ศูนย์ฟื้นฟูดูแลสุขภาพเซโกะแคร์ สันกำแพง เชียงใหม่ Seiko Care San Kamphaeng

ศูนย์ฟื้นฟูดูแลสุขภาพเซโกะแคร์ สันกำแพง เชียงใหม่ Seiko Care San Kamphaeng ศูนย์ฟื้นฟูดูแลสุขภาพสไตล์ญี่ปุ่น สำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยระยะพักฟื้น

02/10/2025

6 ท่าแก้ “ปวดเมื่อย” ทั่วร่าง #ออฟฟิตซินโดรม
พีซ คลินิกกายภาพบำบัด รักษาอาการปวดเมื่อยตึง

27/09/2025
27/09/2025

7 ท่าแก้ปวด “คอ-บ่า-ไหล่” ง่ายๆ
พีซ คลินิกกายภาพบำบัด รักษาอาการปวดคอบ่าไหล่

24/09/2025

เวลาพูดถึงโรคซึมเศร้า เรามักจะนึกถึงความผิดปกติของสารเคมีในสมอง แต่รู้หรือไม่ ? ว่าสารสื่อประสาท ‘เซโรโทนิน’ ที่สมองใช้ป้องกันโรคซึมเศร้าไม่ได้ถูกผลิตมากที่สุดที่สมอง แต่เป็นที่ ‘ลำไส้’ และผลิตในปริมาณมากถึง 95%
ยิ่งไปกว่านั้นเราอาจไม่เคยนึกมาก่อนว่า 90% ของโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายล้วนมีผลทางใดทางหนึ่งที่มาจากสุขภาพของลำไส้ หรือจุลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้ และกว่า 70% ของระบบภูมิต้านทานในร่างกายก็รวมกันอยู่ที่​ ‘ลำไส้’ ของเรา
ลำไส้ของคนเรามีระบบประสาทเฉพาะตัวที่เรียกว่า Enteric Nervous System หรือ ENS
ซึ่งมีผลต่อการสั่งงานของสมองและพฤติกรรมของคนเรา ประกอบด้วยเซลล์ประสาทกว่า 500 ล้านเซลล์ ซึ่งเซลล์ประสาทหลายร้อยล้านเซลล์ในลำไส้สามารถทำหน้าที่ด้วยตัวเองได้ โดยไม่ต้องรอรับคำสั่งจากสมองหรือไขสันหลัง ไม่ว่าจะเป็นการบีบตัว การหลั่งฮอร์โมนหิว-ฮอร์โมนอิ่ม และการหลั่งเอนไซม์ต่าง ๆ เราจึงเรียกลำไส้ในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘สมองที่ 2’ ของร่างกาย
ลำไส้ยังทำหน้าที่ผลิตสารสื่อประสาทกว่า 40 ชนิด และผลิตสารสื่อประสาทเซโรโทนินมากถึง 95% ซึ่งเซโรโทนินเป็นสารสื่อประสาทสำคัญในการควบคุมอารมณ์ หากมีในระดับที่เหมาะสม จะช่วยปรับความรู้สึกและอารมณ์ในทางบวก ทำให้มีความสุข ความสงบ ใจเย็น มีสมาธิ ไม่หวั่นไหวง่าย นอกจากนี้ เซโรโทนินยังสามารถเปลี่ยนไปเป็นเมลาโทนิน หรือสารเคมีที่ควบคุมวงจรการนอนและการตื่นได้ เมื่อมีปริมาณไม่สมดุลก็จะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคนอนไม่หลับ
ในทุก ๆ วันลำไส้ของเราจะสื่อสารกับสมองผ่านทางเส้นประสาทอัตโนมัติเส้นใหญ่ที่ต่อตรงจากแกนกลางลำตัวขึ้นสู่สมอง หรือที่เรียกว่า ‘เส้นประสาทเวกัส’ ซึ่งลำไส้กับสมองไม่ได้สื่อสารกันเฉพาะเรื่องปากท้อง หรือความหิวความอิ่มเท่านั้น แต่ยังสื่อสารในเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก และการรับรู้ต่าง ๆ ด้วย อาจเรียกได้ว่าลำไส้มีส่วนในการบงการสมอง หรือบงการการแสดงพฤติกรรมต่าง ๆ รวมถึงการตัดสินใจของเราด้วย อย่างที่หลายคนอาจเคยมีความรู้สึกว่าท้องไส้ปั่นป่วน เหมือนมีผีเสื้อบินวนอยู่ในท้อง ในเวลาที่มีความรู้สึกตื่นเต้น ประหม่า หรือวิตกกังวลเกิดขึ้นกับร่างกาย
