21/09/2025
"คุณพักใจครั้งล่าสุดเมื่อไหร่?"🫂❤️🩹
ในชีวิตประจำวันที่เต็มไปด้วยงานที่ต้องรับผิดชอบ การบ้านที่ยังค้างอยู่ การประชุมที่ไม่เคยสิ้นสุด รวมถึงความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัวที่ต้องดูแล เรามักเผลอใช้เวลาและพลังงานไปกับสิ่งเหล่านั้นจนหมด โดยลืมไปว่า หัวใจของเราเองก็ต้องการการดูแลไม่ต่างกัน
ลองถามตัวเองดูสิว่า วันนี้คุณได้ให้เวลาหัวใจตัวเองบ้างหรือยัง?
บางครั้ง การพักใจอาจไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ ไม่ต้องรอวันหยุดยาว ไม่ต้องมีสถานที่สวยงาม เพียงแค่ให้พื้นที่เล็ก ๆ กับตัวเองในระหว่างวันก็เพียงพอแล้ว
✅ วันนี้เราจึงอยากชวนทุกคนมาลองใช้วิธีง่ายๆ ในการพักใจ ตามวิธีเหล่านี้
1. ปิดหน้าจอชั่วคราว : ให้สายตาและสมองได้หยุดจากสิ่งรบกวน
2. หายใจลึก ๆ 3 ครั้ง : สัญญาณเล็ก ๆ ที่บอกใจว่า “ฉันอยู่ตรงนี้”
3. เขียนความคิดที่ค้างอยู่ : ระบายออกมาบนกระดาษโดยไม่ต้องสวยงาม
4. ฟังเพลงที่ปลอบใจ : เลือกทำนองที่ทำให้คุณรู้สึกสงบ
5. ลองทำคอลลาจ : ใช้เศษภาพและการจัดเรียงแทนการบอกเล่าด้วยคำ
เพราะที่จริงแล้ว การรู้เท่าทันใจตัวเองไม่ใช่การพยายามควบคุมความคิดให้นิ่งสนิท แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างอ่อนโยน เหมือนการยอมรับว่าท้องฟ้ามีทั้งแดดจัดและฝนพรำได้ในวันเดียวกัน สิ่งสำคัญคือเรารู้ถึง ‘สภาวะ ณ ขณะนั้น’ และเราเลือกได้ว่าจะเดินผ่านมันอย่างไร มันจึงไม่ใช่เพียงแค่การแก้ปัญหา แต่เป็นพื้นที่ที่ใจได้หายใจ ได้ฟังตัวเอง และได้พบเส้นทางใหม่ที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน
ในชีวิตประจำวันที่เต็มไปด้วยงานที่ต้องรับผิดชอบ การบ้านที่ยังค้างอยู่ การประชุมที่ไม่เคยสิ้นสุด รวมถึงความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัวที่ต้องดูแล เรามักเผลอใช้เวลาและพลังงานไปกับสิ่งเหล่านั้นจนหมด โดยลืมไปว่า หัวใจของเราเองก็ต้องการการดูแลไม่ต่างกัน
ลองถามตัวเองดูสิว่า วันนี้คุณได้ให้เวลาหัวใจตัวเองบ้างหรือยัง?
บางครั้ง การพักใจอาจไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ ไม่ต้องรอวันหยุดยาว ไม่ต้องมีสถานที่สวยงาม เพียงแค่ให้พื้นที่เล็ก ๆ กับตัวเองในระหว่างวันก็เพียงพอแล้ว
✅ วันนี้เราจึงอยากชวนทุกคนมาลองใช้วิธีง่ายๆ ในการพักใจ ตามวิธีเหล่านี้
1. ปิดหน้าจอชั่วคราว : ให้สายตาและสมองได้หยุดจากสิ่งรบกวน
2. หายใจลึก ๆ 3 ครั้ง : สัญญาณเล็ก ๆ ที่บอกใจว่า “ฉันอยู่ตรงนี้”
3. เขียนความคิดที่ค้างอยู่ : ระบายออกมาบนกระดาษโดยไม่ต้องสวยงาม
4. ฟังเพลงที่ปลอบใจ : เลือกทำนองที่ทำให้คุณรู้สึกสงบ
5. ลองทำคอลลาจ : ใช้เศษภาพและการจัดเรียงแทนการบอกเล่าด้วยคำ
เพราะที่จริงแล้ว การรู้เท่าทันใจตัวเองไม่ใช่การพยายามควบคุมความคิดให้นิ่งสนิท แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างอ่อนโยน เหมือนการยอมรับว่าท้องฟ้ามีทั้งแดดจัดและฝนพรำได้ในวันเดียวกัน สิ่งสำคัญคือเรารู้ถึง ‘สภาวะ ณ ขณะนั้น’ และเราเลือกได้ว่าจะเดินผ่านมันอย่างไร มันจึงไม่ใช่เพียงแค่การแก้ปัญหา แต่เป็นพื้นที่ที่ใจได้หายใจ ได้ฟังตัวเอง และได้พบเส้นทางใหม่ที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน