เอาเป็นว่าเช้าวันไหนมีนัดสำคัญ แนะนำให้สาวๆ หลีกเลี่ยงอาหารทั้ง 7 ชนิดนี้กันนะคะ เพราะถ้าเผลอกินในตอนกลางคืน บอกเลยว่าตื่นเช้ามาพร้อมกับใบหน้าที่บวมอย่างแน่นอน

30/10/2023

อายครีมทาตอนไหนดี มีประโยชน์ยังไง มาหาคำตอบกัน

หากพูดถึงเรื่องการบำรุงผิว หลายคนก็จะคิดถึงการดูแลผิวหน้าให้ชุ่มชื้น และดูแลริ้วรอยเป็นหลัก แต่ก็มักลืมทาอายครีม เพราะคิดว่าสกินแคร์ที่ใช้อยู่ก็สามารถใช้บำรุงผิวรอบดวงตาได้แล้ว แต่อันที่จริงการใช้อายครีมมีประโยชน์มากกว่าการใช้สกินแคร์ทั่วไปมาก ๆ ว่าแต่ทำไมต้องทาอายครีม แล้วอายครีมทาตอนไหน จำเป็นจริงไหม มาไขข้อสงสัยกันเลยค่ะ

ทำไมต้องใช้อายครีม

เชื่อว่าสาว ๆ บางคนอาจจะรู้สึกว่า อายครีมก็เหมือนมอยส์เจอไรเซอร์ทั่วไป แล้วทำไมต้องใช้อายครีมแยกออกมาอีก คำตอบก็คือ อายครีมนั้นจะพิเศษกว่าครีมปกติตรงที่มีความเข้มข้นของสารบำรุงสูง ได้รับการคิดค้นขึ้นโดยเฉพาะเพื่อต่อสู้กับปัญหารอบดวงตาที่มักจะเกิดขึ้นมากกว่าส่วนอื่นบนใบหน้า ทั้งยังมีเนื้อสัมผัสที่หนักกว่าครีมทั่วไป เพื่อล็อกความชุ่มชื้นรอบดวงตาให้ได้มากที่สุด เนื่องจากผิวบริเวณนี้ไม่มีต่อมไขมัน จึงแห้งง่ายกว่าบริเวณอื่นมาก ๆ นอกจากนี้อายครีมยังออกแบบมาให้อ่อนโยนเป็นพิเศษสำหรับผิวรอบดวงตาที่บอบบางมากกว่าส่วนอื่นโดยเฉพาะ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมต้องใช้อายครีม

อายครีมมีประโยชน์ยังไง

แน่นอนว่าการใช้สกินแคร์ที่ออกแบบมาเพื่อผิวเฉพาะจุดย่อมดีกว่าการนำครีมทาหน้ามาทารอบดวงตาอยู่แล้ว เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้ง่าย แต่ประโยชน์ของอายครีมยังมีอีกมากมาย เช่น

ป้องกันริ้วรอยรอบดวงตา - ไม่ว่าจะเป็นเส้นริ้วเล็ก ๆ ความหย่อนคล้อย หรือรอยคล้ำต่าง ๆ ที่จะทำให้เราดูอ่อนล้า แก่กว่าวัย อายครีมช่วยได้ เพราะมักจะมีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระที่ป้องกันริ้วรอยและคงความชุ่มชื้นให้ผิว

ลดเลือนริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นที่มีอยู่ - นอกจากจะป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยแล้ว ยังสามารถทำให้ริ้วรอยที่มีอยู่แล้วดูลดเลือนลงได้ด้วย เนื่องจากความเข้มข้นของอายครีมจะช่วยฟื้นบำรุงผิวรอบดวงตานั่นเอง

ช่วยลดอาการบวม - อาการบวมที่เกิดจากการสะสมของของเหลวอาจเกิดจากสิ่งต่าง ๆ เช่น การอดนอน ภูมิแพ้ และอายุมากขึ้น อายครีมสามารถช่วยลดได้ ทำให้ใบหน้าดูสดใสมากขึ้น

ช่วยลดรอยคล้ำรอบดวงตา - รอยคล้ำใต้ตา หรือที่นิยมเรียกกันว่า รอยแพนด้า จะดูจางลงได้ หากใช้อายครีมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส และช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น

ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้า - ผิวที่ชุ่มชื้นจะแต่งหน้าติดง่ายกว่าผิวที่แห้ง และนอกจากจะเพิ่มความชุ่มชื้นแล้ว อายครีมยังช่วยปรับสีผิวใต้ตาให้เรียบเนียน ลดเลือนจุดด่างดำและรอยบวมได้อย่างดี ทั้งยังช่วยให้ทาคอนซีลเลอร์ได้สม่ำเสมอยิ่งขึ้นด้วย

เสริมเกราะป้องกันผิวที่บอบบาง - ผิวใต้ตาจะเปราะบางและระคายเคืองง่ายกว่าส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า ซึ่งอายครีมจะมีส่วนผสมที่มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับบริเวณนั้นโดยเฉพาะ จึงช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวได้

อายครีมทาตอนไหน

สำหรับสาว ๆ ที่สนใจอยากเริ่มทาอายครีม สามารถทาได้ตั้งแต่เริ่มใช้สกินแคร์เลยค่ะ โดยเฉพาะช่วงอายุ 20+ ไม่จำเป็นต้องมีริ้วรอยก่อนถึงจะทาอายครีม เพราะอายครีมจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ ทั้งยังช่วยปรับสีผิวรอบดวงตาที่เป็นปัญหาของคนนอนน้อยได้ด้วย โดยควรทาอายครีมเป็นประจำทุกวันทั้งเช้าและก่อนนอน

วิธีทาอายครีมที่ถูกต้อง

นอกจากจะทาอายครีมอย่างสม่ำเสมอแล้ว การทาอายครีมให้ถูกวิธีก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยวิธีการทาอายครีมที่ถูกต้อง ควรทำดังนี้

ทาอายครีมก่อนทาสกินแคร์ชนิดอื่น เนื่องจากผิวรอบดวงตามีความบอบบางและซึมซาบได้ยากกว่าส่วนอื่นบนใบหน้า การทาอายครีมเป็นลำดับแรกจึงจะช่วยให้เนื้อครีมซึมซาบลงสู่ผิวได้ดีกว่า

ใช้อายครีมปริมาณ 1 เมล็ดถั่วเขียว แต้มเบา ๆ ที่ใต้ตา จากนั้นใช้นิ้วนางค่อย ๆ แตะเกลี่ยเบา ๆ ให้อายครีมซึมซาบลงสู่ผิว แล้วใช้ครีมที่เหลือบนนิ้วทาให้ทั่วเปลือกตาจากหัวตาไปยังหางตา เพื่อการบำรุงให้ทั่วถึง

จากนั้นจึงบำรุงผิวด้วยเซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์ตามปกติ

ทราบกันแล้วว่าอายครีมทาตอนไหน ประโยชน์ของอายครีมคืออะไร แล้วทำไมจึงต้องทาอายครีม แบบนี้สาว ๆ ต้องเริ่มหาอายครีมมาใช้กันแล้วนะคะ เพื่อผิวรอบดวงตาที่สดใส ไร้ริ้วรอยก่อนวัย จะได้มั่นใจสุด ๆ ไปเลย

ขอบคุณข้อมูลจาก : upcirclebeauty.com, thecut.com, fleurandbee.com