นอกจากนี้ ในลำไส้ของคนเรายังเต็มไปด้วยจุลินทรีย์ต่าง ๆ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าเซลล์ทั้งหมดในร่างกายรวมกันถึง 10 เท่า คนเรามียีนในร่างกายประมาณ 20,000-25,000 ยีน แต่จำนวนจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในร่างกายเรามีมากถึง 2-20 ล้านยีน
จุลินทรีย์เหล่านี้ทำหน้าที่ช่วยฝึกเม็ดเลือดขาวให้แยกแยะว่าใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู จะได้ไม่ทำลายเซลล์ในร่างกายตัวเอง ช่วยแยกสารอาหาร สังเคราะห์วิตามิน และช่วยควบคุมระบบเผาผลาญ และกระบวนการต่าง ๆ ในระดับโมเลกุลร่างกายอีกนับไม่ถ้วน ยิ่งความหลากหลายของจุลินทรีย์ในลำไส้ลดน้อยลงเท่าไร ยิ่งเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคต่าง ๆ ในร่างกายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงโรคทางจิตประสาท และโรคติดเชื้ออื่น ๆ ด้วย ดังนั้น หากเราไม่มีจุลินทรีย์เหล่านี้อยู่ในร่างกายเลย เราก็อาจจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เช่นกัน
นั่นเป็นสาเหตุให้เมื่อไรก็ตามที่เกิดความผิดปกติขึ้นกับลำไส้ ร่างกายหรือจิตใจของเราก็มักจะป่วยตามไปด้วย ดังนั้น เราจึงควรดูแลลำไส้ให้แข็งแรง สร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ เพื่อสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกาย ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการดูแลสุขภาพพื้นฐานที่เรารู้กันดี อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกินให้ดี เลือกกินผักผลไม้ให้หลากหลาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ การที่เราฝึกหายใจ ทำสมาธิ ฟังเพลง หัวเราะบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงความเครียด หรือแม้กระทั่งการอาบน้ำเย็นก็เป็นการกระตุ้นเส้นประสาทเวกัส และเพิ่มการสื่อสารของระบบประสาทในลำไส้ด้วย
วันนี้เราอาจจะต้องย้อนกลับมามองร่างกายของเราในรูปแบบใหม่ เพราะร่างกายนี้อาจไม่ได้เป็นของเราเท่านั้น แต่เป็นระบบนิเวศขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตมากมายที่อาศัยอยู่ในร่างกายของเรา ถ้าหากวันนี้เราอยากเริ่มต้นใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ไม่เจ็บป่วยทั้งทางกายและทางใจ อาจกลับมาเริ่มต้นง่าย ๆ ที่การดูแลสุขภาพ ‘ลำไส้’ ให้แข็งแรง
◾ อ้างอิง
▪ หนังสือ Healthitude (Healthy + Attitude) สุข (อุดม) คติ โดย นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์

#มนุษย์ต่างวัย #ซึมเศร้า #ลำไส้ #สมองที่2

21/09/2025

คำว่า Longevity กำลังเป็นเทรนด์ที่ถูกพูดถึงกันมากขึ้น และอาจมีภาพจำว่าเป็นเทรนด์การดูแลสุขภาพที่หรูหรา มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก และไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนทั่วไปจะเข้าถึง แต่จริง ๆ แล้วการใช้ชีวิตแบบ Longevity อาจไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะ และสามารถปรับให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของตัวเราเองได้
แต่ความหมายของ Longevity แค่เรามีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถดูแลตัวเอง ใช้ชีวิตประจำวัน และทำกิจกรรมที่ชอบได้ตามปกติในวันที่อายุเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั่นก็นับว่าเป็น Longevity แล้ว โดยที่เราอาจไม่จำเป็นต้องวิ่งตามเทรนด์สุขภาพใหม่ ๆ หรือใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเลยด้วยซ้ำ
จากการศึกษาวิจัยประชากรในพื้นที่บลูโซน 5 แห่งในโลก คือ โอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น, ซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี, นิโคยา ประเทศคอสตาริกา, อิคาเรีย ประเทศกรีซ และโลมาลินดา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่มีประชากรอายุยืนยาวมากกว่า 100 ปี และสุขภาพแข็งแรง พบว่า ปัจจัยหลักมาจากการใช้ชีวิตถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหัวใจสำคัญของการใช้ชีวิตแบบบลูโซน ก็คือ
เคลื่อนไหวในทุกวันให้เป็นเรื่องธรรมชาติ ออกมารับแสงแดด นอนให้เป็นเวลา ตั้งเป้าหมายในชีวิต กินอิ่มประมาณ 80% และกินอาหารจากพืชเป็นหลัก เข้าสังคม เชื่อมต่อกับชุมชน ให้ความสำคัญกับครอบครัว และเลือกวงสังคมหรือกลุ่มเพื่อนที่สนับสนุนการสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดี
ซึ่งไลฟ์สไตล์เหล่านั้นล้วนเป็นรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันที่เราสามารถทำตามได้ และไม่ใช่เฉพาะคนที่อยู่ในพื้นที่บลูโซนเท่านั้นที่สามารถมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดีได้ เพราะในประเทศไทยของเราก็มีตัวอย่างชีวิตแบบนี้ให้เห็น นั่นก็คือ คุณตาสว่าง จันทร์พราหมณ์ วัย 105 ปี คุณตา 5 แผ่นดินที่เพิ่งเริ่มวิ่งอย่างจริงจังในวัย 97 ปี แต่สามารถเป็นเจ้าของรางวัลการแข่งขันกรีฑาระดับโลกได้ และไปคว้ารางวัลมาแล้วหลายสนาม
ทุกวันนี้คุณตายังคงดูแลตัวเองให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจอยู่ทุกวัน เพราะอยากมีชีวิตอยู่ไปถึงอายุ 120 ปี แบบสุขภาพดีและมีความสุข
นี่คือเคล็ดลับการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและอายุยืนในแบบของ ‘ตาสว่าง’ ที่ใคร ๆ ก็ทำตามได้

🔹ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ - ตาสว่างจะตื่นไปออกกำลังกายทุกเช้า โดยจะออกไปเดินตอน 6 โมงเช้า วันละ 1- 2 กิโลเมตร

🔹เข้านอนแต่หัวค่ำ - คุณตาจะไม่นอนดึก ประมาณ 2 ทุ่มคุณตาก็จะเข้านอนแล้ว เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างมีคุณภาพ และฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่

🔹กินดีให้พอดีและเป็นเวลา - ตาสว่างชอบกินอาหารพื้นบ้านง่าย ๆ อย่างน้ำพริก ผักต้ม และแกงไม่ใส่กะทิ เช่น แกงเลียง แกงส้ม ฯลฯ ส่วนของมัน ของทอด แทบจะไม่ได้แตะเลย แต่จะเน้นกินอาหารประเภทโปรตีนที่ย่อยง่าย กินไข่ต้มทุกเช้า และกินผักเพื่อเพิ่มกากใย ส่วนข้าวหรือแป้งให้กินน้อย ๆ โดยเฉพาะในมื้อเย็น

🔹รักษาใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ - ‘ป้าติ๋ม’ ผู้เป็นลูกสาวของตาสว่างเล่าว่า คุณพ่อเป็นคนสุภาพ อารมณ์ดี ไม่ค่อยโมโห หรือเกรี้ยวกราด และไม่ค่อยเก็บเรื่องอะไรมาเครียด
และที่สำคัญคือการงดปัจจัยเสี่ยงที่ทำลายสุขภาพ อย่างการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ด้วยกิจวัตรประจำวันที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แค่เพียงไม่กี่ข้อนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้ตาสว่างอยู่อย่างอายุยืนยาวและมีสุขภาพดีมาจนถึงวัย 105 ปีแล้ว
หัวใจสำคัญของ Longevity คือ การดูแลสุขภาพให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของเรา เลือกทำในสิ่งที่พอดีกับชีวิต ไม่รู้สึกว่าทำแล้วเป็นภาระตัวเองจนเกินไปทั้งในด้านกำลังกายและกำลังทรัพย์ และสำคัญที่สุดก็คือต้องเป็นสิ่งที่ทำแล้วตัวเองรู้สึกดีและมีความสุขที่ได้ทำ ไม่ใช่ทำเพราะว่าคนอื่นเขาทำกัน
จริง ๆ แล้วประเด็นสำคัญของ Longevity อาจไม่ได้อยู่ที่เรื่องของปัจจัยภายนอก อย่างวิธีการ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าอาจเป็นวินัยที่จะดูแลสุขภาพด้วยความตั้งใจและสม่ำเสมอ แบบที่ตาสว่างยังคงออกวิ่งอยู่ในทุก ๆ วัน โดยไม่ได้แข่งกับใครที่ไหน นอกจากหัวใจของตัวเอง
การดูแลสุขภาพเป็นประจำ และเริ่มทำตั้งแต่อายุยังน้อยถือเป็นต้นทุนชีวิตที่ดี ที่จะทำให้เรามีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย แต่การเริ่มต้นดูแลสุขภาพก็ไม่มีคำว่าสายเกินไป และวันที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นก็คือวันนี้

#มนุษย์ต่างวัย #ตาสว่าง #อายุยืน

21/09/2025

วิธี “ทำฝันให้เป็นจริงแบบสนุกๆ”
จากหนังสือชื่อดังในญี่ปุ่น
เวลาพูดถึง “ทำความฝันให้สำเร็จ” เรามักนึกถึงความลำบาก อดทน และเหนื่อยจนเข่าทรุด
แต่หนังสือเล่มนี้ชี้ชัดมากว่า ความสำเร็จอีกแบบคือ
“สนุกไปกับมัน” แล้วให้พลังงานพาเราไปเอง
ผู้เขียนบอกว่าการจะสำเร็จแบบ “สนุก” ต้องมี 2 อย่างเท่านั้น

1) เลือกสิ่งที่ทำแล้ว “ดีดดิ้น”

เวลามีทางเลือก ให้เลือกสิ่งที่ทำแล้วรู้สึก
สนุก ว้าว อยากทำต่อเรื่อย ๆ เพราะโลกยุคนี้
คนจำนวนมากใช้สิ่งที่รักมาเล่าใน YouTube / Instagram / TikTok / Twitter แล้วสำเร็จได้แบบไม่ต้องฝืน
ตัวอย่าง โอตานิ โชเฮย์ นักเบสบอลอาชีพญี่ปุ่น (MVP MLB) เขาบอกตรง ๆ ว่า “ผมเล่นเบสบอลเพราะชอบมาตั้งแต่เด็ก ซ้อมทุกวันก็สนุก” เขาสำเร็จระดับโลกได้เพราะเล่นสิ่งที่รัก ไม่ใช่เพราะกัดฟันทรมาน
เหมือนการปีนเขา จะเลือกเส้นทางโหดก็ได้ หรือเส้นทางสบายก็ได้ แต่ยังไปถึงยอดเหมือนกัน
ถ้าอยากสบาย → ต้องหาให้เจอว่า “สิ่งไหนทำแล้วดีดดิ้น” แล้วทำซ้ำเรื่อย ๆ

แต่ถ้างานปัจจุบัน ยังไม่สนุก ทำยังไง?
-ถ้ามีสิ่งที่รักอยู่แล้ว → กล้าก้าวไปทำเลย
-ถ้ายังไม่มี → ทำงานไปก่อน แล้วใช้เวลาหาสิ่งที่ทำแล้วดีดดิ้น เพราะนั่นคือ “สมบัติล้ำค่า”
2) เรียนจากคนที่สำเร็จแบบสบายมาแล้ว

เมื่อเราทำสิ่งที่รักไปเรื่อย ๆ จะเจอคนที่เรา ปลื้มมาก ๆ
ทันทีที่เจอ → เข้าไปคบ ฟัง ขอคำแนะนำ

เช่น อยากหุ่นลีน → คบคนหุ่นดีแล้วถามวิธีฝึก
กินยังไง ไปยิมที่ไหน
อยากดูดี → ไปถามคนที่แต่งตัวดี ใช้อะไรบ้าง ทำผมกับใคร

ผู้เขียนเองเคยใช้ชีวิตอยู่กับนักลงทุนระดับตำนานญี่ปุ่น
ทาเคดะ วาเฮย์ ถึง 500 คืน
แน่นอนว่าไม่ได้ทำให้กลายเป็นเขา 100%
แต่สิ่งที่ได้คือ ค่านิยม ทัศนคติ และแพตเทิร์นการตัดสินใจ
ที่ติดตัวมา ใช้ต่อยอดกับสิ่งอื่นที่ตัวเองรักได้
แต่ก่อนจะเริ่มทำ 2 ข้อนี้ได้จริง ๆ ผู้เขียนบอกว่า
ต้องมีกุญแจแรกก่อน → “ยกระดับ Self-image”
เพราะชีวิตเราคือผลรวมของภาพที่เรามีต่อตัวเอง
ถ้าภาพนี้ต่ำ เราจะไม่กล้าเริ่ม ไม่กล้าเข้าใกล้โอกาส
อยากเปลี่ยน ต้องเขียนทับจาก “ฉันไม่คู่ควร” → “ฉันทำได้”

วิธีอัปเกรด Self-image
1.โฟกัสสิ่งที่มี
คนที่มองแต่สิ่งที่ขาดจะหมดไฟ แต่คนที่โฟกัสสิ่งที่มี เช่น เวลา แรงกาย ไอเดีย จะมีพลังเริ่มต้น
2.ยอมรับข้อเสีย
เล่าเรื่องเฟลให้คนอื่นฟัง → พอถูกหัวเราะหรือตอบรับ
เราจะให้อภัยตัวเองได้ ข้อเสียบางทีกลายเป็นเสน่ห์
3.ปฏิบัติดีต่อตัวเอง
ชมตัวเอง ลงทุนกับสุขภาพ ภาพลักษณ์ และอารมณ์ดี คนอื่นก็จะสะท้อนกลับมา ทำให้ Self-image สูงขึ้น
4.รับคำชมให้เป็น
อย่าปัดทิ้งคำชม เพราะนั่นคือของขวัญ เริ่มจาก “ขอบคุณ” ง่าย ๆ แล้วฝึกชมตัวเองทุกวัน

เมื่อ Self-image แข็งแรงแล้ว → เราจะกล้าเลือกสิ่งที่ดีดดิ้น และกล้าเรียนจากเมนเตอร์ได้เต็มที่
สุดท้ายแล้ว ความฝันไม่ได้ต้องแลกด้วยน้ำตาเสมอไป
ถ้าคุณเริ่มจาก ภาพที่เห็นค่าตัวเอง → เลือกสิ่งที่ทำแล้ว “ดีดดิ้น” → และเรียนจากคนที่สำเร็จมาแล้ว
ความฝันก็จะใกล้ขึ้น…ในแบบที่ “สนุกและเบาสบาย”

เหลือแค่คุณแล้วล่ะว่าจะเลือกเส้นทางชีวิตแบบไหน
เป็นกำลังใจให้นะครับ

Boom JapanSalaryman

21/09/2025
20/09/2025

นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น Yoshinori Ohsumi ได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ในปี 2016 จากการค้นพบกลไกของการกลืนกินตัวเองของเซลล์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เซลล์ "กินตัวเอง" เพื่อรีไซเคิลส่วนประกอบที่เสียหาย กลไกนี้ช่วยรักษาสุขภาพของเซลล์และเกี่ยวข้องกับการกำจัดบางส่วนของเซลล์ที่ป่วย เก่า หรือเสียหาย ซึ่งอาจนำไปสู่โรคต่างๆ เช่น อัลไซเมอร์หรือมะเร็ง การค้นพบของเขาเปิดทางใหม่ในการเข้าใจและรักษาโรคหลากหลายประเภท

เซโกะแคร์ วิลล่า🍁บ้านพักผู้สูงอายุสไตล์ญี่ปุ่น 🏡🇯🇵ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้สูงวัยอย่างแท้จริง 🌿บรรยากาศเ...
19/09/2025

เซโกะแคร์ วิลล่า🍁
บ้านพักผู้สูงอายุสไตล์ญี่ปุ่น 🏡🇯🇵
ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้สูงวัยอย่างแท้จริง

🌿บรรยากาศเงียบสงบ อบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน รายล้อมด้วยธรรมชาติ
🌿 ห้องพักกว้างขวาง ปลอดโปร่ง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
🌿 ห้องน้ำและสิ่งก่อสร้างออกแบบตามมาตรฐานญี่ปุ่น เน้นความปลอดภัยสูงสุด
🌿 ทีมผู้ดูแลมากประสบการณ์ พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิดดุจญาติ

เพราะเรารู้ว่าทุกท่านคือคนสำคัญ…
ที่นี่ไม่ใช่แค่ "บ้านพัก" แต่คือ "บ้านที่เต็มไปด้วยความห่วงใย" ❤️

📞 ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
065-6694622 / 083-9897825

📌 โปรโมชั่นพิเศษ เดือนกันยายน – ตุลาคมค่าบริการจากปกติ 21,900 บาทเหลือเพียง 19,000 บาท✅️สำหรับ 5 ท่านแรก ที่จองสิทธิ์🔸️ด...
17/09/2025

📌 โปรโมชั่นพิเศษ เดือนกันยายน – ตุลาคม
ค่าบริการจากปกติ 21,900 บาท
เหลือเพียง 19,000 บาท✅️
สำหรับ 5 ท่านแรก ที่จองสิทธิ์

🔸️ดูแลด้วยมาตรฐาน ใส่ใจเสมือนคนในครอบครัว
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุของเรา พร้อมทีมงานผู้มีประสบการณ์ด้านการดูแลและฟื้นฟูสุขภาพ มุ่งเน้นให้ผู้สูงอายุได้รับทั้งความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และบรรยากาศที่อบอุ่น

🔸️เพราะเราเชื่อว่าการดูแลที่ดี ควรเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับทุกครอบครัว 🌿

ปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญ • เซโกะแคร์ สันกำแพง •
ปรึกษาฟรีได้ที่‼️👇👇
(Thai/Japanese/English/Chinese)
💌 : infoseikocareskp@gmail.com
☎️ 083-989-7825
065-6694622
FB : Seiko Care San Kamphaeng
📍88 ม.2 ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ 50130

#ดูแลผู้ป่วย
#ศูนย์ฟื้นฟูดูแลสุขภาพเซโกะแคร์
#ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ #ดูแลผู้สูงอายุเชียงใหม่
#ที่พักสำหรับวัยเกษียณมีบริการช่วยเหลือดูแล
#อุปกรณ์ดูแลผู้สูงอายุ
#เซโกะแคร์สันกำแพง

ที่อยู่

88 หมู่2 ตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดChiang Mai
Chiang Mai
50130

เบอร์โทรศัพท์

+66839897825

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ศูนย์ฟื้นฟูดูแลสุขภาพเซโกะแคร์ สันกำแพง เชียงใหม่ Seiko Care San Kamphaengผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง ศูนย์ฟื้นฟูดูแลสุขภาพเซโกะแคร์ สันกำแพง เชียงใหม่ Seiko Care San Kamphaeng:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram